อยากทราบกันไหมคะว่าในสายตาชาวต่างชาติโดยเฉพาะพวกฝรั่งเค้าคิดเห็นอย่างไรกับการใช้ชีวิตของเรา และสรุปพฤติกรรมของพวกเราออกมาด้วยคำจำกัดความแบบไหนบ้าง เจ็บๆ แสบๆ คันๆ ปนฮา ตามสไตล์ฝรั่ง(ปากจัด)เค้าน่ะค่ะ ^^"
จะเป็นคนกรุงเทพของแท้ต้อง...
10. การแต่งกาย
วัยรุ่นชาย : สวมเสื้อโปโล อะไรก็ได้ที่มาจากแบรนด์ Ralph Lauren, Paul Smith หรือ Comme desGarçons กางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ ไม่ต้องสนว่าจะไปเดินเล่นชายหาดหรือโรงแรมหรูห้าดาว รองเท้าแตะคือกุญแจสำคัญ และโปรดอย่าลืม ยกปกเสื้อของคุณตั้งขึ้นด้วยนะจ๊ะ
วัยรุ่นหญิง : เลือกวงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีที่คุณชอบมาสักวง แล้วบรรจงแต่งตัวตามแบบนั้นเลย ประหนึ่งว่าคุณเป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปวงนั้น และถึงแม้การทำศัลกรรมพลาสติกจะยังไม่แพร่หลายทุกหัวระแหงเท่าที่เกาหลี แต่รอไม่นานหรอก
9. การเลือกร้านอาหาร
ร้านอาหารริมทางนั้นยอมรับได้ถ้าคุณเป็นพวก 1. นักเรียน 2. มื้อเที่ยงของพนักงานบริษัทที่มีเวลาจำกัดเพียงชั่วโมงเดียว 3. หรือ คุณกำลังเมาได้ที่หลังตี 2
หากคุณไม่ได้อยู่ในกลุ่มดังกล่าว คุณต้องหาร้านหรูหราแพงพิเศษ สุดแสนบรรเจิด ไม่ซ้ำซากจำเจ ประเภท ร้านอาหารฝรั่งเศส/อิตาเลี่ยน/ญี่ปุ่น หรือไทย แต่ต้องเป็นสไตล์ฟิวชั่น(fusion) หรือ บิสโทร(bistro) จึงจะกระตุ้นต่อมอยากอาหารของคุณได้ดีเท่าที่ควร และแหล่งที่คุณควรเข้าไปคลุกคลีให้เหมือนบ้านก็คือ ทองหล่อ จ้ะ
แถมอีกนิดนึง คุณต้องไม่ลืมที่จะใส่มายองเนสในซูชิ ใส่ซอสมะเขือเทศในพิซซ่า และ อัพอาหารทุกจานลงอินสตาแกรม
8. การใช้รถไฟฟ้า BTS
ถ้าคุณกำลังรอรถอยู่บนชานชาลา จงเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ แต่ถ้ารถมาถึงปุ๊บ คุณสามารถพลัก ดัน แหวกว่ายใครก็ตามที่ขวางหน้าโดยไม่ต้องสนว่าคนในรถได้ออกมาหรือยัง ขอให้คุณได้เข้าไปเป็นคนแรกเป็นพอ
ถ้าคุณขึ้นมาอยู่บนรถแล้วและไม่มีที่นั่งว่าง จงมองหาเสาที่อยู่ใกล้ๆและยืนเอาทั้งตัวพิงเสานั้นไว้ อย่าได้แคร์ว่าจะมีมือของใครจับหรือพยายามจะแทรกมาจับเสาของคุณ..เชิดใส่
ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะใจร้ายไปหน่อย แต่คนไทยเกือบจะทุกคนจะเสียสละที่นั่งให้ คนท้อง คนแก่ หรือแม่ที่มีเด็กเล็กๆมาด้วย อย่า ! พยายามแกล้งหลับเสียให้ยาก
7. การขาดวิตามิน ดี
ในเมืองไทย การมีผิวขาวสว่างใสถือเป็นรางวัลจากพระเจ้า จงพกร่มตลอดเวลา อย่าปล่อยให้แสงแดดมีโอกาสมาโลมเลียผิวของคุณ ถ้าลืมหรือไม่มี ให้ใช้หนังสือ หรือกระเป๋าสตางค์ปิดใบหน้าเอาไว้หน่อยก็ยังดี
และจงลงทุนอย่าหนักในผลิตภัณฑ์ไวเทนนิ่งทั้งหลาย หรือแม้กระทั่งโรลออนทารักแร้ และต้องใส่ถุงแขนไว้ระหว่างขับรถ เพื่อไม่เปิดโอกาสให้เจ้าวิตามิน ดี จากแสงแดดตัวร้ายได้เล่นงานคุณ และอย่าได้บังอาจลงว่ายน้ำในสระของโรงแรมก่อนที่แดดจะคล้อยลับมุมตึกไปเสียก่อนนะจ๊ะ
6. การดื่ม
ร้านไวน์กำลังอิน คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องไวน์(คนที่นี่ไม่มีใครรู้สักคน) แค่เลือกสักแก้วที่ชื่อฟังดูเร้าใจสุด (ออกหรูหรา หรือสำเนียงไฮๆหน่อย) หมุนไวน์ในแก้วสักหน่อยแล้วสูดกลิ่นและพึมพัมว่า โอ้..เป็นไวน์ที่ดีจริงๆ แล้วคุณก็สั่งไวน์แดงแช่เย็นมาทั้งขวด (ฝรั่งนักดื่มไวน์จะไม่ดื่มไวน์แดงแบบแช่เย็นค่ะ นอกจากแชมเปญหรือสปาร์กคลิ่งไวน์)
เช่นกัน อย่าได้ลืมที่จะเติมน้ำแข็งลงในเบียร์และเติมน้ำเปล่าลงในแก้ววิสกี้ของคุณจนมันได้ที่เป็นสีเหมือนชาคาโมไมล์
5. การรับมือกับสถาณการณ์ยากลำบาก
ถ้าคุณเผลอทำอะไรผิดพลาดลงไป เผลอเหยียบเท้าใครเข้าให้ หรือไม่รู้จะตอบคำถามนั้นอย่างไร จงอย่ายอมรับความผิดนั้น มันเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ ถ้ามีข้อสงสัย จงทำทีเป็นไม่ใส่ใจ ไม่เป็นไร และยิ้มกลับไปอยู่ในมุมแห่งความสุขสบายของตัวเอง
4. การสื่อสาร
ทุกๆคนล้วนเป็นคนในครอบครัว เด็กเสิร์ฟคือ น้อง คนขับแท็กซี่คือ ลุง และคนขายผัดไทยคือ ป้า และการไหว้คือ การทักทายตามวัฒนธรรม ใช้สำหรับเด็กไหว้ผู้ใหญ่ที่อาวุโสกว่า แต่ไม่ใช่การไหว้ไปทั่วทิศกับทุกคน อาจดูน่าเอ็นดูถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยว แต่คนปกติเค้าไม่ทำกัน
ผู้หญิงจะลงท้ายประโยคด้วยคำว่า ค่ะ และผู้ชายด้วยคำว่า ครับ ไม่ว่าความหมายของประโยคจะเป็นในทางใด แต่น้ำเสียงจะยังคงสุภาพตลอด เช่น พี่กลิ่นตัวแรงจังค่ะ หรือ ผมไม่ชอบหน้าคุณเลยครับ และเวลาส่งเมสเซจให้ใช้ 555 แทนเสียงหัวเราะ เข้าใจ๋ 5555
3. การใช้คำแทนตัว
ไม่มีใครในกรุงเทพ หรือประเทศไทยที่จะแทนตัวด้วยชื่อจริง ที่บ้างครั้งอาจยาวขนาด 20 ตัวอักษร ทุกคนจะแทนตัวด้วยชื่อเล่นที่เรียกง่ายๆ และไม่ว่ามันจะเป็นอะไร หรือมาจากอะไรก็ตาม ถ้าพ่อแม่คุณชอบรถเมอร์ซิเดส คุณก็อาจชื่อ เบนซ์ หรือถ้าแม่คุณชอบทานแอปเปิ้ล คุณก็อาจจะชื่อ แอปเปิ้ล
ไม่มีอะไรแปลกประหลาด หรือแม้แต่ข้อจำกัดใดๆ เพราะทุกวันนี้ก็เริ่มมีเด็กๆ ที่ชื่อ น้องเบิร์ธเดย์ หรือ น้องแต๊งกิ้ว กันแล้ว
2. การออกสำรวจเมือง
อย่าได้ริอาจใช้บริการรถตุ๊ก ตุ๊ก ถ้าคุณยังไม่อยากโดยสารพร้อมกับผักสดจากตลาด จงเดินทางโดยรถยนต์ หรือ รถไฟฟ้า ถึงแม้ว่ามันจะเป็นระยะทางแค่ช่วงตึกเดียว
ถ้าต้องการโดยสารรถแท็กซี่ ก็จงอดทนกับการนั่งนิ่งๆเป็นเวลานานๆ ถ้าเกิดรถติด หรือจงอย่าแปลกใจที่แท็กซี่จะไม่ไปส่งในที่ที่คุณต้องการ เช่น สีลม หรือสยามในชั่วโมงเร่งด่วน เพราะเกือบทุกคันต้องไปส่งกะ และถ้าคนขับขอเรียกเก็บค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายโดยไม่ใช่มิเตอร์ ก็จงเปลี่ยนคันเสียโดยดี ไม่มีคนกรุงเทพคนไหนใช้บริการแท็กซี่แบบเหมาจ่ายหรอก
1. การขึ้นบันไดเลื่อน
ในเมืองใหญ่ๆบางเมืองผู้คนจะเลือกยืนข้างใดข้างหนึ่งของบันไดเลื่อน แล้วปล่อยช่องว่างไว้ให้กรณีผู้มีเรื่องด่วนต้องรีบไป แต่สำหรับที่นี่ ไม่มีใครรีบร้อนทั้งนั้น คุณสามารถยืนจังก้ากลางบันไดได้โดยปกติ แล้วหากมีใครมาสะกิดขอทางคุณ ก็ให้ส่งสายตาค้อนเข้าให้สักที โทษฐานทำในสิ่งที่ไม่ควรเล้ย
แหะ แหะ...อ่านแล้วขอบอกว่า อ่านเอามันส์ เรียนรู้ความคิดของคนอื่นเหมือนเอากระจกมาส่องสะท้อนตัวเองเท่านั้นก็คงพอนะคะ เพราะถ้าจะบอกเป็นการสรุปความ การเป็นคนกรุงเทพหรือคนไทยแท้ทั้งหมด ก็คงไม่ใช่ พูดตามจริงงานเขียนชิ้นนี้ใช้แค่หลักการสังเกตพฤติกรรมแต่ไม่ได้ทำความเข้าใจ หรือวิเคราะห์ บริบท ที่มาที่ไปว่า เพราะอะไร ยังไง ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ถือว่าเป็นคู่มือนำเที่ยว intro สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาเที่ยวเมืองไทยนั่นแหละค่ะ ^^
ขอบคุณ ที่มา : cnngo.com
เรียบเรียงเนื้อหาบทความโดย jaja wean ผู้หญิงนะคะดอทคอม