กรณีน้องปอนด์ หรือดวงใจ จันทร์สระน้อย ที่กำลังได้รับการวิพาษ์วิจารณ์ในวงกว้างกรณีโชว์การเปลือยอกเพ้นท์ภาพ ในการแข่งขันโชว์ความสามารถในรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งขอโอกาสออกมาชี้แจง ถึงสาเหตุที่เลือกตัดสินใจโชว์หวิวออกอากาศ เพื่อให้สังคมหายเคลือบแคลง และเพื่อยุติปมปัญหาที่เกิดขึ้น แม้ที่ผ่านมาผู้บริหารของเวิร์คพอยท์จะออกมาขอโทษและยืนยันว่า จะไม่ให้มีเรื่องในลักษณะนี้เกิดขึ้น ทว่า เรื่องนี้ก็ยังคงไม่จบลงแต่อย่างใด หลังบุคคลที่อ้างตัวเป็นเพื่อนของน้องปอนด์ได้ออกมาให้รายละเอียด ว่า จริงๆ แล้วเพื่อนของตนเองนั้นที่เข้ามาประกวดรายการนี้ ก็เพราะมีคนมาติดต่อโดยให้ค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน1 หมื่นบาท ซึ่งที่ตนต้องออกมาแฉเช่นนี้ ก็เพราะรู้สึกสงสารเพื่อนที่ต้องตกเป็นจำเลยสังคม
โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ ( 25 มิ.ย.) นาย ณวัฒน์ อิสรไกรศีล พิธีกรรายการมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปถ่ายทำรายการและบันทึกเทปเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวของน้องปอนด์ หรือดวงใจ จันทร์สระน้อย ที่บ้านเลขที่ 31 หมู่13 อ.ลา จ.แพร่ โดยน้องปอนด์ได้เปิดเผยเป็นครั้งแรกหลังเก็บตัว เงียบจากความเครียดกระทั่งเข้าโรงพยาบาล จนแพทย์ระบุเครียดว่านานอาจส่งผลเป็นโรคประสาท จึงพยายามทำจิตใจให้สบาย
ภาพจากเดลินิวส์ออนไลน์
นายณวัฒน์ เปิดเผยต่อไปว่า จากการเข้าไปสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่พบพ่อของน้องปอนด์อายุ 73 ปี อดีตเคยเป็นนักมวยอาชีพ แต่ต้องกลับมานอนไม่รู้ตัวด้วยโรคอัมพาตเป็นเวลาถึง 12 ปี จากอุบัติเหตุ แม่ที่เคยมีอาชีพรับจ้างจึงต้องทำหน้าที่ดูแลสมาชิกในครอบครัวซึ่งประกอบด้วย น้องสาวที่กำลังเรียนระดับชั้น ม.4 และ ลูกสาวของน้องปอนด์ อายุได้ 6เดือน ส่วนตัวน้องปอนด์เองต้องเข้ามาหางานทำโดยการเป็นนักเต้นโคโยตี้ โดยไม่มีรายได้อื่นเสริมและต้องส่งเงินกลับบ้านเดือนละ3-5พันบาททุกเดือนเพื่อรักษาพ่อที่ป่วย โดยน้องปอนด์ยอมรับว่าถูกจ้างเป็นเงิน 1 หมื่นบาทจริงแต่เงื่อนไขในการจ้างไม่ได้เปลือยกายท่อนบนทั้งหมดยังคงมีเสื้ออยู่ จึงได้เดินทางไปในช่วงเช้ากว่าจะได้ถ่ายทำก็ช่วง18.00 น.ก่อนถ่ายทำได้มีการเพิ่มเติมเงื่อนไขเพื่อเพิ่มสีสันของรายการ ไม่ได้ใช้ภาพออกอากาศมากมายเพียงนิดหน่อยเท่านั้น และขอให้ถอดเสื้อและเสื้อชั้นในด้วย โดยเวลานั้นน้องปอนด์กล่าวว่ายังไม่ได้เงินค่าจ้างเมื่อถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยจึงจะมีการจ่ายค่าจ้างตนก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดว่าคงจะไม่เข้ารอบอย่างแน่นนอน ซึ่งหลังถ่ายทำเสร็จ รับเงิน 1หมื่นบาทก็มีรถไปส่งถึงที่พัก ส่วนผู้ที่ว่าจ้างทราบเพียงชื่อบอย และถ้าตนรู้มาก่อนว่าต้องถอดเสื้อผ้าโป๊หมดขนาดนี้ตนคงจะไม่มาทำเช่นนี้ อย่างไรก็ดีเวลานี้รู้สึกอับอายและเครียดมากเนื่องจากต้องตกเป็นจำเลยของสังคม ไม่กล้าออกจากบ้าน และต้องเปลี่ยนเบอร์มือถือ และไม่กล้าแม้แต่ออกไปทำงานตามปกติ แล้วจึงอยากขอพื้นที่สื่อที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดในการพูดให้ประชาชนทราบทั้งสองฝ่ายขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างยุติลง และขอโทษไปยังคนไทยทั้งประเทศด้วยตนเองมีฐานะที่ยากจนจึงต้องตัดสินใจทำเพื่อนำเงินที่ได้มาเป็นทุนรักษาพ่อและดูแลครอบครัวโดยเมื่อไม่นานมานี้สามีก็มาตกงานไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว ประกอบกับตนเดินทางไปถ่านทำรายการมีการเปลี่ยนเงื่อนไขตนยังไม่ได้เงินจึงยอมตัดสินใจทำลงไป
ขอบคุณ ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์