เป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ ที่นอกจากจะมีประจำเดือน ซึ่งคุณผู้หญิงทั้งหลายจะต้องเป็นกันทุกคนทุกเดือนอยู่แล้ว ก็ยังมีของเหลวอีกชนิดหนึ่ง ที่มักจะหลั่งออกมาจากช่องคลอดบ่อยๆไม่เป็นเวล่ำเวลา ซึ่งเราเรียกกันโดยทั่วไปว่า ตกขาว
ตกขาวคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ตกขาว คือสิ่งที่ถูกขับออกมาตามธรรมชาติ มีหน้าที่หล่อลื่นภายในช่องคลอด จะสังเกตเห็นว่าในเวลาที่มีการร่วมเพศ สารนี้จะหลั่งออกมามากกว่าปกติ เพื่อหล่อลื่นและลดการเสียดสี ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บในขณะร่วมเพศ โดยปกติตกขาวจะมีลักษณะเป็นมูกลื่นสีขาวขุ่นเล็กน้อย นอกจากจะหลั่งออกมาในเวลาร่วมเพศ หรือเวลาที่มีการตื่นตัวทางเพศแล้ว อาจหลั่งออกมามากในภาวะที่ระดับฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงตามรอบเดือน, ภาวะการตั้งครรภ์, การใช้ยา หรือใส่ห่วงคุมกำเนิด และการรับประทานอาหารหรือยาบางชนิด ซึ่งหากไม่มีกลิ่นและสีที่ผิดปกติ ก็ไม่ถือว่าเป็นตกขาวที่ผิดปกติ อย่างไรก็ดีควรจะหมั่นรักษาความสะอาด ในบริเวณจุดที่ซ่อนเร้นนั้น อยู่เป็นประจำ และไม่ปล่อยให้เกิดการอับชื้น มิฉะนั้นเชื้อรา และเชื้อโรคทั้งหลายก็จะแวะเวียนมารุมเร้ารุกรานให้รำคาญใจได้
เชื้อโรคตัวการร้ายทำลายตกขาว
เมื่อใดก็ตามที่คุณดำรงตนอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงต่อโรคอยู่เสมอๆ เชื้อโรคทั้งหลายแหล่ที่เฝ้ารอโอกาสอยู่แล้วย่อมจะเข้าจู่โจมคุณ ความผิดปกติของตกขาวก็เช่นกัน ตัวการสำคัญที่ทำให้ตกขาวมีลักษณะผิดปกตินั้นก็คือ เชื้อโรค อันได้แก่ เชื้อราในช่องคลอด และเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
1. เชื้อราในช่องคลอด
ตกขาวจะมีลักษณะข้นเป็นสีเหลืองไปจนถึงสีเขียว ร่วมกับมีอาการคันที่ปากมดลูกหรือบริเวณช่องคลอด
การรักษา แพทย์จะตรวจภายในช่องคลอดและวิเคราะห์ตกขาว ถ้าพบเชื้อราแพทย์จะให้ยาเหน็บฆ่าเชื้อรา ในกรณีมีสามี แพทย์จะให้การรักษากับสามีด้วย โดยการใช้ยาทาอวัยวะเพศเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อรามาติดอีก อย่างไรก็ดีควรงดการร่วมเพศในระหว่างการรักษาด้วย ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
2. เชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เช่น โรคหนองในเทียม โรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อทริโคโมแนสและโรคหนองในจะทำให้มีอาการตกขาวสีคล้ายหนองและมีกลิ่นผิดปกติมาก ร่วมกับอาการคันช่องคลอด เจ็บเวลาร่วมเพศ ปัสสาวะขัดและแสบ
การรักษา หากคุณมีอาการดังกล่าวจะต้องรีบให้แพทย์ตรวจเพื่อวิเคราะห์เชื้อและรักษาโดยด่วนเพื่อความปลอดภัยของคุณเอง
ที่มา : นิตยสาร Lisa