ฤดูร้อนมาเยือนทีไร บรรดาสาวๆ ต้องวุ่นวายใจกับการเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิวตัวเอง แหม! ก็จะไม่ให้ซีเรียสได้ยังไงล่ะคะ เพราะเจ้าแสงแดดนี่แหละ คือศัตรูตัวร้ายที่ทำลายผิวของเราในปัจจุบัน ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจุดด่างดำ รอยเหี่ยวย่น ไปจนถึงสิ่งที่ร้ายแรงที่สุด นั่นก็คือ โรคมะเร็งผิวหนัง
หลายคนให้ความสำคัญกับการปกป้องผิวหน้า จนลืมนึกถึงการปกป้องผิวกายไป เพราะคิดว่าควรจะทาครีมกันแดดปกป้องผิวกายเฉพาะในเวลาที่เราเล่นกีฬากลางแจ้ง หรือเฉพาะในช่วงเวลาหน้าร้อนเท่านั้น ซึ่งความคิดนี้เป็นสิ่งที่ผิดอย่างยิ่ง เราควรที่จะดูแลปกป้องผิวกายจากแสงแดดของเราในทุกๆ วัน เพราะในแสงแดดนั้นมีรังสียูวีเอตัวร้าย ที่ไม่ได้ทำให้ผิวเราไหม้หรือแสบร้อนเหมือนรังสียูวีบี แต่รังสียูวีเอมีผลเสียต่อผิวมากกว่านั้น เพราะมันจะซึมลึกเข้าสู่ผิวชั้นในและมีผลต่อการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้เราผิวคล้ำขึ้น เกิดจุดด่างดำ เกิดริ้วรอยก่อนวัย เพราะแสงแดดจะเข้าไปทำลายคอลลาเจน และอิลลาสทิลในผิว ทำให้เกิดริ้วรอย และความยืดหยุ่นของผิวก็จะลดลด
หากถ้าได้รับมากเกินไป อาจทำให้การสร้างเม็ดสีเมลานินผิดปกติ และก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังตามมาได้ ดังนั้นรังสียูวีเอจึงอันตรายต่อผิวของเรามาก เพราะสามารถทำร้ายผิวของเราได้ทุกวัน แม้จะเป็นวันที่ดูมืดครึ้ม ไร้แดด หรือเวลาที่เราอยู่ในอาคารบ้านเรือนก็ตาม
วิธีการดูแลผิวเพื่อให้พ้นภัยแดดที่ดีที่สุดก็คือ
1.การหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยเฉพาะเวลาที่แดดแรงคือช่วงเวลา 11.00-15.00 น. ควรจะอยู่ในที่ร่ม หรือถ้าจำเป็นต้องออกไปเผชิญแสงแดดก็ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด สวมหมวก และใช้ร่มเพื่อช่วยป้องกันด้วยอีกชั้น
2.ควรปกป้องดวงตาจากแสงแดด โดยการสวมแว่นกันแดดทุกครั้งที่ต้องเจอกับแสงแดดที่รุนแรง
3.ควรทาครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 15 หรือสูงกว่านี้ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน โดยต้องพยายามทำให้เป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวัน
4.หลังออกแดดควรทาบำรุงผิวด้วยโลชัน เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพรรณด้วย ควรเลือกใช้โลชันที่ให้ความรู้สึกเย็นสบายต่อผิว และมีส่วนผสมของวิตามินอี, ว่านหางจระเข้ หรือดอกต้นกระบองเพชร ซึ่งมีคุณสมบัติคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี
วิธีการทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง
1.ควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านอย่างน้อง 20-30 นาที เพื่อที่ครีมกันแดดจะได้แห้งและซึมเข้าสู่ผิว และสามารถปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
2.ถ้าต้องเผชิญกับแสงแดดแรงๆ ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง หรือบ่อยกว่านั้น ถ้าหากคุณว่ายน้ำ หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะครีมกันแดดจะมีปฏิกิริยาต่อแสงแดดทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันลดลง จึงจำเป็นต้องทาครีมกันแดดซ้ำตลอดวัน
3.การทาครีมกันแดดควรทาให้ทั่วทั้งตัว ไม่เน้นจุดใดจุดหนึ่ง โดยเฉพาะจุดที่เรามักจะลืมหรือทายากนั่นคือแผ่นหลัง ด้านหลังขา หรือถ้าเป็นที่ใบหน้า ก็ไม่ควรลืมบริเวณจมูกและหูด้วย
จะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟเท่าไหร่ ถึงจะเหมาะกับผิวของเราที่สุด
ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าเรามีผิวประเภทใด ซึ่งประเภทของผิวนั้นแบ่งออกได้เป็น 5 แบบใหญ่ โดยมีวิธีสังเกตดังนี้
ประเภทที่ 1 พวกที่มีผิวบอบบางมากๆ ผิวจะไหม้ได้ง่ายมาก ผิวจะเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีที่ถูกแสงแดดและลอกออก เป็นพวกที่ไม่สามารถมีผิวสีแทนได้เพราะผิวจะลอกง่ายมากๆ
ประเภทที่ 2 มีผิวบอบบางมากเช่นกัน โดยผิวจะไหม้และเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อโดนแดดสักสักระยะ และผิวจะคล้ำขึ้นในภายหลัง
ประเภทที่ 3 ผิวค่อนข้างบอบบาง โดยผิวมีโอกาสไหม้และเปลี่ยนเป็นสีแดงได้เมื่อโดนแสงแดด แต่จะใช้ระยะเวลานานกว่า 2 ประเภทแรก สามารถมีผิวสีแทนได้แต่จะค่อยๆ แทนขึ้นอย่างช้าๆ แต่จะไม่เข้มมากนัก
ประเภทที่ 4 ผิวบอบบางพอสมควร จะไม่ค่อยเป็นสีแดงเมื่อถูกแดด สามารถมีผิวสีแทนไปจนถึงผิวสีน้ำตาลได้ง่ายๆ
ประเภทที่ 5 ผิวบอบบางน้อยที่สุด ผิวไหม้ยากมาก มีความต้านทานสูง สู้แสงแดดได้นาน ผิวจะมีสีน้ำตาลอยู่เสมอ สามารถเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มได้
ประเภทที่ 6 เป็นผิวที่ทนต่อแสงแดดได้มากที่สุด ไม่มีทางที่ผิวจะไหม้ สีผิวเปลี่ยนได้ยากมาก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่มีผิวสีเข้มจนถึงดำ
เมื่อรู้ว่าตนเองมีผิวแบบใดแล้ว ก็ควรจะเลือกครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟให้เหมาะกับผิวของตนเองมากที่สุด อย่างเช่น ผู้ที่มีผิวบอบบางปานกลาง ใช้ครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 15 ก็เพียงพอ หรือมากกว่านั้นถ้าต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วนผู้ที่มีผิวบอบบางมากๆ หรือเคยได้รับอันตรายจากแสงแดด ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 45 หรือ 60
สำหรับผู้ที่มีผิวที่ทนต่อแสงแดดได้ไม่ใช่ว่าครีมกันแดดนั้นไม่จำเป็นนะอย่างไรก็ควรต้องใช้ครีมกันแดดอยู่ดี เพียงแต่สามารถเลือกครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟไม่สูงมาก อาจจะแค่ 8 หรือ 20 ก็เพียงพอแล้ว เพื่อป้องกันรังสียูวีเอไม่ให้เข้าไปกระตุ้นการทำงานของเมลานินให้ผิดปกติ และก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังในภายหลังได้ ถ้าเป็นเด็กต้องใช้ครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 60 ในการปกป้องผิวเด็กเสมอ ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม และควรเลือกครีมกันแดดสำหรับผิวเด็กโดยเฉพาะด้วย
เพียงเคล็ดลับง่ายๆ เราก็สามารถปกป้องผิวของเราจากอันตรายร้ายแรงจากแสงแดดได้แล้ว อย่าลืมนะว่าควรทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกจากบ้านและหลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะแสงแดดนั้นมีอันตรายมากกว่าที่คุณคิดไว้เยอะทีเดียว!!!!
แสดงความคิดเห็น