รู้เท่าทันผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย


เหลียวซ้าย แลขวา หันหน้า หันหลังรอบตัว ล้วนเจอะเจอแต่คำโฆษณาถึงสรรพคุณดีๆของผลิตภัณฑ์ลบริ้วรอยเต็มไปหมด จนไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไร ถึงเหมาะกับตัวเราและคุ้มค่าเงินที่สุด

หากคุณมีคำถามเหล่านี้อยู่ในใจ เรารับอาสาพาคุณไขข้อข้องใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ลบริ้วรอยอย่างหมดเปลือก เพื่อที่คุณจะได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้อย่างชาญฉลาดและรู้เท่าทันค่ะ

รู้จักโครงสร้างผิวกันก่อน
คุณรู้หรือเปล่าคะว่า ผิวหนังที่เราเห็นว่าเป็นเรื่องผิวเผินแท้จริงแล้วส่วนที่เห็นเป็นเพียงส่วนบนสุด เพราะในพื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางนิ้ว มีเส้นเลือดจำนวนมาก เส้นขนประมาณ 65 เส้น ต่อมน้ำมัน 100 ต่อม ต่อมเหงื่อ 650 ต่อม เส้นประสาทจำนวนนับไม่ถ้วน และปุ่มประสาท 1,500 ปมเชียวล่ะค่ะผิวหนังตามส่วนต่างๆ หนาบางไม่เท่ากันตามหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป

เอพิเดอร์มิส
โครงสร้างชั้นบนสุดของผิวหนัง เสมือนโรงงานผลิตเซลล์ผิวให้เกิดกระบวนการผลัดผิวสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนผิวหนังที่ตายแล้ว ทั้งยังเป็นที่อยู่ของเมลาโนไซต์ ซึ่งทำหน้าที่ผลิตเมลานินตัวกำหนดสีผิวของเรา

เดอร์มิส
ชั้นผิวลึกลงถัดจากเอพิเดอร์มิสไป มีความหนามากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของโครงสร้างผิว เป็นศูนย์รวมของส่วนต่างๆ ทั้งเส้นประสาทที่คอยรับสัมผัส ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน รากผม และเส้นเลือด ผิวชั้นนี้มีสิ่งที่ดีที่สุดของผิวแทรกอยู่คือ คอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนเส้นใยที่แข็งแรงที่สุดอย่างหนึ่งในร่างกาย และ

อีลาสติน
เจ้าสองตัวนี้เองที่ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น ซึ่งผิวจะสวยกระชับแค่ไหน ดูได้จากสองสิ่งนี้เอง
แฟตเลเยอร์ ผิวชั้นล่างสุดประกอบด้วยไขมันเป็นส่วนใหญ่ ชั้นผิวนี้จะเป็นตัวคอยปกป้องอวัยวะภายในอันบอบบางส่วนอื่นๆ ใต้ผิวหนัง และยังช่วยให้ผิวมีความหนาและนุ่มด้วย

ประเภทของริ้วรอย
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวของผู้สูงอายุเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น เนื่องจากคอลลาเจนเกิดการสูญเสียน้ำจนเสียความยืดหยุ่นส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ผู้สูงอายุสูญเสียไขมันและเนื้อเยื่อใต้ผิวซึ่งทำหน้าที่เป็นเบาะระหว่างผิวหนังกับอวัยวะภายใน ฉะนั้นเมื่อไขมันสูญเสียไป ผิวจึงไม่มีตัวหนุนรับ และเริ่มหย่อนลงจนเป็นรอยย่น นอกจากนี้การขาดความชุ่มชื้นก็มีส่วนที่เ ร่งให้เกิดริ้วรอยได้เร็วขึ้นเช่นกัน ริ้วรอยมีหลายประเภท ดังนี้

Old Wrinkles
ริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากกาลเวลา ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากเราบำรุงรักษาผิวหน้าโดยไม่ถูกรบกวนจากปัจจัยภายนอก อาทิ แสงแดด ควันบุหรี่ ริ้วรอยประเภทนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเราอายุ 60 ปี

Sun Wrinkles
ริ้วรอยนี้เกิดจากผิวถูกแสงแดดทำร้ายไปถึงชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้คอลลาเจน (โปรตีนช่วยให้ผิวแข็งแรง ช่วยซ่อมแซมผิวที่เป็นรอยแผลด้วยการสร้างเนื้อเยื่อบางๆ คลุมไว้) และอีลาสตินไฟเบอร์เสื่อมสภาพลง ริ้วรอยประเภทนี้จะเริ่มปรากฏตัวตั้งแต่ย่างเข้าวัย 20 ปี โดยจะเห็น เป็นรอยบางๆ หรืออาจจะสังเกตว่าผิวเริ่มแห้งกว่าแต่ก่อน แต่ก็อย่าชะล่าใจ เพราะหากปล่อยไว้ เมื่อเข้าวัย 30 ปี ผิวจะกลายเป็นกระหรือจุด
ด่างดำ สุดท้ายเมื่อเข้า 40 ปี ริ้วรอยจะลงลึกบนผิวหน้า ซึ่งริ้วรอยเกือบครึ่งหนึ่งบนใบหน้ามักเกิดจากแสงแดดนี่เอง

Sleep Lines
ริ้วรอยที่เกิดจากการนอนผิดท่าเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะการนอนตะแคงข้างหรือนอนคว่ำหน้า แม้ว่าริ้วรอยนี้จะไม่น่ากลัวนัก แต่หากเรายังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการนอน ริ้วรอยชนิดนี้จะไม่สามารถลบเลือนได้อีกหากเราอายุเพิ่มมากขึ้น

Express Lines
ริ้วรอยที่เกิดจากผิวหน้าที่เคลื่อนไหวอยู่บ่อยๆ เช่น ขมวดคิ้ว หัวเราะ อ้าปาก ยิ้ม เป็นต้น จะพบเห็นริ้วรอยชนิดนี้ตั้งแต่อายุ 20 ปี และเริ่มมีรอยลึกขึ้นเมื่อช่วงอายุ 30-40 ปี

Gravity Grooves
ริ้วรอยนี้มีสาเหตุมาจากแรงโน้มถ่วงเป็นสำคัญ ริ้วรอยชนิดนี้เกิดขึ้นเมื่ออายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป บริเวณที่พบเห็นคือหนังตาและมุมปาก พอย่างเข้า 40 ปีจะพบริ้วรอยนี้บริเวณร่องแก้ม และเมื่อเข้าวัย 50 ปี อาการหย่อนคล้อยอาจรุกรานไปถึงบริเวณคางและขากรรไกร

รู้ไว้ใช่ว่ากับผลิตภัณฑ์ anti - aging
วิธีการลบเลือนริ้วรอยนั้นมีมากมายหลากหลายวิธี และการใช้ผลิตภัณฑ์ anti - aging ดูจะได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ของบรรดาผู้บริโภค แต่สิ่งสำคัญที่ควรนึกถึงไว้อยู่เสมอคือเครื่องสำอางไม่ใช่ยา ฉะนั้นมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดจึงแสดงฝีมือได้แค่ลบเลือนริ้วรอยให้จางลง แต่ไม่ได้ทำให้หายไปเพราะริ้วรอยที่เห็น ฝังรากลึกถึงใต้ผิวหนัง (เนื่องจากทั้งคอลลาเจนและอีลาสตินถูกทำลาย) ในขณะที่ครีมต่อต้านริ้วรอยส่วนใหญ่ช่วยได้แค่ผิวชั้นบนเท่านั้น ก่อนเลือกซื้อครีมบำรุงผิวควรศึกษาให้แน่ใจเสียก่อนว่า ส่วนผสมของครีมแต่ละกระปุกที่เราจะซื้อนั้นดีจริงดั่งคำโฆษณาที่ว่าไว้หรือเปล่า เพราะราคาของผลิตภัณฑ์แต่ละกระปุกนั้นสูงไม่ใช่เล่นๆ เลยนะคะ

Cell Renewal Cream
ครีมนี้จะมีส่วนประกอบของเอเอชเอ บีเอชเอ และเรตินอล ช่วยเร่งกระบวนการผลัดผิวตามธรรมชาติให้ทำงานได้ดีและเร็วขึ้น แต่ครีมที่มีสรรพคุณนี้ความเป็นจริงแล้วไม่ได้หมายความว่า
มันจะช่วยลบริ้วรอยโดยเฉพาะริ้วรอยลึกๆ ได้

Face Cream
ครีมประเภทยกกระชับผิว อาศัยหลักแรงตึงตัวของผิว พอทาครีมตัวนี้จะมีสารบางตัวที่เป็นโพลีเมอร์ชนิดหนึ่งช่วยยกกระชับผิว ทำให้เกิดแรงตึงตัวเหมือนเวลานำไข่ขาวทาหน้า แต่ครีมประเภทนี้จะให้ความรู้สึกตึงหน้าอยู่เพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำให้ต้องทาใหม่เรื่อยๆ ครีมประเภทนี้แม้จะช่วยยกกระชับหน้าให้ตึงก็จริง แต่ไม่ได้ช่วยบำรุงผิวเลย ดังนั้นจึงต้องมีการผสมครีมตัวอื่นที่ใช้ในการบำรุงผิวเข้าไปด้วย

ส่วนผสมยอดฮิตใน anti - aging
นี่คือส่วนผสมยอดฮิตที่ระบุไว้ในครีมลบเลือนริ้วรอยชนิดต่างๆ ค่ะ

สารสำคัญ  ประสิทธิภาพ
โคเอมไซม์คิวเทน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวทนต่อรังสียูวีเอได้ดีขึ้น และยับยั้งการสร้างเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ครีมที่มีส่วนผสมของ Q10 สามารถลดริ้วรอยได้ถึง 23 เปอร์เซ็นต์โดยประมาณหากเปรียบกับครีมที่ไ ม่มี Q10 สำหรับปริมาณการใช้ Q10 อย่างเห็นผลได้ดีคือ ความเข้มข้นที่ 1 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป
วิตามินซี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ เป็นสารที่มีแอนติออกซิแดนท์สูง จึงช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด วิตามินซีช่วยลดรอยด่างดำ ทั้งยังช่วยลดริ้วรอยบางๆ ได้ แต่ทั่วไปครีมลบริ้วรอยมักจะมีวิตามินซีบรรจุอยู่น้อยมากๆ ไม่ถึง 0.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่สามารถใช้ลดริ้วรอยได้ดีมากนัก
วิตามินอี สารคู่หูของวิตามินซี เพียงแต่แตกต่างกันตรงที่วิตามินอีละลายในไขมันได้ดีกว่า ส่วนคุณสมบัติโดดเด่นของวิตามินตัวนี้คือสารโทรโคฟีรอล ช่วยฟื้นฟูผิว รวมถึงช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นดีขึ้น
คอลลาเจนและอีลาสติน เครื่องสำอางหลายยี่ห้อพยายามคิดค้นหาทางนำคอลลาเจนและอีลาสตินกลับคืนสู่ผิว แต่สารเหล่านี้อยู่ในโครงสร้างผิวตามธรรมชาติ เสื่อมไปและไม่มีวันฟื้นกลับคืนใหม่ด้วยการทาครีมลงบนผิว
กรดวิตามินเอหรือเรตินอล กรดวิตามินเอกระตุ้นให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิวชั้นบนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้จากภายใน ผิวภายนอกจึงดูเรียบเนียนและริ้วรอยลดลง (กรดวิตามินเอจัดเป็นยา จึงควบคุมการใช้โดยแพทย์และเภสัชกร ขณะที่เรตินอลคืออนุพันธ์ของวิตามินเอสามารถอยู่ในครีมบำรุงผิวได้)
เอเอชเอ (AHA) กระตุ้นให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิวชั้นบนเท่านั้น เนื่องจากครีมที่วางขายเป็น AHAที่มีความเข้มข้นต่ำ (< 15 เปอร์เซ็นต์) AHA กระตุ้นคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ต้องมีความเข้มข้นสูง จึงใช้สำหรับทำทรีตเม้นท์ AHA ที่ต้องดูแลโดยแพทย์ ซึ่งจะต้องทาแล้วล้างออกเท่านั้น เพราะอาจทำให้ผิวไหม้ได้
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น รายงานผลการวิจัยพบว่าสารตัวนี้จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านการทำลายเซลล์คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาความสวยใส และป้องกันการเกิดริ้วรอยและรอยหมองคล้ำได้
สารสะกัดจากสาหร่ายทะเล สารสกัดตัวนี้ถือเป็นแหล่งรวมแร่ธาตุมากมาย อย่างโปรตีน วิตามินเอ บี ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ฯลฯ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ทั้งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้
ชาเขียว ชาเขียวมีสารโพลีฟีนอล ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์มากกว่าวิตามินอี 20 เท่า เมื่อนำมาผสมในผลิตภัณฑ์ป้องกันและลดริ้วรอย ทำให้ฟื้นฟูสภาพผิวให้เปล่งปลั่ง สดใส ทั้งยังช่วยป้องกันรังสียูวีได้
สารสะกัดจากเปลือกส้ม สารนี้มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้
สารสะกัดจากยีสต์ สารสก ัดชนิดนี้ช่วยให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ผิวให้ดูเปล่งปลั่ง พร้อมยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้
สารสะกัดจากถั่วเหลือง สารชนิดนี้ช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรงด้วยสารเจนิสติน ที่มีคุณสมบัติฟื้นฟูสภาพผิวให้สดใส อ่อนเยาว์ และช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ด้วย


เคล็ดลับชะลอริ้วรอย ทางเลือกใกล้ตัว
นอกเหนือจากเลือกครีมลดริ้วรอยที่ควรเลือกอย่างฉลาดแล้วการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างสามารถส่งผลให้ริ้วรอยที่เรากลัวๆ กัน โบกธงขาวยอมรับความแพ้พ่ายลงได้

- หลีกเลี่ยงแสงแดด

หากต้องผจญแสงแดดควรพกพาร่มหรือสวมหมวกอยู่เสมอ แต่ถ้าไม่มีอุปกรณ์ช่วย พยายามเดินในที่ร่ม
หรือยืนใต้ต้นไม้ และอย่าลืมสวมแว่นกันแดดเพื่อปกป้องผิวรอบดวงตาด้วย การใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดโดยเฉพาะเสื้อผ้าฝ้ายจะช่วยปกป้องผิวได้ดี เพราะช่วยสะท้อนรังสียูวีเอและยูวีบีบางส่วน แถมช่วยระบายความร้อนได้ดี ที่สำคัญควรเลือกใส่เสื้อผ้าสีสว่างๆ จะได้ไม่ดูดความร้อน

- อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน

ครีมกันแดดเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะจะช่วยป้องกันรังสียูวีเอ (ป้องกันการเหี่ยวย่น) และยูวีบี (ป้องกันมะเร็งผิวหนัง) ได้ค่ะ

- เลิกสูบบุหรี่
หากคุณหย่าขาดกับบุหรี่ตั้งแต่วันนี้คุณสามารถเรียกผิวหน้าสวยๆของคุณคืนกลับมาได้ เพราะคนจำนวนไม่น้อยที่เมื่อหยุดสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาด พวกเขายืนยันว่ารู้สึกดูดี อ่อนวัยขึ้น สดชื่นและที่สำคัญที่สุด ริ้วรอยที่เคยมีดูเหมือนจะน้อยลงทุกขณะด้วย

- ดื่มน้ำมากๆ

ถ้าไม่อยากให้ผิวขาดความชุ่มชื้นจนริ้วรอยฟ้อง จงดื่มน้ำมากๆ อย่าปล่อยให้ร่างกายกระหายน้ำเป็นอันขาด เพราะหนึ่งในอาหารผิวที่ดีที่สุดคือน้ำบริสุทธิ์นี่เอง ฉะนั้นหันกลับมาดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ6-8 แก้ว เพื่อผิวสวยกันดีกว่าค่ะ

- ให้อาหารผิวกันบ้าง

การกินอาหารที่ช่วยชะลอริ้วรอยนั้น ควรลดปริมาณไขมันที่ร่างกายได้รับในแต่ละวันให้เหลือน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนแคลอรีที่ร่างกายต้องการ อาหารที่ประกอบด้วยวิตามินเอ ซี อี ช่วยฟื้นฟูผิวและต่อต้านริ้วรอยได้ เช่น แครอท ฟักทอง มันฝรั่ง บรอกโคลี ผักโขม แคนตาลูป และลูกพีช กินอาหารไขมันต่ำที่มีแคลเซียมสูง (แคลเซียมดีต่อกระดูกและส่งผลต่อคอลลาเจน) อย่างบรอกโคลี กะหล่ำปลี ปลาแซลมอน และปลาซาร์ดีน เพิ่มไฟเบอร์ให้ร่างกายวันละ 25-30 กรัมด้วยอาหารไฟเบอร์สูง เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ถั่ว ลูกพลัม และลูกพีช

- อย่าออกกำลังกับหน้ามากเกินไป

แม้ว่าหนังสือความงามหลายต่อหลายเล่มจะแนะนำให้บริหารผิวหน้าเพื่อเพิ่มความกระชับให้ผิว แต่การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อผิวหน้าทำให้เกิดรอยย่นได้ ยิ่งทำบ่อยๆก็เท่ากับย้ำรอยเดิมให้ลึกและชัดเจนยิ่งขึ้น ฉะนั้นพยายามอย่าทำอะไรกับผิวหน้า ค่อยๆ พูด หัวเราะแต่พองาม อย่าขมวดคิ้วจนเป็นนิสัย แม้กระทั่งการนวดหน้าที่ว่าดีต่อผิว ถ้าเป็นไปได้ อย่าแตะต้องมันบ่อยๆ เพราะทุกครั้งที่มือเราสัมผัสนั่นแหละทำให้เกิดเป็นริ้วรอย
เล็กขึ้นมาได้

- นอนให้ถูกท่า

การนอนมีส่วนสำคัญนะคะ เพราะหากนอนถูกท่าแล้วจะไม่ เกิดรอยย่นที่เรียกกันว่า Sleep Line ท่านอนที่ถูกต้องที่สุดคือการนอนหงาย เพราะไม่ทำให้เกิดริ้วรอยจากการนอนและกดทับของผิวหน้า แม้ในตอนกลางคืนที่เราหลับ เราอาจควบคุมท่านอนของเราได้ยากขึ้น แต่ขอให้เมื่อรู้สึกตัวเมื่อไรจงรีบนอนหงายให้เหมือนเดิม

- จงอย่าเครียด
ระลึกไว้เสมอค่ะว่า ความเครียดคือศัตรูของผิวสวยและก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยนะคะ

ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ครีมตัวไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเลือกใช้ให้เหมาะกับตัวเรา อีกทั้งอย่าลืมเรื่องการรับประทานอาหารและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง รับรองค่ะว่าผิวสวยๆ จะอยู่คู่คุณไปอีกนาน

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่างชาญฉลาด
เครื่องสำอางบางชนิดสามารถช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้จริง แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ด้วยหลักการรักษาความชุ่มชื้นของผิว ให้คงไว้ แต่ไม่อาจทำให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียนเหมือนผิวของหนุ่มสาวได้อีก ดังนั้น ทริกในการเลือกซื้อครีมต่อต้านริ้วรอยจึงมี 4 อย่างที่ต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจค่ะ

• เลือกครีมให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
ถ้าผิวแห้ง ควรใช้ครีมที่มีความมันและความชุ่มชื้นมากๆ ส่วนผิวมันควรใช้ครีมที่มีเนื้อบางเป็นเจลหรือโลชั่นน้ำนม เพราะถ้าเลือกใช้ผิดอาจส่งผลต่อสภาพผิว เกิดเป็นเม็ดหรือผื่นคันจดหมดสวย แถมริ้วรอยก็ไม่หายเสียด้วย

• ครีมที่มีประสิทธิภาพในการลบริ้วรอย
เลือกดูครีมที่มีส่วนผสมของสารเพิ่มเติมจำพวกสารลดอนุมูลอิสระต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินอี โคเอมไซม์คิวเทน สารสกัดจากเมล็ดองุ่นและชาเขียว

• ผิวหมองคล้ำ หยาบกร้าน และมีริ้วรอย
เลือกดูครีมที่มีส่วนประกอบของสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น สารเรตินอยด์ เอเอชเอ บีเอชเอ ไลโพอิกแอซิด แต่ถ้าคุณเป็นคนแพ้ง่าย ขอให้เมินเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเหล่านี้ไปได้เลย เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองและทำให้ผิวมีปัญหาเรื่องริ้วรอยมากขึ้นอีก

• กรณีที่คุณกระเป๋าหนัก
ลองเลือกครีมที่มีส่วนผสมของสารที่กระตุ้นเซลล์ในระดับโมเลกุลโดยตรง อย่างครีมที่มีส่วนผสมของสารอาหารเลี้ยงเซลล์ต่างๆ เพราะครีมเหล่านี้มีคุณสมบัติกระตุ้นเซลล์ให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดการซ่อมแซมตัวเองของเซลล์ผิวมากขึ้น 


Tag :




แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement