สาวๆ หลายคนคงไม่ปฏิเสธว่าการร้อยไหมเป็นอีกหนึ่งการทำศัลยกรรมที่ช่วยให้มีใบหน้าสวยงามอย่างเห็นผล เพราะการเสริมความงามประเภทนี้จะช่วยให้ใบหน้ามีความตึง ดูอ่อนวัยขึ้น ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการฉีดโบท็อกซ์ เรามาดูกันว่านอกจากจะทำให้สวยขึ้นแล้ว การเสริมความงามประเภทนี้มีจุดเด่นเรื่องใด และมีกี่ประเภทกันบ้าง 

การร้อยไหมคือ? 

  ถ้าจะบอกว่าการร้อยไหม คือเทคนิคที่ช่วยยกกระชับใบหน้า รวมถึงฟื้นฟูสภาพผิวที่เกิดจากริ้วรอย อีกทั้งยังสามารถช่วยปรับให้รูปหน้าดูเรียว โดยการใช้ไหมที่สามารถละลายได้เอง ไม่ต้องผ่าตัด มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลี ด้วยวิธีคือการใช้ไหมเส้นเล็กๆ จำนวนมากมาร้อยเป็นตาข่ายบริเวณใต้ผิวหนัง ซึ่งบริเวณที่ทำการศัลยกรรมประเภทนี้ จะถูกกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ซึ่งทำให้ผิวหน้ากระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ และกระตุ้นให้เกิดเซลล์ที่มีการสร้างเส้นใยของคอลลาเจน ซึ่งส่งผลให้เกิดการดึงรั้งผิวหน้า ทำให้เกิดความเต่งตึง กระชับ ทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดมาเลี้ยงบริเวณชั้นผิวหนังเพิ่มขึ้น 

การศัลยกรรมประเภทนี้มีอยู่  3 ประเภท ได้แก่ 

1. ทำด้วยไหม APTOS THREADS หรือ FEATHER - LIFT ซึ่งเป็นไหมประเภทไม่ละลาย จะมีลักษณะเป็นก้างปลา ส่วนที่เป็นก้างปลาจะทำหน้าที่ยึดกับผิวหนัง มีข้อเสียที่ว่าเมื่อเวลาผ่านไป ตัวก้างปลาที่ยึดกับเนื้อเยื่อหลุด หรือก้างหัก จะทำให้ผิวหนังกลับมาเหี่ยว หย่อนคล้อย ซึ่งวิธีการนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมนักในปัจจุบัน 

2. ทำด้วยไหม PDO หรือ ไม่ละลาย วิธีการนี้จะเห็นว่าได้ถูกกล่าวถึงอยู่บ่อยครั้งเพราะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้าง ไม่มีผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อน อีกทั้งยังได้รับการยอมรับในวงการแพทย์เสริมความงามเป็นอย่างมากเช่นกัน (ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรการอาหารและยาทั้งในและต่างประเทศ) ซึ่งการร้อยไหมประเภทนี้ยังมีข้อดีในเรื่องของจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่จะทำให้ผิวดูกระชับ เต่งตึง ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส และไหมจะละลายไปภายใน 6 เดือน แต่ความอ่อนวัย สวยสดชื่นจะอยู่กับคุณนานถึง 2 - 3 ปี 

3. GOLD THREAD หรือ ไหมทอง เป็นการร้อยไหมที่ทำมาจากทองบริสุทธิ์ 99.99% การร้อยไหมประเภทนี้อาจมีข้อจำกัด คือหลังการทำจะต้องเลี่ยงการทำเลเซอร์เพราะการทำเลเซอร์จะส่งผลให้ไหมขาด รวมถึงไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้โลหะด้วย โดยไหมที่ใช้ทำจะมีขนาดประมาณเท่าเส้นผม มีราคาที่สูงกว่าด้วยการทำจากวิธีอื่น แต่ตัวไหมทองจะมีการสลายตัวช้ามาก คือสามารถอยู่ได้นานถึง 8 - 15 ปี เลยทีเดียว