ประโยคที่ว่า You are what you eat คงบ่งบอกได้อย่างดีว่า อาหารนั้นสำคัญกับสุขภาพร่างกายของเราเพียงใด พลังงานที่เซลล์ทุกๆ เซลล์ในร่างกายเราใช้ในแต่ละวัน ล้วนมีแหล่งที่มาจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป โดยเฉพาะเซลล์สมอง ลองมาดูกันว่าอาหารประเภทใดที่จะทำให้สมองคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังดูแลผิวพรรณของคุณให้สวยงามเปล่งปลั่งอีกด้วย เบอร์รี่ มะเขือเทศ
ปลาแซลมอน
เนื้อปลาแซลมอนอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ซึ่งประกอบด้วย DHA ที่ช่วยลดโอกาสการเป็นอัลไซเมอร์ และ EPA ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดความหนืดของเลือด ลดการเกาะของคราบไขมันที่ผนังเส้นเลือด จึงทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น โอเมก้า 3 ยังเป็นสารต้านการอักเสบซึ่งส่งผลให้เกิดริ้วรอยตามวัย นอกจากโอเมก้า 3 ยังมีอาหารผิวที่โดดเด่นอีก 2 ตัวคือ โคเอนไซม์คิว 10 ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม และ DMAE ที่มี ส่วนช่วยในการยกกระชับผิว
ถั่ว
ถั่วมีกรดอะมิโนอาร์จีนีน ซึ่งช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น และมีกรดไขมัน ALA (alpha-linolenic acid) ซึ่งช่วยให้เส้นเลือดมีสุขภาพที่ดี มีผนังยืดหยุ่น ไม่มีไขมันอุดตัน ทำหน้าที่ขนส่งเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองให้ปลอดโปร่ง นอกจากนั้นยังมีซีลีเนียม ซึ่งมีคุณสมบัติในการยับยั้งเซลล์มะเร็งและวิตามินอี ซึ่งมีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระในอวัยวะที่ประกอบด้วยไขมันสูง และเป็นหนึ่งในอาหารปกป้องผิวที่สำคัญ
ผลไม้กลุ่มเบอร์รี่เป็นอาหารสมองที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จากผลการวิจัยระบุว่า สตรอว์เบอร์รี่ ช่วย
ปกป้องในส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย และบลูเบอร์รี่จะช่วยปกป้องสมองในส่วนของความทรงจำ
ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ซีเรียลโฮลเกรน
ข้าวกล้องจะช่วยสร้างความสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากมีเส้นใยอาหารเจือปน นอกจากนั้น ข้าวกล้องยังมีวิตามินบีรวมและโฟลิก ซึ่งเป็นกลุ่มวิตามินที่มีส่วนสำคัญในการทำงานของระบบประสาทและสมอง
มะเขือเทศมีสารที่ชื่อว่าไลโคปีน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของสารแคโรทีนอยด์ ช่วยลดไขมันชนิด LDL ซึ่งเป็น ไขมันที่ไม่ดีในเลือด และลดการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งลำไส้ใหญ่ ผู้ที่มีระดับสารแคโรทีนอยด์ในเลือดสูง สมองจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นไลโคปีนยังช่วย ปกป้องเซลล์ผิวหนังจากการเสื่อมสภาพเพราะถูกแสงแดดทำร้ายอีกด้วย
ฟักทอง
เมล็ดฟักทองเป็นหนึ่งในอาหารที่มีทริปโตแฟน ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของสารสื่อประสาทสองชนิดที่มีชื่อว่า เซโรโทนิน ซึ่งช่วยให้สมองของเราสงบ และเมลาโทนินซึ่งทำหน้าที่หลักในการควบคุมการนอนหลับ นอกจากนั้นเนื้อฟักทองเองก็มีสารอาหารในกลุ่มที่เรียกว่า แคโรทีนอยด์ในปริมาณสูง ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและยังทำให้สีผิวผ่องนวลตาอีกด้วย
จานว่างเปล่า (Less is more)
การรับประทานอาหารในแต่ละมื้อให้น้อยลงก็เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะในทาง Anti - Aging Medicine นั้น หนึ่งในทฤษฎีที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยยืดอายุและลดอัตราการเกิดโรคที่เกี่ยวกับความชราต่างๆ ได้จริง ก็คือ Calorie Restriction (CR) หรือการรับประทานให้น้อยลง การรับประทานอาหารให้น้อยลงตามทฤษฎี CR นี้ จะเน้นการลดเฉพาะแคลอรีโดยรวมในแต่ละวัน แต่สารอาหารต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินและเกลือแร่ยังจำเป็นจะต้องทานให้ครบถ้วน จะเห็นได้ว่าอาหารต่างๆ ที่กล่าวมานั้นล้วนแล้วแต่วนเวียนผ่านตาเราอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นความยากของการดูแลสุขภาพคงไม่ได้อยู่ที่ขั้นตอนการสรรหาอาหาร แต่น่าจะอยู่ที่เราจะกล้าหันมาเปิดรับสิ่งเหล่านั้น ที่อยู่รอบตัวหรือไม่มากกว่า
ที่มา โรงพยาบาลสมิติเวช