FSD : โรคที่ทำให้ผู้หญิงไม่มีความสุขกับเรื่องบนเตียง



ปัญหาเพศในผู้ชายที่พบบ่อยเป็นเรื่องของการหลั่งเร็ว อวัยวะเพศไม่แข็งตัวพอ และความต้องการทางเพศลดลง สำหรับผู้หญิงมีความผิดปกติเกี่ยวกับเพศสัมพันธุ์หลายอย่างเช่น ไม่มีความต้องการทางเพศหรือความต้องการทางเพศลดลง ไม่มีอารมณ์เวลาถูกกระตุ้นทางเพศ รู้สึกอึกอัดเวลามีเพศสัมพันธุ์ หรือไม่ถึงจุดสุดยอด

เหล่านี้เป็นกลุ่มที่เรียกว่า Female Sexual Dysfunction แพทย์บางท่านเรียก sexual dissatisfaction หรือมีคำย่อว่าโรค FSD
เพราะเชื่อว่าเกิดจากการที่คู่ครองไม่สามารถสื่อสารถึงความต้องการของกันและกัน โดยภาพรวมแล้วคำว่า Dysfunction หรือ dissatisfaction หมายถึงภาวะที่ไม่มีความสนใจทางเพศ หรือไม่สามารถถูเร้าจนพร้อมที่จะมีเพศสัมพันธุ์ หรือไม่ถึงจุดสุดยอด สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาจจะเกิดจาก คู่ครองขาดความรู้ คู่ครองไม่น่าสนใจ หรือไม่เข้าใจวิธีการกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ หรือไม่มีความรู้เรื่องจุดที่ควรจะกระตุ้น

จากการสำรวจที่ประเทศอเมริกาพบมากถึงร้อยละ 43 ที่มีปัญหานี้โดยไม่ขึ้นกับอายุ แต่ส่วนใหญ่เกิดในช่วงวัยทองในระยะที่ฮอร์โมนเริ่มจะลดลงโดยแพทย์ต้องซักประวัติที่ครอบคลุมและการตรวจร่างกายผู้ป่วยภายใต้ความเข้าใจและมีความรู้ลักษณะทางกายวิภาคทางเพศ  สรีรวิทยาและพยาธิสรีรวิทยาของโรคความผิดปกติทางเพศหญิง เพื่อการวินิจฉัยและการประเมินผลของโรคดังกล่าว


กลไกการถึงจุดสุดยอด

ก่อนที่จะไปถึงเรื่องอื่นเราจะต้องเข้าใจขั้นตอนการถึงจุดสุดยอดซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน

•ช่วงแรกของการมีเพศสัมพันธุ์คือระยะตื่นเต้น excitement ระยะนี้ผู้หญิงจะเริ่มมีอารมณ์ทางเพศโดยมากมักจะเกิดสัมผัสตามจุดต่างๆตามร่างกาย อาการที่แสดงออกคือจะมีการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น หายใจเร็วขึ้น ช่องคลอดจะบวมขึ้น และมีน้ำมาหล่อลื่นเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีเลือดมาเลี้ยงเพิ่มขึ้น สำหรับผู้ชายอาจจะมีอารมณ์โโยการมอง การได้ยิน หรือได้กลิ่นหรือแม้กระทั่งจินตนาการ
•หากร่างกายผู้หญิงได้รับการกระตุ้นอย่างต่อเนื่องเรียกระยะนี้ว่า plateau หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น กล้ามเนื้อมีการเกร็ง เต้านมจะโตขึ้นและตึง หัวนมตั้ง มดลูกเคลื่อนลง ในระยะนี้เป็นเวลาเหมาะสมที่สอดใส่อวัยวะเพศชาย
•จุดสุดยอด orgasm ระยะนี้ กล้ามเนื้อช่องคลอด ทวารหนัก กล้ามเนื้อหน้าท้องจะเกร็งอย่างแรง บางท่านอาจจะส่งเสียงโดยที่ไม่รู้ตัว
•ระยะผ่อนคลาย resolution เลือดจะไหลออกจากช่องคลอด เต้านมจะกลับสู่ปกติ
การตอบสนองแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน บางคนจาก excitement ไปสู่ orgasm บางคนมี orgasm ได้หลายครั้ง

โรคความผิดปกติทางเพศหญิง อาจเกิดจากความเจ็บป่วยทางกาย แต่มักจะเชื่อมโยงกับปัจจัยทางจิตใจ   ส่วนโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศของผู้หญิง (impotence) เทียบได้กับความผิดปกติของการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศหญิง (Female Sexual Arousal Disorder : FSAD) ซึ่งยังมีความต้องการทางเพศ แต่บริเวณอวัยวะเพศไม่ตอบสนองในทางที่ปกติ ทำให้การมีเพศสัมพันธ์แบบเจ็บปวดหรือเป็นไปไม่ได้


การวินิจฉัย

การวินิจฉัยจะต้องซักประวัติอย่างละเอียดเพื่อที่จะได้ทราบว่าความผิดปกติทางเพศเป็นชนิดไหน และสาเหตุเกิดจากอะไรเราแบ่งภาวะไม่สนใจทางเพศออกเป็น 4 ชนิดได้แก่

•Hypoactive sexual desire disorder หมายถึงภาวะที่ไม่มีความต้องการทางเพศ ไม่สนใจในการมีเพศสัมพันธุ์

•Sexual aversion disorder หมายถึงภาวะที่รังเกียจ หรือหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธุ์ มักจะเกิดหลังจากเหตุการณ์รุนแรงทางเพศ เช่นถูกทำร้ายร่างกายก่อนมีเพศสัมพันธุ์ หรือถูกกระทำชำเรา

•female sexual arousal disorder หมายถึงมีความต้องการทางเพศเมื่อได้รับการกระตุ้นแล้วก็ไม่สามารถมีความตื่นเต้นทางเพศ

•Female orgasmic disorder หมายถึงภาวะที่ผู้หญิงไม่สามารถถึงจุดสุดยอด

•Dyspareunia หมายถึงการที่มีอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธุ์

•Vaginismus หมายถึงภาวะที่กล้ามเนื้อช่องคลอดมีอาการหดเกร็งเวลามีเพศสัมพันธุ์ ทำให้ร่วมเพศเต็มไปด้วยความลำบาก

การตรวจวินิจฉัย

•ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า vaginal photoplethysmography สอดเข้าไปในช่องคลอดเพื่อวัดอุณหภูมิและปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงช่องคลอด
•วัดความเป็นกรดของช่องคลอด หากวัดได้เกิน 5 แสดงว่าอาจจะขาดฮอร์โมน
•biothesiometer เป็นการวัดการตอบสนองของแคมใหญ่ หรือตุ่มคลิตอรีสต่อสิ่งเร้า เช่นการดูภาพยนต์โป๊ หรือการช่วยตัวเอง

นอกจากนั้นยังมีโรคต่างๆที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาในการมีเพศสัมพันธุ์ เช่นโรคเบาหวาน วัยทอง หรือโรคทางระบบประสาท


สาเหตุของ FSD

สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจจะทำให้เกิดภาวะ สาเหตุของ fsd

•สุรา
•ความเครียด
•โรคซึมเศร้า
•ความวิตกกังวล
•โรคประจำตัว

ได้มีทฤษฎีอธิบายสาเหตของภาวะนี้ ได้แก่

•ทฤษฎีหลอดเลือดแดงตีบทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะอุ้งเชิงน้อยซึ่งอาจจะเกิดจาก อายุ ความเครียด โรคเบาหวาน หลอดเลือดแดงแข็ง ทให้ช่องคลอดแห้ง ปุ่มคลิตอรีสไม่ไวต่อการกระตุ้น จากทฤษฎีนี้ทำให้เกิดการผลิตยาทาเพื่อเพิ่มเลือดให้ไปเลี้ยงบริเวณนี้เพิ่มขึ้น
•ทฤษฎีฮอร์โมน เมื่อร่างกายขาดฮอร์โมนจะทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลง
•ทฤษฎีที่สามไม่ใช่ทั้งขาดฮอร์โมนหรือเลือดไปเลี้ยงไม่พอ แต่เกิดจากการที่ผู้ชายไม่มีความรู้หรือประสบการณ์มากพอที่จะกระตุ้นให้ผู้หญิงมีความรู้สึกทางเพศ ซึ่งทำให้ผู้หญิงผิดหวัง ไม่มีความสนใจทางเพศ และอาจจะรุนแรงถึงขั้นกลัวการมีเพศสัมพันธ์

นอกจากนั้นก็มีโรคประจำตัวที่ทำให้เกิดภาวะนี้ เช่น

•การขี่จักรยานนาน ทำให้เบาะกดหลอดเลือด
•การสูบบุหรี่
•ยาบางชนิด
•อุบัติเหตุที่ไขสันหลัง
•การผ่าตัดในช่องเชิงกราน
•การกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
•ช่องคลอดฝ่อ


การรักษา

จากประวัติและตรวจร่างกาย หากไม่ทราบสาเหตุของความไม่สนใจทางเพศ การดูแลรักษาจะต้องให้การดูและแนะนำทั่วไป

1.การศึกษาจะต้องให้คู่ครองมีการปรึกษาหารือเรื่องความต้องการทางเพศ ต้องเรียนรู้ส่วนต่างของร่างกายที่ไวต่อการกระตุ้น การตอบสนองของร่างกายเมื่อได้รับการกระตุ้น ขั้นตอนการมีเพศสัมพันธุ์ที่ต้องเริ่มด้วยการเร้าโลมจนกระทั่งมีความตื่นตัวทางเพศ แล้วจึงมีเพศสัมพันธุ์ นอกจากนั้นเมื่อแพทย์วินิจฉัยโรคใหม่ หรือได้รับยาใหม่ว่าจะมีผลข้างเคียงของยา
2.สนับสนุนให้ใช้เครื่องมือหรือสื่อที่กรุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศ เช่นหนังสือ VDO วาวหวิว เครื่อง vibrator หรือกระตุ้นให้ช่วยตัวเองเพื่อที่จะได้เกิดอารมณ์ทางเพศ เปลี่ยนบรรยากาศในการมีเพศสัมพันธ์ เปลี่ยนท่า เปลี่ยนสถานที่
3.เมื่อเวลามีเพศสัมพันธ์ให้สร้างบรรยากาศที่โรแมนติก เช่นการขมิบก้นขณะมีเพศสัมพันธ์ การเปิดเพลงที่เพราะ
4.สนับสนุนให้มีการสัมผัสหรือนวดโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธุ์ หากบริเวณใดหากบริเวณใดที่สัมผัสแล้วให้ความรู้สึกเสียวหรือสบายก็ให้บอกคู่ให้ทราบ หากจะผลัดกันนวดหรือสัมผัสกัน อาจจะใช้ปากช่วนกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกซึ่งไม่จำเป็นต้องให้ถึงจุดสุดยอด
5.การป้องกันอาการปวด อาจจะให้ผู้หญิงอยู่บนเพื่อควบคุมความลึกของการมีเพศสัมพันธ์ หรืออาจจะใช้ยาชาทา หรืออาจจะอาบน้ำอุ่นก่อนมีเพศสัมพันธุ์ หรืออาจจะใช้ครีมหล่อลื่น
การแก้ไข FSD ในภาวะต่างๆ

เกิดอาการเจ็บขณะร่วมเพศ Sex Pain Disorders

อาการเจ็บปวดขณะร่วมเพศอาจจะแบ่งเป็นสามระดับ คือระดับผิวๆ ระดับช่องคลอด และระดับลึก การแก้ไขเบื้องต้นสามารถกระทำได้ดังข้อ 5 ส่วนผู้ที่มีช่องคลอดหดเกร็งจนกระทั่งอวัยวะเพศชายไม่สามารถล่วงลำ้เข้าไปได้ ก็สามารถแก้ไขโดยการใช้นิ้วมือ หรือผ้าอนามัยชนิดแท่งสอดเข้าไปค่อยๆขยายและคาไว้ 15 นาทีจนกระทั่งคิดว่าขยายเพียงพอ

ยาที่มีผลต่อการมีเพศสัมพันธ์(ทำให้ความต้องการทางเพศลดลง,ลดการตื่นตัวทางเพศ และมีผลต่อการถึงจุดสุดยอด) ได้แก่
 
ยาจิตเวช ได้แก่ ยารักษาโรคจิต,ยากลุ่ม phenobarb, ยาคลายเครียด bezodiazepine,ยาต้านซึมเศร้ากลุ่ม Selective serotonin reuptake inhibitors 
ยารักษาโรคความดันและโรคหัวใจ ได้แก่ ยาลดไขมัน, ยาลดความดันกลุ่ม betablock , ยาลดความดันโลหิต(clonidine), ยารักษาโรคหัวใจ(digoxin), ยาขับปัสสาวะ
ฮอร์โมน ได้แก่ ยาคุมกำเนิด
ยาอื่นๆ ได้แก่ Indomethacin ยาแก้อักเสบ, Ketoconazole ยารักษาเชื้อรา, Phenytoin sodium ยากันชัก, Histamine H2-receptor blockers ยารักษากระเพาะ   ยาบ้าและยาลดน้ำหนัก





ขอบคุณ ที่มา : http://www.siamhealth.net/


Tag :




แสดงความคิดเห็น






Content-Seo


Advertisement