วันที่ 1-2 รับประทานผักผลไม้ แบบไม่จำกัดปริมาณ
มื้อเช้า กลางวัน และมื้อเย็น (ไม่ควรรับประทานเวลา19.00 น) ให้รับประทานผักผลไม้แบบไม่จำกัดปริมาณ ยกเว้น ทุเรียน กล้วย มะละกอสุก เหตุผลเพราะ ทุเรียน กล้วย จะมีปริมาณแป้งมากกว่าผลไม้ชนิดอื่น ส่วนมะละกอสุก จะมีเอ็มไซน์ชนิดหนึ่งที่ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ท้องเสียได้ดื่มน้ำผัก ผลไม้ หรือ น้ำเปล่าได้ตลอดเวลา
วันที่ 3 รับประทานผักผลไม้ และให้เพิ่มข้าว แต่ไม่มีเนื้อสัตว์
มื้อเช้า ขนมปังโฮลวีท 1-2 แผ่น โดยไม่ทาอะไรเลย และผลไม้
โดยให้เลือกรับประทานอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งจะเลือก ส้ม 2 ผล, กล้วยน้ำว้า 1 ผล หรือมะละกอ 10 ชิ้น
มื้อกลางวัน ข้าวซ้อมมือ 2 ทัพพีปาดเรียบ กับแกงจืด (ไม่ใส่กระเทียมเจียว)หรือแกงส้มที่ไม่ใส่เนื้อสัตว์
1 ถ้วย ให้ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว ก่อนอาหาร และดื่มอีก 1 แก้วหลังอาหารเสร็จ
มื้อเย็น เหมือนมื้อเที่ยง แต่ให้ลดข้าวลงเหลือครึ่งทัพพี
วันที่ 4-7 รับประทานผัก ผลไม้ ข้าวและเพิ่มเนื้อสัตว์นิดหน่อย เช่น กุ้ง ปลาไก่เนื้อล้วน
มื้อเช้า โจ๊กหมู 1 ชามไม่ใส่ไข่
มื้อกลางวัน ขนมจีนน้ำยาป่า 1 จาน แตงโม 1 ชิ้น หรือ น้ำพริกพร้อมผักสด 1จาน ยำผักรวม 1 จานให้ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว ก่อนอาหาร และหลังอาหารอีก 1 แก้ว
มื้อเย็น สลัดทูน่า สลัดไก่ หรือสลัดผัก (ยกเว้น ฟักทอง เผือก ข้าวโพด และ มันฝรั่ง) ใช้น้ำสลัดแบบใสเครื่องดื่ม ให้ดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำผลไม้ไม่ใส่น้ำตาล
ความใฝ่ฝันของคนอ้วนทุกคนคือ อยากผอม ยิ่งสาวๆ หลายคนตั้งใจจะลดน้ำหนักจริงจัง โดยมีมโนภาพว่าตัวเองนั้น กำลังเดินกวัดแกว่ง โยกย้ายส่ายสะโพกอยู่บนแคทวอล์คเหมือนนางแบบในดวงใจ ด้วยแล้ว นับเป็นแรงบันดาลใจที่ได้ผล ถ้ามันช่วยให้คุณลดน้ำหนักสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะสามารถลดน้ำหนัก ได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขอให้ยอมรับในความเป็นจริงของพื้นฐานโครงสร้างรูปร่างที่พูดถึงแต่แรกไว้ด้วย และเพื่อการมีสุขภาพดีหลีกไกลโรคภัยที่มากับความอ้วน