Smooth E White  Therâpie By อ.ภญ.หรรษา   มหามงคล หลังจากได้ลอง Smooth E Perfect Skin Therâpie และติดใจกับความหนืดขณะทา ที่กลายเป็นความลื่นเมื่อโลชั่นแห้ง ก็ทำให้อยากลองโลชั่นทาผิวอีกรุ่นของยี่ห้อเดียวกัน ในกลุ่มเดียว มันคือ Smooth E White Therâpie สองสูตรนี้เหมือนเป็นฝาแฝดกันเลยค่ะ ขวด airless pump เหมือนกัน ขนาดเท่ากัน ฉลากต่างกันที่ Perfect Skin Therapy เป็นพื้นเขียว ตัวหนังสือขาว ส่วน White Therâpieพื้นขาว ตัวหนังสือเขียว จริงๆแล้วผู้เขียนก็ไม่ใช่คนอยากขาวอะไรมากนะคะ แต่ผิวมีบริเวณที่ขาวบ้าง ดำบ้างเพราะการตากแดดมากในช่วงหน้าร้อนนี้ และมีรอยคล้ำในบริเวณผิวที่มีแผลเป็นเก่า เลยอยากให้มันเนียนๆสีเท่าๆกันหน่อย เจ้าโลชั่นตัวนี้อ่านสูตรดูคล้ายกับ Smooth E Perfect Skin Therâpie มากๆค่ะ ต่างกันแค่ สูตรนี้มี arbutin และ Licorice (Glycyrrhiza glabra) extract ซึ่งเป็น whitening agent เพิ่มขึ้นมา บนฉลากแยกส่วนประกอบในสูตรที่เป็นสารสำคัญออกจากส่วนประกอบที่ไม่ออกฤทธิ์ และเขียนคุณสมบัติของสารสำคัญแต่ละชนิดไว้ชัดเจน คือ Arbutin (skin whitening), Bisabolol (anti-inflammatory), Licorice (Glycyrrhiza glabra) extract (skin whitening), Hydrolyzed Barley protein (reduce stretch mark), Tocopherol หรือ vitamin E (reduce scar) และ Hydrolyzed Oat protein (skin smoother) สารที่ออกฤทธิ์เพื่อความขาวในสูตรนี้ คือ arbutin และ licorice (Glycyrrhiza glabra) extract ซึ่งเป็นสารจากธรรมชาติ ออกฤทธิ์เป็น Tyrosinase inhibitor ช่วยลดการสร้างเมลานินผ่านกลไกที่คล้ายกับการออกฤทธิ์ของ hydroquinone แต่มีฤทธิ์อ่อนกว่า และมีความปลอดภัยในการใช้ดี ดังนั้นแล้วเมื่อใช้ทาที่ผิวอย่างสม่ำเสมอ สารสำคัญสองชนิดนี้น่าจะทำให้ผิวขาวมากขึ้นได้จริง ใครที่กำลังมองหาโลชั่นทาตัวเพื่อปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และขาวขึ้น โลชั่นสูตรนี้น่าจะเวิร์คค่ะ       ในด้านเนื้อสัมผัส Smooth E White Therâpie ทาแล้วให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับ Perfect Skin Therâpie คือให้ความรู้สึกเข้มข้นมากขณะทา แต่พอแห้งแล้วกลับกลายเป็นลื่นๆบนผิวเหมือนกัน ผู้เขียนเองรู้สึกว่า White Therâpie ทิ้งความรู้สึกมันไว้บนผิวมากกว่านิดนึง ตอนนี้ผู้เขียนเลยเลือกใช้สูตร White Therâpie ทาก่อนนอน เพื่อช่วยปรับให้สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น และใช้ Perfect Skin Therâpieหลังอาบน้ำตอนเช้า เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว แถมไม่เหนอะหนะตลอดทั้งวันนั่นเอง   การเลือกใช้ครีมหรือโลชั่น ไม่ว่าจะกับใบหน้า หรือกับตัว ปรับการใช้ให้เหมาะกับผิวคุณ ใช้ถี่ใช้ห่าง ใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม และหากเป็นครีมหรือโลชั่นที่ต้องการผลที่มากไปกว่าความชุ่มชื้น ก็ต้องใช้เป็นประจำซักระยะหนึ่ง อย่างน้อยๆก็สี่ถึงหกสัปดาห์ ให้สารสำคัญออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ แสดงผลให้เห็น อย่าด่วนใจร้อน ลองตัวนั้นสองวัน ตัวนี้สามวัน แทนที่จะได้ผล จะกลายเป็นเปลืองเงินในกระเป๋า โดยที่ไม่เกิดผลอะไรเลย ....ช้าๆได้พร้าเล่มงาม และได้ผิวสวยชัวร์ๆนะคะ