เรื่องของโภชนาการ
1. นึกถึงการบริโภคอาหารที่ "ถูกหลักโภชนาการ" ให้มากที่สุด
อย่าไปเชื่อว่ามีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ ที่จะช่วยให้คุณแข็งแรงได้โดยยังทำตัวเองอดมื้อกินมื้อเพื่ออุทิศตนเป็นคนบ้างาน การวิจัยพบว่า การบริโภคอาหารที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันโรคภัยได้ดีที่สุด และนึกถึงสมดุลของอาหารให้มากๆเวลาจะหยิบอะไรใส่ปาก
2. เริ่มวันใหม่ด้วย "ชา" ทุกเช้า
ชาและน้ำมะนาวอุ่นจัดๆ จะช่วยกระตุ้นระบบการย่อยของคุณให้ตื่นตัวและทำงานได้ดี และเมื่อระบบดังกล่าวมีประสิทธิภาพดี คุณก็จะได้รับคุณค่าทางโภชนาการจากอาหารที่บริโภคเข้าไปอย่างเต็มที่ ชาที่แนะนำให้บริโภคตอนเช้าๆได้แก่ ชาสมุนไพร เช่น ชาเปปเปอร์มินต์ ยี่หร่าและขิง ถ้าหากคุณมีปัญหาเรื่องระบบย่อยหรือมีแก๊สมากเกินไปในกระเพาะอาหาร
3. กินให้น้อยลง
พฤติกรรมการบริโภคอาหารมากเกินความต้องการของร่างกายจะไปกดดันระบบการย่อยมากกว่าจะมีผลดี พยายามรักษาทางสายกลางเข้าไว้
สุขภาพอารมณ์
การหายใจลึกๆยาวๆเป็นการหายใจที่ถูกต้องและช่วยให้จิตใจสงบผ่อนคลายได้มากขึ้น เช่นเดียวกับการมีเซ็กซ์เป็นครั้งคราวประมาณสัปดาห์ละ 1 ถึง 2 ครั้ง จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานร่างกาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีการวิจัยพบว่า หากมีเซ็กซ์เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ กลับจะทำให้ร่างกายทรุดโทรมลงมากกว่า ดังนั้นจะทำอะไรให้เป็นกลางเข้าไว้ดีที่สุด
บริโภคเพื่อสุขภาพ
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักโภชนาการแนะนำให้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสมดุลที่ดีของสุขภาพร่างกาย
วิตามิน
สิ่งจำเป็นที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิต้านทานร่างกาย ที่แนะนำคือ วิตามินเอ ช่วยป้องกันผมร่วงและรักษาแผลบาดเจ็บ วิตามินซี มีคุณสมบัติช่วยป้องกันมะเร็งและต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินอีช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูจากอาการเหนื่อยล้า
แร่ธาตุต่างๆ
ธาตุสังกะสี ช่วยต้านเชื้อโรค เซเลเนียม ช่วยป้องกันมะเร็ง และแคลเซียมช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก
กระเทียม
มีคุณสมบัติในการรักษาโรคตามธรรมชาติ ป้องกันมะเร็งในอวัยวะช่องท้องและโรคหลอดเลือดหัวใจ
โยเกิร์ต
เป็นอาหารที่ช่วยขับไล่การผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกินของร่างกาย ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้หากร่างกายผลิตมาเป็นปริมาณมากเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งได้สูง
มะเขือเทศ
อุดมด้วยสารไลโคพีน ช่วยป้องกันมะเร็งในต่อมลูกหมาก และสารนี้จะมีมากขึ้นในมะเขือเทศที่ผ่านการปรุงสุกแล้ว
น้ำมันมะกอก
ที่มีผลดีต่อไต หัวใจ ความดันโลหิต และเป็นอาหารที่ช่วยในการล้างพิษของร่างกายได้ดีด้วย
ชาเขียว
มีสารต้านอนุมูลอิสระและฟลาโวนอยด์ การวิจัยพบว่า การบริโภคชาเขียววันละ 3 - 4 แก้ว เป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายต้านทานเชื้อแบคทีเรียได้ดีและมีผลต่อความเสี่ยงการเป็นมะเร็งที่ลดลงด้วย
เรื่องของการออกกำลังกาย
ถึงจะมีใครพยายามบอกว่าการออกกำลังเป็นเรื่องดี แต่ที่เราควรรู้คือ หากออกกำลังมากเกินขีดความสามารถของร่างกายกลับจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่า การออกกำลังที่ถูกต้องควรทำให้เมื่อออกกำลังแล้วเรารู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นไม่ใช่อ่อนแรงหรือเหนื่อยจนทำอะไรไม่ไหว นอกจากนี้ หากวันใดที่เหนื่อยกับงานประจำเกินกว่าจะลุกขึ้นออกกำลังตามกิจวัตร ก็ควรนอนพักอยู่บ้านมากกว่าจะออกไปหักโหม
1. นึกถึงการบริโภคอาหารที่ "ถูกหลักโภชนาการ" ให้มากที่สุด
อย่าไปเชื่อว่ามีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ ที่จะช่วยให้คุณแข็งแรงได้โดยยังทำตัวเองอดมื้อกินมื้อเพื่ออุทิศตนเป็นคนบ้างาน การวิจัยพบว่า การบริโภคอาหารที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันโรคภัยได้ดีที่สุด และนึกถึงสมดุลของอาหารให้มากๆเวลาจะหยิบอะไรใส่ปาก
2. เริ่มวันใหม่ด้วย "ชา" ทุกเช้า
ชาและน้ำมะนาวอุ่นจัดๆ จะช่วยกระตุ้นระบบการย่อยของคุณให้ตื่นตัวและทำงานได้ดี และเมื่อระบบดังกล่าวมีประสิทธิภาพดี คุณก็จะได้รับคุณค่าทางโภชนาการจากอาหารที่บริโภคเข้าไปอย่างเต็มที่ ชาที่แนะนำให้บริโภคตอนเช้าๆได้แก่ ชาสมุนไพร เช่น ชาเปปเปอร์มินต์ ยี่หร่าและขิง ถ้าหากคุณมีปัญหาเรื่องระบบย่อยหรือมีแก๊สมากเกินไปในกระเพาะอาหาร
3. กินให้น้อยลง
พฤติกรรมการบริโภคอาหารมากเกินความต้องการของร่างกายจะไปกดดันระบบการย่อยมากกว่าจะมีผลดี พยายามรักษาทางสายกลางเข้าไว้
สุขภาพอารมณ์
การหายใจลึกๆยาวๆเป็นการหายใจที่ถูกต้องและช่วยให้จิตใจสงบผ่อนคลายได้มากขึ้น เช่นเดียวกับการมีเซ็กซ์เป็นครั้งคราวประมาณสัปดาห์ละ 1 ถึง 2 ครั้ง จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานร่างกาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีการวิจัยพบว่า หากมีเซ็กซ์เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ กลับจะทำให้ร่างกายทรุดโทรมลงมากกว่า ดังนั้นจะทำอะไรให้เป็นกลางเข้าไว้ดีที่สุด
บริโภคเพื่อสุขภาพ
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักโภชนาการแนะนำให้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสมดุลที่ดีของสุขภาพร่างกาย
วิตามิน
สิ่งจำเป็นที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิต้านทานร่างกาย ที่แนะนำคือ วิตามินเอ ช่วยป้องกันผมร่วงและรักษาแผลบาดเจ็บ วิตามินซี มีคุณสมบัติช่วยป้องกันมะเร็งและต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินอีช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูจากอาการเหนื่อยล้า
แร่ธาตุต่างๆ
ธาตุสังกะสี ช่วยต้านเชื้อโรค เซเลเนียม ช่วยป้องกันมะเร็ง และแคลเซียมช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก
กระเทียม
มีคุณสมบัติในการรักษาโรคตามธรรมชาติ ป้องกันมะเร็งในอวัยวะช่องท้องและโรคหลอดเลือดหัวใจ
โยเกิร์ต
เป็นอาหารที่ช่วยขับไล่การผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกินของร่างกาย ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้หากร่างกายผลิตมาเป็นปริมาณมากเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งได้สูง
มะเขือเทศ
อุดมด้วยสารไลโคพีน ช่วยป้องกันมะเร็งในต่อมลูกหมาก และสารนี้จะมีมากขึ้นในมะเขือเทศที่ผ่านการปรุงสุกแล้ว
น้ำมันมะกอก
ที่มีผลดีต่อไต หัวใจ ความดันโลหิต และเป็นอาหารที่ช่วยในการล้างพิษของร่างกายได้ดีด้วย
ชาเขียว
มีสารต้านอนุมูลอิสระและฟลาโวนอยด์ การวิจัยพบว่า การบริโภคชาเขียววันละ 3 - 4 แก้ว เป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายต้านทานเชื้อแบคทีเรียได้ดีและมีผลต่อความเสี่ยงการเป็นมะเร็งที่ลดลงด้วย
เรื่องของการออกกำลังกาย
ถึงจะมีใครพยายามบอกว่าการออกกำลังเป็นเรื่องดี แต่ที่เราควรรู้คือ หากออกกำลังมากเกินขีดความสามารถของร่างกายกลับจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่า การออกกำลังที่ถูกต้องควรทำให้เมื่อออกกำลังแล้วเรารู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นไม่ใช่อ่อนแรงหรือเหนื่อยจนทำอะไรไม่ไหว นอกจากนี้ หากวันใดที่เหนื่อยกับงานประจำเกินกว่าจะลุกขึ้นออกกำลังตามกิจวัตร ก็ควรนอนพักอยู่บ้านมากกว่าจะออกไปหักโหม