กว่าที่เราจะได้เริ่มความสัมพันธ์กับใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยใช่ไหมคะ แล้วยิ่งจะทำอย่างไรให้ความสัมพันธ์พัฒนางอกเงยจนกลายเป็นแฟนกันอย่างจริงจัง ยิ่งเป็นเรื่องยากเข้าไปใหญ่ สาวๆคงไม่อยากเห็นคนที่ตัวเองชอบวิ่งหนีไปซะก่อนตั้งแต่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ทันไรใช่ไหมคะ เรามีวิธีป้องกันค่ะ

1. ไปเดทก็จริงแต่แทนที่จะชวนคุยกัน ก็ไม่หรอก กลับให้ความสนใจกับโทรศัพท์มือถือ หรือไอแพด แท็บเล็ตที่พกติดตัวไปมากกว่า ด้วยการหยิบมันขึ้นมาดู มาเช็กเมล์บ้าง มาส่งข้อความหรือภาพไปให้ใครต่อใครบ้าง อย่างนี้แสดงออกชัดเจนไปหน่อยนะว่า คุณนั้นหมกมุ่นอยู่กับเจ้าเทคโนโลยีนี้เหลือเกิน ขนาดคุ่เดทของคุณหน้าตาดีอย่างนั้น...โอมเพี๊ยง ขอให้เป็นอย่างนี้จริงๆเถอะ คุณยังสนใจอย่างอื่นมากกว่าเขาเลย ดังนั้น ในใจเขาคงคิดเหมือนกันว่า สมควรปล่อยคุณไว้กับเจ้าเครื่องเหล่านี้ดีกว่ามั้ง จึงเตลิดหนีไปเลย

2.ถ้าเขาสืบรู้ว่าคุณ(ฝ่ายหญิง)มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับพ่อของตัวเองละก็ เป็นไปได้ว่า เขาคงจะคบกับคุณได้เพียงประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น ทำไมน่ะเหรอ? เพราะผู้ชายส่วนใหญ่เชื่อว่าลูกสาวที่สนิทกับพ่อนั้น น่าคบมากกว่าลูกสาวที่ไม่ค่อยสนิทกับพ่อน่ะสิ แต่พูดแบบนี้ หากสาวคนใดไม่สนิทกับพ่อก็อย่าเพิ่งเสียกำลังใจ เพราะผู้ชายบางคนก้ยอมรับได้ถ้าเธอจะเป็นแบบนี้ แต่ควรมีเหตุผลที่ดีมารองรับละกัน เช่น ไม่สนิทกับพ่อ เพราะพ่อทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่เธอยังเด็ก หรือพ่อชอบรังแกแม่เธอจึงไม่ค่อยรักพ่อ...ก็ว่ากันไป

3.ถ้าหล่อนเอาแต่หงุดหงิด หรือห้ามปรามไม่ให้เขาไปสมาคมกับเพื่อนฝูง โอ้ยโหยว...พฤติกรรมอย่างนี้ ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ชอบนะ เพราะถ้าเขาจะมีแฟนก็ยังอยากมีเพื่อนต่อไป ไม่ใช่ให้ตัดขาดกับเพื่อนฝูงซะเลย ก็รับไม่ได้เหมือนกัน แหม ถ้าเขายังอยากจะไปมั่วสุมดูบอลกันก็ปล่อยเขาไปบ้างเถอะ

4.ถ้าสาวพร่ำบ่นเรื่องทำงานบ้านว่า เบื่อไม่อยากทำ ให้เขาฟังบ่อยๆ ทั้งที่ฝ่ายหญิงนั้นยังโสดและอยู่ตัวคนเดียวนะนั่น โอ้ถ้าอย่างนี้ ฝ่ายชายคงคิดแหละว่า ควรจะชวนเธอมาเป็นแฟนดีรื้อ ขืนเป็นแฟนกันสงสัยหล่อนจะทิ้งงานบ้านให้เป็นงานของเขาเพียงลำพังแหงๆ

5.ถ้าเพิ่งรู้จักกันได้ไม่ทันไร หล่อนก็พูดถึงงานแต่งงานกับเขาแล้วละก็ เขาคงไม่อยู่ให้คุณพูดถึงอนาคตที่เขาไม่อยากเสี่ยงด้วยหรอกนะ

รู้อย่างนี้แล้ว ตรวจเช็กตัวเองกันด่วน ด่วน นะคะ ก่อนที่ชายหนุ่มที่คุณหมายตาจะหมายปองจะเผ่นหนีแบบไม่เห็นฝุ่น 



ขอบคุณ ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ