การตั้งครรภ์ หรือคุณแม่หลายคนอาจเรียกว่า "มีท้อง" เกิดจากการที่ไข่ของคุแม่ได้ผสมกับเชื้ออสุจิของคุณพ่อ แล้วมีการฝังตัวลงในเยื่อบุที่โพรงมดลูก เจริญเติบโตต่อไปจนครบระยะเวลาประมาณ 280 บวก/ลบ 7 วัน (273 ถึง 287 วัน) จึงจะคลอดออกมาเป็นเจ้าตัวเล็ก
สำหรับกลไกของการเจริญเติบโตตั้งแต่ไข่ของคุณแม่ได้ผสมกับอสุจิของคุณพ่อ จนกระทั่งเจ้าตัวเล็กได้คลอดออกมา เป็นเรื่องที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับประจำเดือน คือตลอดระยะการตั้งครรภ์ของคุรแม่จะไมมีประจำเดือนเลยเนื่องจากไมมีการสุกของไข่ มีการลอกหลุดของเยื่อบุมดลูก มีแต่เยื่อบุมดลูกจะเจริญขึ้นเพื่อให้เป็นที่ฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว และเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญที่จะนำไปสู่ลูกน้อยในครรภ์ด้วยรกที่เกิดติดกับผนังมดลูกของคุณแม่
ท้องแล้วไปไหน มักเป็นคำถามสำคัญของคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งรู้ตัวว่ากำลังมีสมาชิกตัวน้อยๆ มาอยู่ในกายด้วยอีกคน เมื่อคุณแม่มือใหม่ทราบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ให้ไปฝากครรภ์หรือฝากท้อง กับสถานพยาบาลใกล้บ้าน เช่น คลิลิกโรงพยาบาลทั่วไป แล้วแต่ความสะดวกของคุณแม่ค่ะ ในการฝากครรภ์คุณแม่จะได้รับการตรวจปัสสาวะตรวจเลือด และตรวจร่างกายทั่วไป รวมทั้งตรวจท้อง ซึ่งจะทำให้ทราบถึงภาวะต่างๆ ของลูกน้อยที่อยู่ในโพรงมดลูก เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำต่างๆที่เป็นประโยชน์แก่คุณแม่และเจ้าตัวน้อยค่ะ และขั้นสุดท้ายจะกำหนดวันให้คุณแม่ตรวจตามนัด ซึ่งคุณแม่ก็จะได้รับประโยชน์จากการบริการต่อไปนี้ค่ะ
1. การตรวจปัสสาวะ เพื่อดูโรคไตและเบาหวาน
2. การตวจเลือด เพื่อดูเชื้อซิฟิลิส และดูความเข้มข้นของสีเลือด
3. การชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันเลือด ตรวจเต้านม ฟังปอด ฟังหัวใจ
4. ตรววจหน้าท้อง เพื่อดูภาวะของเจ้าตัวเลกในครรภ์
5. ได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับอาหาร การผักผ่อนการทำงาน และความรู้อื่นๆที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์
6.ได้รับคำปรึกษาตามที่คุณแม่ต้องการ
7. ได้รับยาบำรุง
8. ได้รับการรักษาโรคประจำตัวในกรณีที่คุณแม่มีโรคประจำตัวและโรคที่ตรวจพบ
Tips
ช่วงตั้งครรภ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างก็ต้องระวังให้ดีนะคะ นักวิจัยจากสหรัฐฯ ระบุว่าการใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น เตาไมโครเวฟ และเครื่องเป่าผม ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่แผ่สนามแม่เหล็กไฟฟ้าออกมามีโอกาศทำให้ให้แท้งลูก หรือให้กำเนิดทารกก่อนกำหนดได้ ทั้งนี้ จากการวิจัยชิ้นใหม่พบว่า สนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถกปล่อยออกมาอย่างสม่ำเสมอจากเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน สามารถเพิ่มความเสี่ยงเป็นสองเท่าที่จะทำให้สตรีมีครรภ์แท้งลูก ทั้งนี้นักวิจัยได้สังเกตการณ์จากหญิงตั้งครรภ์เกือบ 1,000 คน แล้วพบว่าว่ามีประมาณ 159 คน แท้งลูก และในจำนวนนี้ 132 คน ให้กำเนดบุตรก่อนกำหนด เนื่องจากการได้รับคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้ มีความเสี่ยงสูงเป็นสองเท่าที่จะแท้งลูก และถ้าสตรีที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่ 1-10 สัปดาห์ ก็จะมีความเสี่ยงเพิ่มเป็น 6 เท่าทีเดียว นักวิจัยเขาเลยพากันออกมาแนะนำว่าหญิงกลุ่มนี้ควรจะอยู่ห่างจากเตาไมโครเวฟ เครื่องเป่าผมและยานพาหนะที่ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานในการขับเคลื่อนจะดีที่สุด พูดง่ายๆ คือช่วยตัวเองไปพลางๆก่อน อย่าพึ่งเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ เลยนั่นเอง
ขอขอบคุณนิตยสารแม่และเด็ก
สำหรับกลไกของการเจริญเติบโตตั้งแต่ไข่ของคุณแม่ได้ผสมกับอสุจิของคุณพ่อ จนกระทั่งเจ้าตัวเล็กได้คลอดออกมา เป็นเรื่องที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับประจำเดือน คือตลอดระยะการตั้งครรภ์ของคุรแม่จะไมมีประจำเดือนเลยเนื่องจากไมมีการสุกของไข่ มีการลอกหลุดของเยื่อบุมดลูก มีแต่เยื่อบุมดลูกจะเจริญขึ้นเพื่อให้เป็นที่ฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว และเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญที่จะนำไปสู่ลูกน้อยในครรภ์ด้วยรกที่เกิดติดกับผนังมดลูกของคุณแม่
ท้องแล้วไปไหน มักเป็นคำถามสำคัญของคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งรู้ตัวว่ากำลังมีสมาชิกตัวน้อยๆ มาอยู่ในกายด้วยอีกคน เมื่อคุณแม่มือใหม่ทราบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ให้ไปฝากครรภ์หรือฝากท้อง กับสถานพยาบาลใกล้บ้าน เช่น คลิลิกโรงพยาบาลทั่วไป แล้วแต่ความสะดวกของคุณแม่ค่ะ ในการฝากครรภ์คุณแม่จะได้รับการตรวจปัสสาวะตรวจเลือด และตรวจร่างกายทั่วไป รวมทั้งตรวจท้อง ซึ่งจะทำให้ทราบถึงภาวะต่างๆ ของลูกน้อยที่อยู่ในโพรงมดลูก เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำต่างๆที่เป็นประโยชน์แก่คุณแม่และเจ้าตัวน้อยค่ะ และขั้นสุดท้ายจะกำหนดวันให้คุณแม่ตรวจตามนัด ซึ่งคุณแม่ก็จะได้รับประโยชน์จากการบริการต่อไปนี้ค่ะ
1. การตรวจปัสสาวะ เพื่อดูโรคไตและเบาหวาน
2. การตวจเลือด เพื่อดูเชื้อซิฟิลิส และดูความเข้มข้นของสีเลือด
3. การชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันเลือด ตรวจเต้านม ฟังปอด ฟังหัวใจ
4. ตรววจหน้าท้อง เพื่อดูภาวะของเจ้าตัวเลกในครรภ์
5. ได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับอาหาร การผักผ่อนการทำงาน และความรู้อื่นๆที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์
6.ได้รับคำปรึกษาตามที่คุณแม่ต้องการ
7. ได้รับยาบำรุง
8. ได้รับการรักษาโรคประจำตัวในกรณีที่คุณแม่มีโรคประจำตัวและโรคที่ตรวจพบ
Tips
ช่วงตั้งครรภ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างก็ต้องระวังให้ดีนะคะ นักวิจัยจากสหรัฐฯ ระบุว่าการใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น เตาไมโครเวฟ และเครื่องเป่าผม ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่แผ่สนามแม่เหล็กไฟฟ้าออกมามีโอกาศทำให้ให้แท้งลูก หรือให้กำเนิดทารกก่อนกำหนดได้ ทั้งนี้ จากการวิจัยชิ้นใหม่พบว่า สนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถกปล่อยออกมาอย่างสม่ำเสมอจากเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน สามารถเพิ่มความเสี่ยงเป็นสองเท่าที่จะทำให้สตรีมีครรภ์แท้งลูก ทั้งนี้นักวิจัยได้สังเกตการณ์จากหญิงตั้งครรภ์เกือบ 1,000 คน แล้วพบว่าว่ามีประมาณ 159 คน แท้งลูก และในจำนวนนี้ 132 คน ให้กำเนดบุตรก่อนกำหนด เนื่องจากการได้รับคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้ มีความเสี่ยงสูงเป็นสองเท่าที่จะแท้งลูก และถ้าสตรีที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่ 1-10 สัปดาห์ ก็จะมีความเสี่ยงเพิ่มเป็น 6 เท่าทีเดียว นักวิจัยเขาเลยพากันออกมาแนะนำว่าหญิงกลุ่มนี้ควรจะอยู่ห่างจากเตาไมโครเวฟ เครื่องเป่าผมและยานพาหนะที่ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานในการขับเคลื่อนจะดีที่สุด พูดง่ายๆ คือช่วยตัวเองไปพลางๆก่อน อย่าพึ่งเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ เลยนั่นเอง
ขอขอบคุณนิตยสารแม่และเด็ก