การดูแลส่วนสงวนของผู้หญิง!!


หลักการในการดูแลหนูจุ๋มจิ๋ม ที่ควรจะรู้

เริ่มจากการทำความสะอาดประจำวัน การชำระล้างด้วยน้ำสะอาดธรรมดาก็น่าจะเป็นการเพียงพอแล้ว ยกเว้นว่าคุณจะมีเหงื่อออก อับชื้นมาก จนมีกลิ่นที่ไม่ต้องการ ในกรณีแบบนี้การใช้สบู่เหลวอนามัยอ่อนๆ ที่ไม่ผสมน้ำหอมและแอลกอฮอล์ ก็น่าจะใช้ได้ การชะล้างด้วยน้ำ ถ้าจะใช้สายฉีดชำระ ควรฉีดจากด้านบนลงไป อย่าฉีดล้างสวนขึ้นมา เพราะน้ำที่ไม่สะอาด อาจจะเข้าไปภายในช่องคลอด ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ในกรณีที่มีคราบไคลตามซอกกลีบเนื้อ เนื่องจากต่อมไขมันขับเอาไขมันออกมาเปื้อนปน ก็ให้ใช้น้ำอุ่นชำระล้าง การอาบน้ำจากฝักบัว ก็เพียงพอแล้ว...

หลังจากอาบน้ำ
ชำระร่างกายเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ผ้าเช็ดตัวที่ทำจากผ้าฝ้าย 100% ซึ่งตากแดดจนแห้ง ซับบริเวณส่วนสงวนให้แห้ง ไม่ควรจะเช็ดถู เพราะอาจทำให้เกิดแผลถลอกได้ ทำให้เกิดการระคายเคืองตามมา

ไม่ควรจะโรยแป้งฝุ่นบริเวณอวัยวะส่วนสงวนอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะไม่ทำให้แห้งเหมือนที่คิดแล้ว ยังอาจทำให้เกิดการเกาะเป็นก้อนติดกับขนอ่อนๆ จนเกิดความไม่สะอาดได้ และมีการศึกษาวิจัยพบว่า แป้งฝุ่นดังกล่าว อาจจะถูกดูดเข้าไปภายในช่องคลอดเข้าไปในโพรงมดลูก ท่อนำไข่ และไปตกลงบนรังไข่ ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งของรังไข่มากกว่าคนที่ไม่ได้โรยแป้ง

ไม่ควรจะนุ่งชุดชั้นในนอน โดยเฉพาะถ้าอากาศในห้องนอนถ่ายเทไม่สะดวก เพราะอาจจะทำให้เกิดการอับชื้นจนกระทั่งเป็นเชื้อราได้โดยง่าย และการสวมชุดชั้นในเวลาออกจากบ้านไปทำงาน หรือไปทำธุระ ก็ควรจะใช้ชุดชั้นในที่ทำด้วยผ้าฝ้าย เพราะจะทำให้โปร่งสบาย อากาศถ่ายเทได้สะดวก อวัยวะส่วนสงวนจึงไม่อับชื้น ไม่ควรสวมชุดชั้นในที่รัดแน่นจนเกินไป เนื่องจากจะทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก

ห้ามสวนล้างภายในช่องคลอดด้วยน้ำฆ่าเชื้อ เพื่อต้องการทำความสะอาดโดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะไม่ได้ช่วยอะไรแล้ว ยังอาจจะเป็นอันตรายได้ โดยไม่รู้ตัว ขอเรียนให้คุณผู้หญิงทั้งหลายทราบว่า ภายในส่วนสงวนที่เป็นซอกหลืบในจุดซ่อนเร้นของคุณนั้น โดยปกติแล้ว จะมีแบคทีเรียที่เป็นมิตรต่อคนที่เรียกว่า'แลคโตแบซิลไล' แบคทีเรียที่เป็นมิตรนี้ จะทำหน้าที่เสมือนทหารป้องกันอาณาเขตสงวนของคุณ ไม่ให้โดนเชื้อโรคจากภายนอกบุกโจมตี ดังนั้น การที่คุณผู้หญิงสวนล้างภายในด้วยยาฆ่าเชื้อนั้น แบคทีเรียแลคโตแบซิลไล ที่เป็นมิตรเป็นทหารของคุณก็จะถูกทำลาย ทีนี้เชื้อโรคภายนอกก็เริงร่า ทหารตายหมดแล้ว ข้าศึกก็บุกตามสบาย โดยเฉพาะเจ้าเชื้อรา ซึ่งเป็นเชื้อฉวยโอกาส ดังนั้นแทนที่จะสะอาดเหมือนที่ตั้งใจ อาจจะติดเชื้อรา อักเสบจนคันคะเยอแทนก็ได้...ใครจะรู้!!

จำไว้ว่า น้ำสะอาดเท่านั้นปลอดภัยที่สุด!!

การทำความสะอาดส่วนสงวน...กรณีเฉพาะกิจ

เวลามีประจำเดือนเป็นเวลาที่ผู้หญิงจะอ่อนแอกว่าปกติ และการเหนียวเหนอะเฉอะแฉะ ก็จะเกิดขึ้น ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ อย่าให้ชุ่มแผ่น เพราะถ้าชุ่มแผ่นผ้าอนามัยแล้ว จะทำให้เลือดประจำเดือนที่เปื้อนผิวหนังอ่อนๆ บริเวณส่วนสงวน เกิดอาการระคายเคือง และแพ้ผ้าอนามัยขึ้น การเปลี่ยนผ้าอนามัยก่อนที่จะชุ่มเลือดประจำเดือน จะช่วยลดอาการนี้ได้ และถ้ายังมีอาการระคายเคืองอยู่ การทาด้วยครีมสเตียรอยด์อ่อนๆ จำพวก TRIAMCINOLONE ขนาดความเข้มข้น 0.1% อาจช่วยได้ ในกรณีที่ใช้ผ้าอนามัยชนิดบรรจุกล่องละหลายๆ แผ่น เลือกยี่ห้อที่แบ่งบรรจุแยกเป็นซองๆ จะสะอาดกว่า โดยเฉพาะถ้าต้องเก็บผ้าอนามัยไว้ในบริเวณที่อับชื้น ทางที่ดี ควรเก็บรักษาไว้ในตู้ที่มีความสะอาดไม่อับชื้น จะได้ไม่มีเชื้อราเปื้อนปนมาทำอันตราย

คุณผู้หญิงที่ใช้ผ้าอนามัยชนิดสอด ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง และรักษาความสะอาดอย่างเต็มที่ เพราะถ้าผ้าอนามัยชนิดสอดไม่สะอาด มีแบคทีเรียหรือเชื้อโรคเปื้อนปนแล้ว เลือดประจำเดือนจะเป็นอาหารที่ดีของแบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโต และทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อภายในได้งาย แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบเล่นกีฬาหรือชอบว่ายน้ำ ผ้าอนามัยชนิดสอดจะมีประโยชน์เป็นอย่างมาก

การทำความสะอาดส่วนสงวนเวลามีประจำเดือน ควรจะทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดเท่านั้น ถ้ามีเลือดประจำเดือนเกาะติดขนอ่อนๆ บริเวณนั้น ให้ชะล้างด้วยน้ำอุ่นก็พอ แต่ถ้าไม่มีน้ำอุ่นจะใช้สบู่บ้างก็พออนุโลมได้ แต่ห้ามฉีดน้ำสวนล้างเข้าไปภายในช่องคลอดโดยเด็ดขาด เพราะในเวลามีประจำเดือน ปากมดลูกภายในจะเปิดให้เลือดประจำเดือนไหลออกได้สะดวก ถ้าฉีดน้ำแรงไป น้ำไม่สะอาด อาจไหลย้อนกลับเข้าโพรงมดลูก ไปทำให้เกิดการอักเสบได้

การชำระล้างหลังจากห้วงเวลาแห่งความสุขสมจากการร่วมรักนั้น ถ้ามีน้ำรักของเขาเปื้อนปนแล้ว การล้างด้วยน้ำอุ่นจำเป็นมาก เพราะน้ำเย็นจะทำให้น้ำที่กลั่นมาจากความรักของเขาจับตัวเป็นก้อน ติดกับขนอ่อนๆ เหนือนาแปลงน้อยของคุณ ทำให้หลุดออกไปยาก น้ำอุ่นจะทำให้สิ่งที่เกาะอยู่นั้น หลุดออกไปได้โดยง่าย ในกรณีแบบนี้ ถ้าคุณจะใช้สบู่เหลวอนามัยบ้าง ก็คงจะได้... เลือกกลิ่นอ่อนๆ นะ


Tag :




แสดงความคิดเห็น






Content-Seo


Advertisement