วงดนตรีลูกทุ่งเล่นเพลงจังหวะสามช่าดังลั่นวัด เสียงทะลุทะลวงเข้าไปจนแสบแก้วหู ที่สำคัญเสียงมันเสียดแทงประสาทลิ้น จนทำให้กินโต๊ะจีนไม่อร่อยไปด้วย หนุ่มๆไม่ได้สนใจเป็ดยัดไส้เกาลัดตรงหน้าแต่กลับมองเขม็งไปบนเวที จ้องหางเครื่องสาวรุ่นที่แต่งตัวเข้าขั้นที่เรียกว่าโป๊ ซึ่งควรจะไปเต้นตามคาเฟ่กลางแสงไฟสลัว แทนที่จะมาเต้นยั่วยวนกลางวันแสกๆอยู่บนศาลาวัดในงานบวชแห่งนี้

เริ่มต้นจากความกตัญญู
          เด็กสาวอายุไม่เกิน 15 จะว่าเป็นสาวแล้วก็ยังพูดได้ไม่เต็มที่ ถึงแม้จะมีหน้าอกหน้าใจ แต่รูปร่างก็ยังดูไม่เป็นสาวอยู่ดี ส่วนจะว่าเป็นเด็กก็ไม่ใช่เพราะสรีระเริ่มเปลี่ยนไปไม่ใช่เด็กๆอีกต่อไป

          หญิง อายุ 14 ย่าง 15 สมัครมาทำงานเป็นสาวหางเครื่องอยู่วงดนตรีลูกทุ่ง ที่รับงานทุกอยางตั้งแต่งานฉลองวันเกิดยันงานศพ ตามแต่เจ้าภาพจะจัดจ้างในกลุ่มหางเครื่องด้วยกันมีอยู่ 12 คน ที่อายุไม่มากไม่น้อยไปกว่าหญิงเท่าไหร่ เรียนอยู่หลายโรงเรียนในอำเภอเดียวกันที่จังหวัดแถบภาคอีสาน

          หญิงจะทำงานเฉพาะช่วงเวลาที่ไม่กระทบกระเทือน เช่น ตอนกลางคืนหรือไม่ก็วันเสาร์ - อาทิตย์ พ่อแม่ก็สนับสนุนดีเพราะครอบครัวเธอนั้นต้องหาเช้ากินค่ำ แต่สำหรับครูที่โรงเรียนได้ว่ากล่าวตักเตือนเพราะเสื้อผ้าที่ใส่เต้นนั้นล่อแหลมเหลือเกินสำหรับเด็กอายุขนาดเธอ ครูใหญ่เคยเรียกพ่อเธอไปคุยด้วย แต่พอกลับมาบ้าน พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะพ่อไม่เห็นว่าจะเสียหายตรงไหน ถึงแต่งตัวโป๊แค่ไหน ใครเห็นก็เอาไปไม่ได้ แล้วลูกสาวก็ยังเด็ก ยังไม่มีอะไรให้โชว์

พ่อรู้บ้างไหม ลูกสาวไม่เด็กแล้ว
          กลุ่มผู้ชายเพื่อนพระที่ไปร่วมงานเลี้ยงฉลองบวช นั่งโต๊ะหน้าเวทีมองสาวๆหางเครื่องตาเป็นัน อาหารจีนบนโต๊ะนั้นแทบไม่แตะต้องเลยเพราะมันไม่หิว จะหิวก็พวกน้องหนูอกขาวๆพุงเล็กๆที่คนออกแบบเสื้อผ้าเน้นให้ทุกชุดทั้งเปิดล่างเปิดบน หนุ่มบางคนเห็นเด็กผู้หญิงยิ่งอายุน้อยเท่าไหร่ยิ่งชอบ บางคนคุยโวว่าอายุ 12 ก็เคยได้มาแล้ว

          สมเดช หนึ่งในกลุ่มชายที่โต๊ะนี้ ก็เคยจีบเด็กๆพวกนี้ เขารับอาสาพาเธอไปซื้อข้าวของ ให้เงินเธอใช้เพราะรู้ว่าจุดอ่อนของเด็กๆ คือต้องการเงิน ด้วยฐานะทางบ้านไม่ดี หรือไม่ก็อยากได้เสื้อผ้าข้าวของแต่งตัว เพราะทำงานเป็นหางเครื่องอย่างนี้เหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝันที่ต้องสวยงามตลอดเวลา และเป็นจุดเด่นให้คนมอง ฉะนั้นเด็กๆพวกนี้จึงต้องการเครื่องตกแต่งสารพัดอย่างที่ทำให้ตัวเองเป็นสาวเกินวัย

          มีครั้งหนึ่งก็มีครั้งสอง เขานอนกับสาวคนหนึ่ง พอเบื่อก็หาคนใหม่ เพราะคิดว่าสาวๆพวกนี้ซื้อได้ด้วยเงิน แล้วก็ถูกเสียด้วยเพราะพวกเธอก็ยอม เมื่อคิดว่าเขาจะมาจีบเป็นแฟนจริงๆ พอนานวันเข้าเลิกรากันไป เธอก็ไปหาใหม่ ที่จริงมีผู้ชายเข้ามาหาตลอดเวลา และเธอก็ลงเอยแบบเดิม สนุกแล้วยังได้เงินอีก

โอกาสพลาดง่าย ถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมเสี่ยง
          สมเดชรู้สึกถูกชะตาหญิงจึงจ้องมองเธออยู่คนเดียว โดยไม่สนใจหางเครื่องคนอื่นๆ หลังเลิกงานเขาเข้าไปตีสนิท ดูปราดเดียวก็รู้ว่าหญิงนั้นใสซื้อแค่ไหน และยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน เพราะเธอเพิ่งแตกเนื้อสาวได้ไม่ถึงสองปี เขานี่แหละจะเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ

          หญิงชอบเขาและยอมให้ที่อยู่ติดต่อ จนถึงยอมรับนัดกับวันพรุ่งนี้หลังเลิกเรียน เธอนึกถึงคำของต้อยที่มีแฟน 5 คน และสามารถหาเงินได้ง่ายๆจากผู้ชายพวกนั้น เธอยังบอกอีกว่า รายได้ดีกว่าต้องมาเต้น เหนื่อยแทบตายได้ทีละ 200 บาท แต่ต้องยึดอาชีพนี้ไว้เพราะได้แต่งตัวสวยและได้เจอคนเยอะ มีโอกาสจะพบผู้ชายอีกมาก หญิงอาจจะทำอย่างต้อยก็ได้เพราะเพื่อนคนอื่นๆเขาก็ทำกันทั้งนั้น

เลี่ยงได้ ปลอดภัยกว่า
          ความเสี่ยงเกิดขึ้นเสมอกับเด็กสาวอย่างหญิง อนาคตที่อาจจะเรียนไม่จบ เพราะรู้สึกสนุกกับการทำงานที่ได้เงินมาไม่ง่าย อาจจะท้อง ติดโรค ซ้ำร้ายต้องกลายเป็นผู้หญิงขายตัว หรือหญิงอาจจะโชคดีที่การทำงานพิเศษนี้เป็นแค่รายได้เสริมทางหนึ่ง เธอไม่สนใจกับผู้ชายอย่างสมเดชมากนัก ทำงานเก็บเงินแล้วตั้งหน้าตั้งตาเรียน เพื่อหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว

          คำถามมีอยู่ว่า ทำไมหญิงต้องทำงานที่เสี่ยงกับอนาคต ทำไมหญิงไม่เป็นหญิง เด็กหญิงวัย 14 ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ควรอยู่ ทำงานพิเศษอย่างอื่นที่เหนื่อยกว่า แต่ไม่ต้องเอาเรือนร่างที่หน้าอกยังขึ้นไม่เต็มเต้ามาโชว์?????


ที่มา :: Lisa