ดินสอพอง ตัวชูโรงความสวยภาคกลาง
สำหรับภาคกลางนั้น ถือว่ามีดินสอพองเป็นตัวชูโรง เพราะมีการทำดินสอพองเพื่อใช้ในตำรับความงามต่างๆ มากมายแพร่หลาย ซึ่งที่ถือว่ามีคุณภาพมากก็คือ ดินสอพอง จ.ลพบุรี โดยชายไทยในอดีตนั้น จะใช้ดินสอพองผสมกับน้ำอบไทยหรือน้ำปรุง ประพรมผิวหน้าและผิวกาย เพื่อความสดชื่น หอมเย็นชื่นใจ แต่ผลพลอยได้ก็คือเป็นชายที่มีผิวพรรณงดงาม
ขณะที่สาวโบราณก็จะใช้ดินสอพองผัดหน้า ขัดผิว โดยตำรับเด่นๆ ที่นิยมใช้จนถึงทุกวันนี้คือ ดินสอพองผสมขมิ้นและมะขามเปียก ขัดหน้าขัดผิว ช่วยให้ผิวพรรณสดใสสวยงาม หรือใช้ดินสอพองผสมขมิ้น ลิ้นทะเล และพิมเสน ใช้ลอกฝ้า เป็นต้น
ทั้งนี้ นอกจากดินสอพองจะถูกนำมาใช้เพื่อความสวยงามด้านผิวพรรณเป็นหลักแล้ว ในด้านการรักษาโรคทางผิวหนังก็เป็นที่นิยมไม่ใช่น้อย เช่น การนำดินสอพองมาผสมกับมะนาว ช่วยขจัดสิวเสี้ยน และลดอาการปวดบวมจากการอักเสบเขียวช้ำ หรือการนำมาผสมกับใบทองพันชั่ง ก็มีสรรพคุณชั้นเยี่ยมในการรักษากลากเกลื้อนได้เช่นกัน
ภูมิปัญญาสมุนไพร สวยใสแบบอีสาน
สมุนไพรกับคนอีสานดูจะเป็นสิ่งที่ควบคู่กันมาช้านาน ทั้งในเรื่องของการกิน ดื่ม หรือกระทั่งใช้เพื่อการบำรุงความสวยงาม โดยสมุนไพรยอดนิยมของคนอีสานก็มีมายมายหลายชนิด และแต่ละชนิดก็มีสรรพคุณชั้นเยี่ยมยอดต่อผิวพรรณทั้งนั้น เช่น ใบผักโหม ช่วยลดริ้วรอยแผลเป็น และช่วยให้ผิวนุ่มเนียนขึ้น ว่านเปราะหอม ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และขาวผ่องนุ่มนวลเสมอ ขมิ้นชัน นิยมใช้ทาผิวเพื่อลดการอักเสบของผิว ขณะที่ว่านชักมดลูกและว่านนางคำ เมื่อนำมารวมกันก็จะช่วยให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่นดี หรือผิวเด้งได้
นอกจากนี้ ยังมีการใช้มะขามเปียกละลายน้ำเอาเฉพาะเนื้อพอกผิว ส่วนใบมะขามใช้ต้มอาบเพื่อชำระร่างกายและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขณะที่ใบหนาดก็เป็นอีกสมุนไพรหนึ่งซึ่งใช้ในการดูแลแม่หลังคลอด แต่ก็นิยมนำมาต้มอาบเพื่อรักษาผิวพรรณ อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมการดูแลสุขภาพความงามของคนอีสานนี้ ยังสามารถแต่งเติมด้วยน้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว และสมุนไพรอื่นๆ ได้ตามความชอบของแต่ละบุคคลอีกด้วย
ผิวพรรณงดงามตามแบบชาวเหนือ
คนภาคเหนือนั้นถือว่าเป็นคนที่โชคดี เพราะภูมิอากาศเย็นสบาย ทำให้ผิวพรรณขาวเหลืองใส เป็นที่อิจฉาของคนภาคอื่นไม่น้อย แต่นอกเหนือจากความงามแห่งเผ่าพันธุ์ที่ธรรมชาติบรรจงแต่งเติมให้แล้ว ยังพบว่ามีตำรับและภูมิปัญญาแห่งความงามไม่น้อยหน้าภาคอื่นเช่นกัน โดยเคล็ดลับการดูแลผิวพรรณอย่างง่ายๆ ก็คือ การนำเกสรดอกไม้หลายๆ ชนิด เช่น สารภี พิกุล บุนนาค มาตากแห้งแล้วบดให้ละเอียด นำไปผสมกับน้ำผึ้งป่าจนข้นเป็นเนื้อเดียวกัน จึงใช้ปลายนิ้วขัดเบาๆ ให้ทั่วหน้า
สำหรับผิวกายก็จะนิยมใช้ขมิ้นอ้อย ขมิ้นชัน ว่านนางคำ ไพล และสนาคา บดเป็นผงละเอียด ผสมกับน้ำมะกรูด คนจนเป็นเนื้อเหนียวข้น ใช้ทาทั่วเรือนร่าง จากนั้นให้คลุมด้วยใบตองทิ้งไว้ 10-15 นาที ช่วยทำให้ผิวแลดูสวยใส นอกจากนี้ ยังมีการนำน้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา น้ำมันดอกคำฝอย มาใช้นวดตัวกับน้ำอุ่น เพื่อการดูแลผิวพรรณในโอกาสพิเศษ เช่น การออกเรือน เป็นต้น
เสน่ห์ชาวใต้ สวยใสด้วยวารีบำบัด
ภาคใต้ถือเป็นดินแดนที่มีทะเลล้อมรอบ มีดนตรีและกลิ่นอายแห่งวัฒนธรรมที่เร้าใจ เต็มไปด้วยสีสันแห่งความร้อนแรง แม้แต่รสชาติอาหารก็ยังจัดจ้านไปด้วยเครื่องเทศ ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาในการดูแลสุขภาพ เพราะในเครื่องปรุงที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศร้อนแรงนานาชนิด กลับช่วยในการรักษาสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บด้วย เช่น ขมิ้นชัน ก็ถือเป็นตัวชูโรงที่โดดเด่นมากทั้งในเรื่องอาหารและการดูแลผิวพรรณ อีกทั้งคนใต้ยังชอบแกล้มอาหารด้วยผักพื้นบ้านจำนวนมาก ช่วยให้แข็งแรงและไม่อ้วนอีกต่างหาก
ขณะที่ทะเลที่ล้อมรอบดินแดนภาคใต้นั้น ก็ถือเป็นแหล่งวารีบำบัดในการดูแลรักษาสุขภาพชั้นเยี่ยมเช่นกัน เพราะการที่คนใต้ได้อาบและสัมผัสน้ำทะเลทุกวัน ทำให้มีสุขภาพผิวที่ดี ถึงแม้จะไม่ขาวผ่องเป็นยองใยเฉกเช่นคนภาคอื่นๆ ก็ตาม อีกทั้งยังมีแหล่งน้ำพุร้อนที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จ.กระบี่ ซึ่งในเวลานี้กำลังได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งสปาที่สำคัญของภูมิภาค
ดังนั้น หากนิยามความสวยและสุขภาพดีแบบภาคใต้แล้ว ก็คงไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากความผูกพันแห่งสายน้ำที่เชื่อมโยงในวิถีชีวิตและการดูแลสุขภาพ ซึ่งอาจแตกต่างกับคนในภาคอื่นๆ
สำหรับภาคกลางนั้น ถือว่ามีดินสอพองเป็นตัวชูโรง เพราะมีการทำดินสอพองเพื่อใช้ในตำรับความงามต่างๆ มากมายแพร่หลาย ซึ่งที่ถือว่ามีคุณภาพมากก็คือ ดินสอพอง จ.ลพบุรี โดยชายไทยในอดีตนั้น จะใช้ดินสอพองผสมกับน้ำอบไทยหรือน้ำปรุง ประพรมผิวหน้าและผิวกาย เพื่อความสดชื่น หอมเย็นชื่นใจ แต่ผลพลอยได้ก็คือเป็นชายที่มีผิวพรรณงดงาม
ขณะที่สาวโบราณก็จะใช้ดินสอพองผัดหน้า ขัดผิว โดยตำรับเด่นๆ ที่นิยมใช้จนถึงทุกวันนี้คือ ดินสอพองผสมขมิ้นและมะขามเปียก ขัดหน้าขัดผิว ช่วยให้ผิวพรรณสดใสสวยงาม หรือใช้ดินสอพองผสมขมิ้น ลิ้นทะเล และพิมเสน ใช้ลอกฝ้า เป็นต้น
ทั้งนี้ นอกจากดินสอพองจะถูกนำมาใช้เพื่อความสวยงามด้านผิวพรรณเป็นหลักแล้ว ในด้านการรักษาโรคทางผิวหนังก็เป็นที่นิยมไม่ใช่น้อย เช่น การนำดินสอพองมาผสมกับมะนาว ช่วยขจัดสิวเสี้ยน และลดอาการปวดบวมจากการอักเสบเขียวช้ำ หรือการนำมาผสมกับใบทองพันชั่ง ก็มีสรรพคุณชั้นเยี่ยมในการรักษากลากเกลื้อนได้เช่นกัน
ภูมิปัญญาสมุนไพร สวยใสแบบอีสาน
สมุนไพรกับคนอีสานดูจะเป็นสิ่งที่ควบคู่กันมาช้านาน ทั้งในเรื่องของการกิน ดื่ม หรือกระทั่งใช้เพื่อการบำรุงความสวยงาม โดยสมุนไพรยอดนิยมของคนอีสานก็มีมายมายหลายชนิด และแต่ละชนิดก็มีสรรพคุณชั้นเยี่ยมยอดต่อผิวพรรณทั้งนั้น เช่น ใบผักโหม ช่วยลดริ้วรอยแผลเป็น และช่วยให้ผิวนุ่มเนียนขึ้น ว่านเปราะหอม ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และขาวผ่องนุ่มนวลเสมอ ขมิ้นชัน นิยมใช้ทาผิวเพื่อลดการอักเสบของผิว ขณะที่ว่านชักมดลูกและว่านนางคำ เมื่อนำมารวมกันก็จะช่วยให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่นดี หรือผิวเด้งได้
นอกจากนี้ ยังมีการใช้มะขามเปียกละลายน้ำเอาเฉพาะเนื้อพอกผิว ส่วนใบมะขามใช้ต้มอาบเพื่อชำระร่างกายและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขณะที่ใบหนาดก็เป็นอีกสมุนไพรหนึ่งซึ่งใช้ในการดูแลแม่หลังคลอด แต่ก็นิยมนำมาต้มอาบเพื่อรักษาผิวพรรณ อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมการดูแลสุขภาพความงามของคนอีสานนี้ ยังสามารถแต่งเติมด้วยน้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว และสมุนไพรอื่นๆ ได้ตามความชอบของแต่ละบุคคลอีกด้วย
ผิวพรรณงดงามตามแบบชาวเหนือ
คนภาคเหนือนั้นถือว่าเป็นคนที่โชคดี เพราะภูมิอากาศเย็นสบาย ทำให้ผิวพรรณขาวเหลืองใส เป็นที่อิจฉาของคนภาคอื่นไม่น้อย แต่นอกเหนือจากความงามแห่งเผ่าพันธุ์ที่ธรรมชาติบรรจงแต่งเติมให้แล้ว ยังพบว่ามีตำรับและภูมิปัญญาแห่งความงามไม่น้อยหน้าภาคอื่นเช่นกัน โดยเคล็ดลับการดูแลผิวพรรณอย่างง่ายๆ ก็คือ การนำเกสรดอกไม้หลายๆ ชนิด เช่น สารภี พิกุล บุนนาค มาตากแห้งแล้วบดให้ละเอียด นำไปผสมกับน้ำผึ้งป่าจนข้นเป็นเนื้อเดียวกัน จึงใช้ปลายนิ้วขัดเบาๆ ให้ทั่วหน้า
สำหรับผิวกายก็จะนิยมใช้ขมิ้นอ้อย ขมิ้นชัน ว่านนางคำ ไพล และสนาคา บดเป็นผงละเอียด ผสมกับน้ำมะกรูด คนจนเป็นเนื้อเหนียวข้น ใช้ทาทั่วเรือนร่าง จากนั้นให้คลุมด้วยใบตองทิ้งไว้ 10-15 นาที ช่วยทำให้ผิวแลดูสวยใส นอกจากนี้ ยังมีการนำน้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา น้ำมันดอกคำฝอย มาใช้นวดตัวกับน้ำอุ่น เพื่อการดูแลผิวพรรณในโอกาสพิเศษ เช่น การออกเรือน เป็นต้น
เสน่ห์ชาวใต้ สวยใสด้วยวารีบำบัด
ภาคใต้ถือเป็นดินแดนที่มีทะเลล้อมรอบ มีดนตรีและกลิ่นอายแห่งวัฒนธรรมที่เร้าใจ เต็มไปด้วยสีสันแห่งความร้อนแรง แม้แต่รสชาติอาหารก็ยังจัดจ้านไปด้วยเครื่องเทศ ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาในการดูแลสุขภาพ เพราะในเครื่องปรุงที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศร้อนแรงนานาชนิด กลับช่วยในการรักษาสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บด้วย เช่น ขมิ้นชัน ก็ถือเป็นตัวชูโรงที่โดดเด่นมากทั้งในเรื่องอาหารและการดูแลผิวพรรณ อีกทั้งคนใต้ยังชอบแกล้มอาหารด้วยผักพื้นบ้านจำนวนมาก ช่วยให้แข็งแรงและไม่อ้วนอีกต่างหาก
ขณะที่ทะเลที่ล้อมรอบดินแดนภาคใต้นั้น ก็ถือเป็นแหล่งวารีบำบัดในการดูแลรักษาสุขภาพชั้นเยี่ยมเช่นกัน เพราะการที่คนใต้ได้อาบและสัมผัสน้ำทะเลทุกวัน ทำให้มีสุขภาพผิวที่ดี ถึงแม้จะไม่ขาวผ่องเป็นยองใยเฉกเช่นคนภาคอื่นๆ ก็ตาม อีกทั้งยังมีแหล่งน้ำพุร้อนที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จ.กระบี่ ซึ่งในเวลานี้กำลังได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งสปาที่สำคัญของภูมิภาค
ดังนั้น หากนิยามความสวยและสุขภาพดีแบบภาคใต้แล้ว ก็คงไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากความผูกพันแห่งสายน้ำที่เชื่อมโยงในวิถีชีวิตและการดูแลสุขภาพ ซึ่งอาจแตกต่างกับคนในภาคอื่นๆ