1.เมื่อรู้ว่า แฟนเราเป็นแบบนี้ ก็ควรสร้างระยะห่างกับแฟนไว้บ้าง เช่น แฟนอยู่ห้องนึง คุณก็หลบไปอยู่อีกห้องนึงในบ้านเดียวกันซะ แต่ไม่ใช้หลบไปสามสัมพันธ์กับกิ๊กอื่นนั่นก็ไม่ไหวนะ และเมื่อไหร่ที่มีลางสังหรณ์ว่าจะถูกแฟนบ่นเรื่องไม่ช่วยทำงานบ้าน ให้รีบขันอาสาออกหน้าไปเลย เช่น หลังรับประทานอาหารร่วมกันเสร็จ ก็รีบอาสาช่วยล้างจาน โดยไม่ต้องให้แฟนเตือนว่าต้องช่วยทำอะไรบ้าง และทำให้เห็นเดี๋ยวนั้นเลย เค้าก็จะค่อยๆมองคุณเสียใหม่และหยุดบ่นคุณไปได้สักระยะ
2.พอแฟนเริ่มบ่น ถ้าฟังแล้วมีเหตุมีผลและคุณมีส่วนผิดจริง ก็ควรเอ่ยปากขอโทษและยอมรับไปเถอะว่า อีกหน่อยคุณจะปรับปรุงตัวเอง เชื่อว่า เหตุการณ์นี้จะผ่านไปได้ไม่ยาก หากรักกัน คงไม่บ่นกันแบบเอาเป็นเอาตายหรอก บ่นแค่ให้สำนึกก็พอ เพราะในฐานะที่เป็นมนุษย์ใครๆก็ทำผิดพลาดกันได้
3.ถ้าแฟนเอ่ยปากบ่นเมื่อไหร่ ก็ใช้วิธีพูดชมฝ่ายนั้นซะเลย ว่าเธอดีอย่างนั้น อย่างนี้ หรือชมอะไรก็ได้ หาให้ได้แล้วกันว่า ควรชมเรื่องอะไรที่สามารถทำให้ฝ่ายนั้นลืมเรื่องที่อยากบ่น ก็นั้นแหละชวนคุยเรื่องนั้นซะเลย จะรอช้าอยู่ไย
4.ถ้ารู้ว่า ตัวเองทำอะไรไว้แล้วแฟนจะรู้สึกขัดเคืองใจกับสิ่งที่คุณทำแน่ๆ แต่ก็ไม่อยากโดนแฟนบ่นนี่นา งั้นเอานี้สิ ยอมลงทุนควักกระเป๋าซื้อของขวัญมาให้แฟนแทนคำว่าเสียใจหรือขอโทษก็แล้วกัน
5.พยายามทำให้แฟนไม่มีเวลามาคอยบ่น คอยจ้ำจี้จ้ำไชคุณสิ ด้วยการทำให้เขาไม่ว่างเข้าไว้ เช่น พาไปเดินตลาดนัด ช็อปปิ้ง ปล่อยนกปล่อยปลา เข้าวัดทำบุญ ทำทานแก่ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ไม่งั้นก็ชวนกันไปออกกำลังกาย หรือสนับสนุนให้เขาไปหาเพื่อนจะได้เปิดหูเปิดตาและลืมสิ่งที่อยากจะบ่นซะ จะได้รอดตัวไป
6.ถ้าแฟนกำลังจะบ่น ก็รีบชิงเล่าเรื่องตลกขบขันแข่งกับฝ่ายนั้นซะเลย แต่ควรมั่นใจว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ขำออกมาได้จริงๆ ไม่ใช่เล่าเรื่องอะไรก็ไม่รู้ แทนที่จะขำดันมุกแป้ก ระวังเหอะถ้าแฟนไม่ขำอาจหันมาเล่นงานคุณเพิ่มเป็นสองเท่า โทษฐานพยายามเบี่ยงเบนในสิ่งที่เขาอยากพูดแต่ดันทำไม่สำเร็จ.. ฮึ่ม
อย่างไรก็ตาม คนเป็นแฟนกันก็ควรที่จะถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน ฝ่ายที่ทำตัวให้บ่นก็ควรพิจารณาและปรับปรุงตัวเอง แต่ฝ่ายที่ขี้บ่นก็ยิ่งควรพิจารณาตัวเองเช่นกันนะคะ ถ้ารักจะสานสัมพันธ์กันให้ยืนยาวต่อไปนานๆ ก็ควรเลือกวิธีพูดที่เหมาะสม ไม่ใช่คอยแต่จ้องจะบ่นอยู่อย่างเดียวนะจ๊ะ
ขอบคุณ ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
