ฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์? ทำความเข้าใจข้อแตกต่างก่อนตัดสินใจฉีด



ฟิลเลอร์ (Filler) และ โบท็อกซ์ (Botox) เป็นการทำหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่มีความแตกต่างกันทั้งในแง่ของส่วนประกอบ การทำงาน และผลลัพธ์ที่ได้ ดังนี้ค่ะ:

1. ฟิลเลอร์ (Filler)
ฟิลเลอร์คือสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเพื่อเพิ่มปริมาตรหรือเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการ เช่น ร่องแก้ม ริมฝีปาก คาง หรือใต้ตา ทำให้บริเวณนั้นดูอิ่มฟูและอ่อนเยาว์มากขึ้น ส่วนประกอบของฟิลเลอร์ส่วนใหญ่มักเป็น กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกาย ฟิลเลอร์มีผลในการ เพิ่มปริมาตรและเติมเต็ม พื้นที่ที่สูญเสียความอวบอิ่มไปตามวัยหรือปัจจัยต่างๆ โดยฟิลเลอร์จะทำให้บริเวณที่ฉีดมีความเต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติทันที และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลรักษา

ใช้เพื่อ:
+ เติมเต็มบริเวณที่มีร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา
+ ปรับรูปหน้า เช่น เพิ่มความอวบอิ่มของริมฝีปากหรือคาง
+ ยกกระชับหรือเติมเต็มในบริเวณที่มีการหย่อนคล้อย

2. โบท็อกซ์ (Botox)
โบท็อกซ์เป็นสารที่สกัดจากโปรตีนที่มีชื่อว่า Botulinum Toxin ซึ่งจะทำงานโดยการยับยั้งการส่งสัญญาณจากเส้นประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อที่ถูกฉีดเข้าไป หยุดการหดเกร็ง ชั่วคราว ส่งผลให้ริ้วรอยต่างๆ ดูเรียบเนียนขึ้น ซึ่งโบท็อกซ์จะได้ผลดีสำหรับริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์หรือการขยับกล้ามเนื้อ เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา หรือรอยย่นระหว่างคิ้ว ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ในประมาณ 3-7 วันหลังฉีด และคงอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน

ใช้เพื่อ:
+ ลดริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ เช่น รอยตีนกา รอยย่นหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว
+ ลดขนาดกรามเพื่อปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น
+ ลดเหงื่อในบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก เช่น รักแร้

สรุปความแตกต่าง


ทั้งสองวิธีนี้ต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ




Advertisement