คุณแม่คนดัง ร่วมต้านไวรัสโรต้า
ในขณะที่ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง โรคร้ายที่ดูหมือนเป็นโรคธรรมดาก็ทวีความรุนแรงขึ้นไม่น้อยไปกว่ากัน ที่สำคัญเชื้อโรคเหล่านี้ยังมีความต้านทานการรักษามากขึ้นด้วย ทำให้เรายิ่งต้องใส่ใจดูแลและป้องกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะโรคภัยที่เกิดขึ้นกับลูกน้อย
ไวรัสโรต้า เชื้อโรคร้ายที่เป็นสาเหตุของโรคอุจจาระร่วงรุนแรงในเด็ก เป็นอีกหนึ่งเชื้อโรคที่มีความรุนแรงและอันตรายมากจนพ่อแม่ไม่อาจมองข้ามได้ เพราะการได้รับเชื้อไวรัสโรต้าอาจมีผลกระทบต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตไม่สมวัยได้และที่สำคัญเชื้อไวรัสโรต้านั้นติดต่อได้ง่ายเพียงสัมผัสเชื้อที่ปนเปื้อนบนสิ่งของแล้วเอาเข้าปากก็ทำให้ติดเชื้อได้แล้ว การรักษาความสะอาดก็ไม่สามารป้องกันได้เพราะเชื้อค่อนข้างทนทาน
จากงานสัมมนา Early Protection ที่จัดขึ้นโดยโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ได้มีการให้ความรู้เรื่องไวรัสโรต้าไว้อย่างน่าสนใจ ซึ่งแพทย์หญิงหทัยทิพย์ ภารดีวิสุทธิ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาทารกแรกเกิดและปริกำเนิดประจำโรงพยาบาล ได้ให้คำแนะนำฝากไปถึงคุณพ่อคุณแม่ว่า โรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้าไม่ใช่เรื่องธรรมดาอีกต่อไปแล้ว เพราะเด็กเกือบทุกคนจะต้องเคยติดเชื้อไวรัสโรต้าอย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนอายุ 5 ขวบและบางคนอาจต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลไปหลายวันทีเดียว ดังนั้นพ่อแม่จึงควรมีความรู้และเข้าใจเพื่อที่จะป้องกันลูกจากโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พ่อแม่ควรสังเกตอาการของลูกที่ได้รับเชื้อไวรัสโรต้า เช่น ถ่ายเหลวอาจมากถึง 10-20 ครั้งต่อวัน อาเจียนอย่างหนัก ไม่สามารถทานนมได้ และหากเป็นซ้ำๆ หลายครั้งร่างกายก็จะขาดสารอาหารที่จำเป็น อาการเหล่านี้ส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกายและสมองของเด็กโดยตรง ทำให้ IQ อาจลดลงบ้าง เรียนไม่ทันเพื่อนเมื่อโตขึ้น ดังนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดในปัจจุบันคือการป้องกันด้วยวัคซีน พ่อแม่ควรให้ลูกได้รับการป้องกันเพื่อลดความรุนแรงของโรค ยิ่งป้องกันเร็วเท่าไหร่ยิ่งห่างไกลโรคร้ายเร็วขึ้นเท่านั้น โดยสามารถรับวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือนขึ้นไป
นอกจากกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเชิญชวนป้องกันสุขภาพของลูกน้อยแล้ว คุณแม่คนดังหลายๆ คนก็ให้ความสำคัญกับอันตรายนี้เช่นกัน จึงได้ร่วมส่งกำลังใจและกระตุ้นเตือนให้พ่อแม่ยุคใหม่หันมาสนใจดูแลลูกน้อยเสียตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าจะเป็น กบ-สุวนันท์ ปุณณกันต์, คุณดา ภดารี บุนนาค และคุณน้ำผึ้ง จารุวรรณ โชติเทวัญ
คุณแม่คนดังได้ฝากข้อคิดไว้อย่างน่าสนใจว่า ลูกต้องเรียนรู้จากสิ่งที่อยู่รอบตัวเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการทุกๆ ด้าน จึงมีโอกาสมากที่เขาจะได้รับเชื้อโรคต่างๆ จากรอบตัวเช่นกัน ดังนั้นในฐานะพ่อแม่จึงควรเตรียมความพร้อมให้เขาโดยเฉพาะความพร้อมด้านสุขภาพ สร้างภูมิคุ้มกันที่ดี เพื่อให้เขาเรียนรู้โลกได้อย่างเต็มที่โดยไม่ถูกปิดกั้นด้วยโรคร้ายที่อาจทำลายศักยภาพในการพัฒนาร่างกายและสมองของเขา
แม้ว่าโรคร้ายจะรุนแรงมากขึ้นจนคุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลกันมากขึ้น แต่อย่าเพิ่งเครียดกันจนเกินไป เพียงแค่ติดตามข่าวสารด้านสุขภาพที่เกี่ยวกับครอบครัวอยู่เสมอ เรียนรู้วิธีป้องกันอย่างถูกต้อง เพียงเท่านี้ก็สามารถปกป้องลูกน้อยได้ก่อนที่เชื้อโรคร้ายจะเข้าถึงตัวเขาได้แล้ว
ข้อความโดย โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์