บอกลาปัญหาผิวขาดน้ำ ฟื้นคืนความชุ่มชื้นด้วยการดูแลผิวอย่างถูกวิธี


บอกลาปัญหาผิวขาดน้ำ 
ฟื้นคืนความชุ่มชื้นด้วยการดูแลผิวอย่างถูกวิธี


 
ปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น ขาดน้ำ ดูอ่อนแอและระคายเคืองง่าย เป็นปัญหาผิวเบื้องต้นที่อาจนำมาซึ่งปัญหาผิวอื่นๆ ที่ยากจะแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นความหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง หรือริ้วรอยต่างๆ ดังนั้้นสำหรับใครที่เริ่มมีปัญหาผิวขาดน้ำ หรือผิวขาดความชุ่มชื้น ต้องรีบดูแลผิวโดยด่วน!   

เชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจว่าอาการผิวขาดน้ำและผิวแห้งนั้นเป็นปัญหาเดียวกัน แต่ที่จริงแล้วทั้งสองปัญหามีความแตกต่างกัน ดังนั้นก่อนจะไปดูวิธีดูแลผิวที่ขาดความชุ่มชื้นหรือผิวขาดน้ำ เราลองไปสำรวจความแตกต่างระหว่างผิวแห้งและผิวขาดน้ำกันก่อน

ผิวแห้งและผิวขาดน้ำ แตกต่างกันอย่างไร
● ผิวแห้ง (Dry Skin) เป็นภาวะที่ผิวขาดความมัน เนื่องจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวได้น้อย ส่งผลให้ผิวไม่สามารถกักเก็บความชื้นได้ โดยลักษณะของผิวจะมีความแห้งตึง อาจมีรอยแตก หรือผิวลอกเป็นขุยได้ ซึ่งบริเวณที่มีความแห้งลอกมักจะมีอาการคันและระคายเคืองได้ง่าย อีกทั้งสีผิวบริเวณนั้นจะมีความคล้ำและดูแห้งผาก โดยสาเหตุของผิวแห้งอาจมาจากปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศ การใช้สารเคมี หรือวิธีการดูแลผิวไม่เหมาะสมของแต่ละคน เป็นต้น

● ผิวขาดน้ำ (Dehydrated Skin) เป็นภาวะที่ผิวขาดความชุ่นชื้นหรือขาดน้ำใต้ชั้นผิว ที่จะไปหล่อเลี้ยงเซลล์ใต้ชั้นผิว ซึ่งภาวะของผิวขาดน้ำ ถือเป็นภาวะที่รุนแรงกว่าผิวแห้งทั่วไป โดยลักษณะที่สังเกตเห็นได้ชัดคือ ผิวจะมีความอ่อนล้า แห้งเหี่ยวอย่างมาก ผิวดูซีดและคล้ำแดดได้ง่ายและเห็นริ้วรอยได้ชัดเจน ซึ่งการสูญเสียน้ำจากชั้นผิวหนังจะทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพและขาดการซ่อมแซมตัวเอง อีกทั้งยังส่งผลให้ผิวผลิตน้ำมันบนผิวออกมามากเพื่อชดเชยความชุ่นชื้นที่เสียไปด้วย  

หน้าแห้ง ผิวขาดน้ำห่างไกลความชุ่มชื้น ดูแลอย่างไรดี?
1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เหมาะสม
การเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้นหรือผิวขาดน้ำนั้นมีความสำคัญมาก เพราะหากเลือกใช้ไม่เหมาะกับสภาพผิวอาจจะส่งผลให้ปัญหาผิวนั้นรุนแรงขึ้นได้ โดยควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน มีส่วนผสมที่ช่วยคงความชุ่มชื้น ไม่ทำให้หน้าแห้งตึง หรือสูตรที่มีค่า pH ในระดับกลางหรือด่างเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ทำลายสมดุลของชั้นผิวที่มีความบอบบางเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH เป็นด่างสูง มีส่วนผสมของสารเคมีหรือแอลกอฮอล์จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงก่อให้เกิดปัญหาผิวแพ้และระคายเคืองได้ง่ายมากขึ้น

2. เติมมอยเจอร์ไรเซอร์ให้กับผิว
การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะมอยเจอร์ไรเซอร์มีส่วนช่วยอย่างมากในการฟื้นฟูผิวขาดน้ำ ปกป้องชั้นผิวจากการสูญเสียน้ำ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นยาวนานมากขึ้น และป้องกันการหดตัวของเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ เต่งตึง และป้องกันไม่ให้ผิวแย่ลงไปกว่าเดิม โดยนอกจากจะช่วยบำรุงให้ผิวแข็งแรงและชุ่มชื้นแล้ว มอยเจอร์ไรเซอร์ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยต่างๆ รวมถึงช่วยให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้นด้วย

3. ไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป
แม้จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวและมีส่วนคงความชุ่มชื้น แต่ทุกครั้งที่ล้างหน้า จะมีการทำลายความมันและน้ำมันธรรมชาติที่อยู่บนผิวออกไปด้วย ซึ่งน้ำมันเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวจากการสูญเสียน้ำ เมื่อเกราะป้องกันนี้ถูกชะล้างออกไป ผิวจะสูญเสียน้ำได้ง่ายขึ้น และส่งผลให้ผิวหน้ามีความแห้งกร้าน ระคายเคืองได้ง่าย และเกิดภาวะขาดน้ำมากกว่าเดิมนั่นเอง

4. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย ปริมาณน้ำจึงส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพผิวโดยรวม และยังส่งผลต่อผิวหน้าด้วย การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอจะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ ลดโอกาสผิวขาดน้ำได้ ดังนั้นหากต้องการให้ผิวดูชุ่มชื้นและดูสุขภาพดีขึ้น ควรให้ความสำคัญกับการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ โดยปริมาณน้ำที่ควรได้รับต่อวันคือประมาณ 8 แก้ว หรือประมาณ 1.5-2 ลิตรต่อวัน

5. งดสร้างความระคายเคืองต่อผิว 
การขัดผิว สครับหน้า ลอกหน้า หรือกระทั่งการนวดหน้า แม้จะเป็นขั้นตอนการดูแลผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและช่วยเผยให้ผิวกระจ่างใสมากขึ้น แต่ก็นับเป็นการสร้างความระคายเคืองผิวหน้าด้วยเช่นกัน เพราะการขัดผิวและสครับผิวจะขจัดผิวหนังชั้นนอกสุดออก และกระตุ้นให้ผิวผลิตเซลล์ผิวใหม่ขึ้นแทนที่ ซึ่งมีผลให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่ายขึ้น และสูญเสียความชุ่มชื้นได้มากกว่าเดิมนั่นเอง 

ปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้นและผิวขาดน้ำถือเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย ซึ่งเกิดจากการที่ผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างเพียงพอ แต่ก็ยังนับว่าเป็นปัญหาผิวที่สามารถดูแลรักษาให้ฟื้นคืนได้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวอย่างเหมาะสม การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำร้ายผิว แต่สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาผิวขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้นอย่างหนัก แล้วต้องการฟื้นคืนสุขภาพผิวเร่งด่วน ที่ DSK Clinic เราเป็นคลินิกดูแลสุขภาพผิวชั้นนำ พร้อมวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมฟื้นคืนสุขภาพผิวเฉพาะบุคคล ด้วยหัตถการ Sculptra กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวหน้าดูอิ่มฟู กระชับมากขึ้น ลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ฟื้นคืนผิวให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติอีกครั้ง สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร. 082-162-5359 หรือไลน์ @dskinclinic เรามีแพทย์และทีมงานมากประสบการณ์ที่พร้อมดูแลผิวของคุณในทุกขั้นตอน เพื่อให้ผิวกลับมาสุขภาพดีและคืนความมั่นใจกลับมาให้หนุ่มสาวทุกคนอีกครั้ง




Advertisement