เรื่องจริงนะ ไม่ได้จริตเสริมแต่งแต่อย่างไร สีชมพูเป็นสีสุดยอดคลาสสิกอยู่แล้ว แต่งได้ทุกโอกาสและทุกฤดูกาลจริงๆ เป็นสีเบสิกที่ยังไงซะผู้หญิงเราก็ต้องมีพกอยู่ในกระเป๋ากันทุกคนแน่นอน แต่อุปสรรคสำคัญที่ทำให้สาวไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะกล้าแต่งสีชมพูเต็มเหนี่ยวนัก ก็เป็นเพราะ เรามักคิดไปเองว่า เมคอัพสีชมพูมันเหมาะกับเพื่อนสาวหน้าหมวยผิวหยวกล้วยมากกว่า ผิวสีน้ำผึ้งของคุณแน่ๆ จริงๆ แล้วเป็นความเชื่อที่ผิดเลยล่ะ คุณต้น-จีรวัฒน์ วรรธนะวิริยะกุล National Make Up Artist จากเครื่องสำอาง Lancome เผยว่าการแต่งสีชมพูไม่ได้เหมาะกับโทนผิวขาวอมชมพูเท่านั้น ผิวสีผสมถึงผิวสีเข้มก็แต่งสีชมพูได้กลมกลืนสวยสะอาดตาสุขภาพดีได้เช่นกัน เพียงแค่เลือกสีชมพูให้เหมาะกับโทนสีผิวและแมทช์สีให้ถูกต้อง “ระวังสีชมพูช็อกกิงพิงค์ เพราะเฉดสีนี้ไม่เหมาะแน่กับผิวสองสีและผิวสีเข้ม ต้องเลือกใช้เมคอัพที่มีเบสชมพูอมส้ม ชมพูอมน้ำตาลถึงจะเข้ากับโทนสีผิวของคุณ”
	1. Eyes เตรียมผิวหน้าให้สะอาดใสหมดจด จากนั้นเลือกใช้แป้งผสมรองพื้นเนื้อสัมผัสบางเบาลงให้ทั่ว จนผิวดูเนียนนวลเรียบเสมอกัน ใช้แปรงเกลี่ยอายแชโดว์สีชมพูบางๆ ให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นวาดเส้นไลเนอร์ให้ชิดขอบตา เพื่อขับความกลมแบ๊วของดวงตาให้เย้ายวนยิ่งขึ้น และปัดมาสคาร่าตามโดยปัดเน้นบริเวณโคนขนตาให้ตั้งขึ้น แต่จะไม่ปัดย้ำและปัดซ้ำตรงปลายขนตา เพราะวิธีนี้จะทำให้ปลายขนตาตกลง
	2. Cheeks สำหรับสีแก้มเลือกใช้บลัชออนชนิดแป้งฝุ่นและไล้สีบางๆ ตั้งแต่ตรงกระดูกโหนกแก้มเฉียงไล่ขึ้นจนถึงขมับ คุณต้นบอกว่า วิธีการการปัดแก้มเช่นนี้ เป็นมาตรฐานที่ลังโคมใช้กันทั่วโลกอยู่แล้ว เพราะช่วยปรับโครงหน้าของผู้หญิงทุกคนให้ดูเรียวยาวสวยได้เหมือนกันหมด อีกทั้งยังเป็นการสร้างแสงเงาให้ใบหน้าดูมีมิติสวยฉ่ำได้อีกด้วยแหละ
	3. Lips ใช้พู่กันแต้มคอนซีลเลอร์และเกลี่ยให้ทั่วริมฝีปากก่อนขั้นตอนลงสีลิปสติก เพื่อปิดรอยแห้งแตกของริมฝีปาก และช่วยขับสีของลิปสติกให้ชัด ไม่ให้ผิดเพี้ยนจากสีแท่งลิปสติกจริง ทั้งยังทำให้ลิปสติกติดทนนานยิ่งขึ้นด้วย จากนั้นใช้แปรงแตะเนื้อลิปสติกสีชมพูนิดๆ และแต้มลงริมฝีปากบางๆ ไปก่อน เพื่อให้สีลิปสติกเข้าไปเคลือบและกลบสีคอนซีลเลอร์ให้มิด แล้วจึงค่อยเพิ่มน้ำหนักของสีให้เข้มขึ้น จากนั้นลงลิปกลอสสีชมพูให้ทั่วริมฝีปากเพื่อขับสีลิปสติกให้แจ่มเช้งเด้งชัดมากขึ้น
	Expert’s Tips 1 .ปัญหาของการทาอายแชโดว์สีอ่อน คือสีมักร่วงง่ายและไม่ค่อยติด คุณต้นจึงแนะนำให้สาวๆ แต้มคอนซีลเลอร์ให้ทั่วเปลือกตาก่อนลงสีอายแชโดว์ เพราะคอนซีลเลอร์จะช่วยให้สียึดติดเปลือกตาได้นานและยังเพิ่มเสน่ห์ให้สีอายแชโดว์ดูสวยขึ้นกว่าการลงสีอายแชโดว์เดี่ยวๆ “เพราะเวลาสีอายแชโดว์โดนแสงไฟจับ มันจะสะท้อนให้สีอายแชโดว์ดูเหลื่อมๆ สวยมากกว่าทาสีเดี่ยวๆ ลงไปเลย” 2. คุณต้นบอกว่า การแต่งตาสีชมพูสำหรับลุคนี้ เน้นความเย้ายวนสวยงามตามแบบฉบับของผู้หญิง ไม่ต้องการปรับหรือแก้ไขตัวตนของผู้หญิงคนนั้นมาก เปลือกตาจึงเน้นเป็นสีชมพูเปลือยๆ เดี่ยวๆ “ถ้าคุณมีรูปตาเล็ก ตาบวม ขอให้มั่นใจ ไม่ต้องใช้เทคนิคทาตามากมายเพื่อแก้ไขให้รูปตาคุณดูเหมือนฝรั่ง แค่อาจต้องเลือกอายแชโดว์สีชมพูเนื้อแมตต์แทนอายแชโดว์ที่มีประกายชิมเมอร์” 3 . สีลิปกลอสที่ทาทับลิปสติกอาจไม่จำเป็นต้องเป็นสีชมพูเหมือนเป๊ะกับสีลิปสติกก็ได้ สามารถเลือกกลอสใสๆ ที่มีเบสสีชมพูทดแทนกันได้ และก็ทาให้ทั่วริมฝีปาก ไม่เน้นทาเฉพาะบริเวณจุดกึ่งกลางปากล่างให้ปากดูอิ่มเอิบเด้งเกิน เพราะถ้าทำแบบนี้ก็จะยิ่งเป็นการแย่งซีนกับดวงตาสีชมพู ไม่ควรเด็ดขาด