ในยุคของข้อมูลข่าวสาร นี่อาจเป็นยุคที่ใครได้ข่าวมาเป็นต้องแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ผ่านเฟสบุ๊ก - ทวิตเตอร์จนกลายเป็นภาพที่คุ้นตาของคนทั่วไปกับการที่มนุษย์คนหนึ่งจะต้องง่วนอยู่กับเครื่องมือสื่อสารตลอดเวลา แต่เป็นไปได้ว่า ไลฟ์สไตล์ดังกล่าวอาจไม่ดีต่อสมองของคนเรามากนัก เพราะมันทำให้มนุษย์เราขาด"สมาธิ" ไม่สามารถจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นาน ๆ นั่นเอง
ผู้ออกมาสะกิดให้หลายคนตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวคือ มาร์กาเร็ต มัวร์ เจ้าของหนังสือ Organize Your Mind, Organize Your Life : Train Your Brain to get More Done in Less Time โดยเธอเผยว่า การให้ความสนใจในสิ่งต่าง ๆ รอบตัวหลายอย่างมากเกินไปในเวลาเดียวกันนั้นทำลายความสามารถของสมองมนุษย์อย่างแน่นอน
"เราคิดว่าเราเก่งที่ทำงานแบบ Multitasking ได้ แต่การทำเช่นนั้น กลับทำให้สมองต้องกระจายความสนใจให้กับการทำงานต่าง ๆ แทนที่จะมีสมาธิให้กับการทำงานอย่างหนึ่งอย่างใดจนถึงที่สุด นั่นทำให้ผลงานที่ได้มีประสิทธิภาพต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพราะสมองไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการทำงานลักษณะนั้น"
คำตอบของการได้พลังสมองกลับคืนมาก็ไม่ใช่การเขียนรายการของสิ่งที่จำเป็นต้องทำเตรียมไว้ยาวเหยียด หรือว่าการหาเครื่องมือ (แอปส์) ต่าง ๆ มาช่วย หากแต่เป็นการปรับรูปแบบการใช้สมอง และจิตใจให้เกิดคุณค่าสูงสุด
"การจะฝึกสมองให้ทำงานได้เต็มที่นั้น มนุษย์เราอาจต้องตัดสินใจเลยว่า สิ่งใดที่สำคัญที่สุดและมุ่งมั่นทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ ไม่ใช่ทำงานหลาย ๆ อย่างที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้"
นอกจากนั้น ผู้เขียนหนังสือดังกล่าวยังบอกด้วยว่า การปลีกวิเวกด้วยการ "ปิดโทรศัพท์มือถือ" ก็อาจจำเป็น เพื่อให้มนุษย์เราสามารถมีสมาธิในการทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้
"แม้ว่าเราจะมีงานสารพัดให้ต้องทำ แต่ถ้าในทุก ๆ วันคุณสามารถทำสิ่งเล็ก ๆ ที่พิเศษสุดให้เกิดขึ้นได้ คุณจะมีความรู้สึกว่ามีพลังมากขึ้น รู้สึกดีกับชีวิตมากขึ้น"
นอกจากนั้น ทางเจ้าของหนังสือยังได้ให้เทคนิคง่าย ๆ ในการเรียกสมาธิกลับคืนมาเอาไว้ด้วย นั่นก็คือ การหมั่นออกกำลังกาย, การปิดอุปกรณ์สื่อสาร เช่น โทรศัพท์เพื่อลดการรบกวนจากภายนอกให้น้อยที่สุด, การไม่เขียน To-do-list ที่ยาวเกินไป และการตั้งใจว่าจะใช้เวลาอยู่คนเดียวทำบางสิ่งให้สำเร็จ
แต่มนุษย์ยุคความนิยมในการทำงานแบบ Multitasking เฟื่องฟู แถมโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเฟสบุ๊ก - ทวิตเตอร์ครองเมือง จะกลับมามีสมาธิอีกสักครั้งได้ไหม ยังเป็นเรื่องยากที่จะตอบ
ขอบคุณ ที่มา : manageronline
