ต่อไปนี้คือสไตล์การแต่งตัวที่ไม่ควรพลาดในหนาวนี้ การันตีโดยเหล่าแฟชั่นนิสต้าจากนิวยอร์ค ลอนดอน มิลาน และปารีสใส่เองแบบไม่แคร์ใคร
ตั้งแต่แฟชั่นสาวออฟฟิซ เสื้อยกไหล่สูงสมัยคุณแม่ยังสาว ถูกนำมาประยุกต์กับเสื้อเชิร์ตสีขาว ยูนิฟอร์มที่ผู้หญิงทุกคนมีติดตู้ สวมกับกางเกงขายาวสแลค หรือในวันสบายนำมาใส่กับกางเกงขาสั้นสีคาราเมล
สาวเซ็กซี่ ได้อินเต็มที่กับผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสแสนหวานดำ ขาว ตกแต่งระบายโบว์ฟูฟ่องเหมือนเจ้าหญิง แต่แอบซ่าด้วยซีทรูถึงเอว หรือเจ้าหญิงที่ยังไม่กล้าถอดมงกุฎ แนะเป็นบู๊ทส์สั้นหุ้มข้อลายลูกไม้น่ารักกำลังดี
ส่วนสาวร็อกคงกระฮึ่มกับกางเกงหนังแนบเนื้อมันวาว เพิ่มดีเทลหนามแหลม คอยทิ่มแทงเหล่าตำรวจแฟชั่น หากยังเยอะไม่พอ ต่อด้วยรองเท้าตอกหมุดในสไตล์หัวแหลม ส้นเข็มแหลมปรี๊ด
ก๊วนสาวแสบมีเฮ กับเสื้อผ้าสีนีออนสุดแสบสันในยุค 80 กลับมาอีกครั้งแบบไม่แคร์ใคร เขียว เหลือง ชมพู ส้ม ม่วง ฟ้า ประเคนใส่กันให้เต็มที่ แบบไม่ต้องกลัวใครเห่า
ต่อกันแบบนันสต๊อปกับสาวอาร์ตทิส ที่คราวนี้ได้เปลี่ยนจากเฟรมผ้าใบเป็นเสื้อผ้าแน่ เพราะแว่วมาว่าลายโมเดิร์น ปริ้นซ์ทั้งหลายกำลังก่อตัวความฮิตอยู่เงียบๆ ถือคติ ฮิตไม่มาก แต่ฮิตนาน
สาวเซอร์ไม่ต้องน้อยใจ หนาวนี้ยังมีเสื้อผ้าและรองเท้าสไตล์ชนเผ่า และซาฟารีให้เห็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเสือดาว ม้าลาย ยีราฟ หรือรองเท้าเผ่ากินคน แต่หากนำมามิกซ์กับรองเท้าแพลทฟอร์มส้นไม้ ก็ใส่มาทำงานได้สบายๆ
ปิดท้ายด้วยแฟชั่นเอาใจหมวยตาตี่ เพราะใครจะคิดว่าคาร์ล ลาเกอร์เฟล ไดเร็คเตอร์จาก Chanel จะนิยมชมชอบหยกเป็นพิเศษ ถึงขนาดออกคอลเลกชั่นใหม่สีหยกล้วน ตั้งแต่กระเป๋ารุ่นคลาสสิค โค้ทสีเขียวหยก เรื่อยไปถึงต่างหูและเครื่องประดับชิ้นใหญ่ จึงไม่แปลกหากหนาวนี้สาวๆ จะไปยืมหยกอาม่ามาใส่กันเป็นแถว.
ขอบคุณภาพจากสไตล์ดอทคอม
ที่มา เดลินิวส์