รับประทานอย่างไรให้ดวงตางามใส



...หากคุณรู้สึกว่าดวงตาเริ่มชราภาพ สามารถใช้อาหารเสริมแก้ดังต่อไปนี้

          * สารเบต้าแคโรทีน คือวิตามินเอรูปแบบหนึ่ง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญที่จะใช้ถนอมดวงตาจากความเสื่อม โดยเฉพาะจะต้านแสงอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดได้ หากร่างกายมีเบต้าแคโรทีนมากพอจะทำให้เลนส์ตาใส ชะลอเวลาการเกิดต้อกระจก
          * วิตามินซี ทั้งไบโอฟลาโวนอยด์ และแอนโทไซยานิน ล้วนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีผลต่อความใสของเลนส์ตา ทำให้คอลลาเจนแข็งแรงขึ้น
          * สังกะสี จะช่วยชะลอความเสื่อมของจุดรับแสงในลูกตา ซึ่งจะทำให้เราเห็นภาพชัดตลอดเวลา
          * วิตามินอี จะช่วยทำให้เลนส์ตาใส และป้องกันจุดรับแสงในลูกตาเสื่อม หาวิตามินอีได้จากข้าวกล้อง วีทเจิร์ม ถั่วต่าง ๆ เป็นต้น
          * น้ำมันปลา ทั้ง EPA และ DHA จะช่วยทำให้ดวงตาชุ่มชื้น ป้องกันตาแห้ง ทำให้น้ำในลูกตาไหลเวียนได้ดี
          * สำหรับวิตามินและอาหารเสริมสำหรับสุขภาพของดวงตาตามที่ AREDS หรือหน่วยงานวิจัยโรคตาจากความเสื่อม แนะนำเอาไว้คือ

              เบต้าแคโรทีน วันละ 15 มิลลิกรัม
          วิตามินซี วันละ 500 กรัม
          วิตามินอี วันละ 400 หน่วยสากล
          สังกะสี วันละ 80 มิลลิกรัม

          ที่จริงอาหารเสริมทั้งหมดนี้หาได้จากอาหารในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าใครเริ่มมีความเสื่อมของลูกตา เช่น ตามัว ตาแห้ง ตาพร่า มองเห็นไม่ชัดเฉพาะตรงกลางลานสายตา ต้อกระจก ต้อหิน ขี้ตามาก แสบตา ระคายตา จะลองเอามาใช้ก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย แต่ในระยะยาวหาจากอาหารที่เรากินในชีวิตประจำวันจะมีประโยชน์ต่อดวงตาอย่างยั่งยืนกว่า
          ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างเมนูอาหารสำหรับเสริมสุขภาพของตา


แยมฟักทอง

เครื่องปรุง
          ฟักทอง 500 กรัม
          เมล็ดฟักทอง 100 กรัม
          น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
          เกลือนิดเดียว

 

วิธีทำ
          นึ่งฟักทองก่อน ปอกเปลือกฟักทองออก ขูดเอาแต่เนื้อ คลุกเนื้อฟักทองตอนร้อน ๆ กับน้ำตาลทราย เติมเกลือนิดเดียวให้พอมีรสจัด เมล็ดฟักทองปอกเปลือกออก แล้วบดลงไปผสมใช้ทาขนมปังโฮลวีท

หมายเหตุ :  ฟักทองมีเบต้าแคโรทีน ลูทีน ซีแซนทีน ที่ชะลอความเสื่อมของดวงตาได้ดี ส่วน เมล็ดฟักทองอุดมด้วยสังกะสี จึงดีมากสำหรับดวงตา



ขอบคุณ ที่มา : นิตยสารขวัญเรือน


Tag :




แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement