เมื่อพูดถึงกีฬาขี่ม้า หลายๆคนอาจคิดว่าเป็นกีฬาที่ต้องออกแรงเหนื่อย ใช้เวลามาก เหมาะกับผู้ชาย และจำกัดวงแคบอยู่เฉพาะกลุ่ม...แต่วันนี้ ผู้หญิงนะคะ ได้ลองพาคุณมาสัมผัสโลกของการขี่ม้า ที่เราบอกได้เต็มปากว่า มันมีเสน่ห์และสร้างความสนุกเพลิดเพลินจนเราติดใจ นึกเสียดายว่ารู้แบบนี้น่าจะลองเสียตั้งนานแล้ว
ช่วงสายๆของวันอากาศดีวันหนึ่ง เราได้มีโอกาสไปเยือน The Horse Lovers Club หรือบ้านคนรักม้า สนามฝึกขี่ม้าที่มีมาตรฐานรับรองจากสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทยและจากสหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ หรือเอฟอีไอ บนเนื้อที่กว้างใหญ่ไพศาลประมาณ 70 ไร่ ในบรรยากาศที่ร่มรื่น โปร่งสบาย เราตกตะลึงในภาพแรกที่ได้เห็นม้าแต่ละตัวที่ถูกจูงผ่านหน้าเราไปเพราะเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นม้าอย่างใกล้ชิดขนาดนี้ แต่ละตัวสูงใหญ่ไม่ต่ำกว่า 160 ซม. ขนเป็นมันขลับ และเห็นกล้ามเนื้อชัดเจน บ่งบอกถึงสุขภาพ การดูแล และสายพันธุ์ที่ดีเยี่ยม
คุณแววรันต์ กมลคนธ์ (คุณอ้อน) เจ้าของบ้านคนรักม้า ได้เล่าให้เราฟังถึงที่มาของสถานที่อย่างเป็นกันเองว่า เริ่มต้นจากการเป็นคนรักม้า ถือว่าเป็นรักแรกพบก็ได้เมื่อครั้งที่คุณอ้อนยังเป็นนักศึกษาที่ประเทศอังกฤษ เมื่อกลับมาเมืองไทยจึงได้เริ่มหัดขี่ม้าเพราะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้สามารถเลี้ยงม้า และมีม้าเป็นของตัวเองได้ แต่ด้วยความรักและหลงใหลในสัตว์ชนิดนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น และต้องการที่จะดูแลสัตว์แสนรักให้ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี และมีมาตรฐาน จึงตัดสินใจสร้างคอกม้าของตัวเองขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว บนพื้นที่ที่เป็นมรดกตกทอดบริเวณคลองรังสิต โดยในช่วงแรกก็คิดว่าจะเป็นกิจกรรมเล็กๆที่มีความสุขของตัวเอง เพราะคุณอ้อนบอกกับเราว่า แค่ตื่นมาตอนเช้าแล้วเจอคนจูงม้าออกกำลังกายเดินอยู่ในบริเวณบ้าน เธอก็มีความสุขแล้ว... เธอเริ่มกิจการนี้ด้วยตัวเองโดยเรียนรู้และสะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆด้วยใจรัก และแรงสนับสนุนจากสามี คือ คุณเกริก กมลคนธ์ จนตอนนี้คอกม้าที่ตั้งใจไว้ว่าจะเป็นกิจกรรมเล็กๆของเธอนั้น มีม้าพันธุ์ดี(ส่วนใหญ่จะมาจากประเทศออสเตรียและฮอล์แลนด์)อยู่ทั้งหมด 53-60 ตัว(ขึ้นอยู่กับช่วงที่มีเจ้าของม้ามาฝากเลี้ยงไว้ด้วย) โดยมีผู้ดูแลม้า 1 คน ต่อม้า 4 ตัว มีสัตวแพทย์ประจำ และมีครูผู้ฝึกสอนอยู่ทั้งหมด 3 ท่าน(แต่ละท่านต้องผ่านการอบรมและสอบให้ได้ประกาศนียบัตรรับรองอย่างเป็นทางการจากสมาคมขี่ม้า)
<เรามีโอกาสดีที่ได้พูดคุยกับน้องกัญจน์นิกข์ ชุติมาหรือน้องเจด นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของเหรียญทองการแข่งขันขี่ม้าศิลปะการบังคับม้า กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งล่าสุดหรือสงขลานครินทร์เกมส์ ผู้ที่เริ่มเรียนขี่ม้ามาตั้งแต่อายุเด็ก และเริ่มจริงจังมาได้ 5 ปี น้องเจดบอกกับเราว่า กีฬาขี่ม้านั้นแทบจะไม่มีข้อจำกัด คือ สามารถหัดขี่ม้าได้ทุกเพศ ทุกวัย(ตั้งแต่ประมาณ 5 ขวบ หรือเด็กกว่านั้นก็ยังเคยมี ขึ้นอยู่กับความพร้อมของครอบครัวและตัวเด็กแต่ละคน) และไม่มีข้อห้ามสำหรับผู้มีโรคประจำตัว แต่อาจต้องระวังอยู่บ้างในผู้ที่เป็นโรคหัวใจกรณีเกิดความตื่นเต้นหรือกรณีฉุกเฉินไม่คาดฝัน ส่วนเครื่องแต่งกายต้องเตรียมมาเอง คือ กางเกงขี่ม้า เสื้อยืด(อาจเป็นเสื้อโปโล) และรองเท้าขี่ม้า แต่สำหรับผู้ที่ต้องการทดลองดูก่อน สามารถเตรียมกางเกงขายาวที่ทะมัดทะแมง(อาจเป็นกางเกงยีนส์ ก็ได้) เสื้อยืดและรองเท้าผ้าใบ และเตรียมใจให้พร้อมมาก็เพียงพอแล้วค่ะ แต่สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานทางกีฬามาก่อนก็อาจจะได้เปรียบอยู่สักหน่อย
<น้องเจดเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของเธอว่า ครั้งแรกที่เริ่มเรียนเริ่มจากคุณพ่อต้องการให้เล่นกีฬา แต่หนูเป็นคนรักสัตว์เลยขอคุณพ่อขี่ม้า ถามว่าเป็นผู้หญิงกลัวการบาดเจ็บไหม ส่วนตัวก็เคยมีการบาดเจ็บบ้าง แต่กีฬาทุกประเภทก็ต้องมีการบาดเจ็บกันได้อยู่แล้ว แต่ถ้ายิ่งเราเลือกคอกม้าที่มีมาตรฐานที่ดี การบาดเจ็บและอุบัติเหตุก็จะเกิดขึ้นน้อยตามไปด้วย ส่วนตัวเคยตกม้าบาดเจ็บหลายครั้งแต่ไม่ถือว่าเจ็บหนัก และไม่เคยเข็ด เพราะการขี่ม้าเป็นกีฬาที่ยิ่งเล่นยิ่งผูกพันธ์และมีเรื่องให้เรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุดค่ะ
นอกจากนี้เรายังได้มีโอกาสพูดคุยกับสาวน้อยอีกคนหนึ่งคือ น้องนิวเยียร์ บัญชาศักดิพัฒน์ สาวน้อยวัย 17 ปี ผู้ที่หลงใหลกีฬาขี่ม้าอีกคนหนึ่ง โดยน้องเริ่มเรียนตั้งแต่ยังเด็กๆ แต่คุณแม่ขอร้องให้หยุดไปเพราะกลัวว่าจะได้รับอันตรายจากการบาดเจ็บประกอบกับที่น้องต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งจะไม่สามารถขี่ม้าได้หากไม่มีม้าเป็นของตัวเอง เมื่อปิดเทอมกลับมาเมืองไทยครั้งนี้น้องจึงขออนุญาตคุณแม่กลับมาซ้อมใหม่อีกครั้ง เพราะรักและคิดถึงกีฬาชนิดนี้จริงๆ และสำหรับการขี่ม้าก็เหมือนการปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำ คือถ้าเป็นแล้วก็เป็นเลย ไม่มีการลืมค่ะ
<นอกจากนี้ คุณครูเอ้ หรือ คุณอรรคสิทธิ์ เตียตระกูล ครูผู้ฝึกสอนขี่ม้าประจำที่นี่ ดีกรีนักกีฬาทีมชาติ 2 สมัย และเจ้าของเหรียญทองขี่ม้า ในกีฬาซีเกมส์ เมื่อปี 2001 ที่ประเทศมาเลยเซีย ยังให้คำแนะนำกับผู้ที่สนใจกีฬาขี่ม้า แต่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน หรือโดยเฉพาะกับสาวๆว่า ขี่ม้าเป็นกีฬาที่ไม่น่ากลัวเลย ใครๆก็เรียนได้ ขอให้เตรียมใจมาให้พร้อม และถ้ามีพื้นฐานเป็นคนรักสัตว์อยู่แล้วยิ่งง่ายขึ้นไปอีก ม้าแต่ละตัวก็จะมีลักษณะนิสัยต่างกันไป แต่พื้นฐานเค้าจะขี้กลัว ขี้ตกใจ ก็ขอให้ปฏิบัติตามครูฝึก ไม่ทำอะไรที่เป็นการเสี่ยงหรือโลดโผน สังเกตอารมณ์เค้าง่ายๆที่หู ถ้าหูลู่ไปข้างหลังเมื่อไหร่ก็ถอยห่างออกมา อย่าไปยุ่งกับเค้า... ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ขี่ม้ากันมากขึ้น มากกว่าผู้ชายด้วย ถ้ากลัวเรื่องแสงแดด กลัวดำ เราก็มีที่ขี่ม้าในร่มให้ และกีฬาขี่ม้ายังจะช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้ดูสง่า และรูปร่างดีอีกด้วย
โดยทุกคนที่มาเรียนจะได้ขึ้นขี่หลังม้าตั้งแต่ครั้งแรกเลย ครูผู้ฝึกจะจัดม้าที่มีลักษณะนิสัยที่เข้ากับผู้ขี่ได้ให้ หรืออาจเริ่มต้นด้วยม้าที่มีนิสัยอ่อนโยน ใจดี และไม่กลัวคนแปลกหน้าก่อน ครูผู้ฝึกจะสอนอย่างใกล้ชิดทั้งท่วงท่าการขี่ ตั้งแต่การขึ้นมา การจับสายบังเหียน ไปจนถึงการเดิน การเหยาะย่าง และการวิ่ง โดยจะมีคนจูงม้าคอยดูแลความปลอดภัยให้อีกชั้นหนึ่ง เพราะฉะนั้นแม้จะเป็นครั้งแรกแต่ผู้เรียนก็จะไม่รู้สึกตื่นกลัวแต่อย่างใด แต่กลับจะสนุกเพลิดเพลิน จนไม่อยากลงจากหลังม้าเลยทีเดียวถ้าไม่ติดว่ามันเป็นกีฬาที่เรียกเหงื่อได้เร็ว ทำให้เราได้ใช้ร่างกายทุกส่วน และเหนื่อยเร็วมาก อย่างที่น้องเจดกระซิบบอกเราว่า ผู้หญิงขี่ม้าจะขาเล็กทุกคนค่ะพี่ โอ้วว.....รู้งี้ไปนานแล้ว
<
นอกจากนี้ทางบ้านคนรักม้ายังเปิดให้เด็กพิเศษได้มีโอกาสใกล้ชิด และขี่ม้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ขอเพียงแค่ค่าจูงม้าให้กับคนจูง ราคา 100 บาทเท่านั้นค่ะ
<การเตรียมตัวสำหรับผู้เริ่มต้นขี่ม้า (สามารถเริ่มหัดได้ทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่วัย 40 ปีค่ะ)
1. เตรียมใจให้พร้อม มีพื้นฐานรักสัตว์ ไม่กลัวสัตว์
2. กางเกงขายาว
3. เสื้อยืด แนะนำเป็นเสื้อโปโล
4. น้ำหนักตัวไม่ควรเกิน 80-85 กิโลกรัม
5. รองเท้าผ้าใบ
ติดต่อสอบถามอัตราค่าบริการ จองเวลาขี่ม้าหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ 0-2577-6801-3
The Horse Lovers Club บ้านคนรักม้า เปิดให้บริการทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่ 08.30-17.30 น.
>
บทความโดย jaja wean ผู้หญิงนะคะดอทคอม
ขอบคุณ : The Horse Lover's Club เอื้อเฟื้อสถานที่
: คุณอ้อน, ครูเอ้, ครูแองเจล่า, น้องเจด, น้องนิวเยียร์, น้องมาร์วิน ,พี่แว่นคนจูงม้า และน้องม้าที่น่ารักทุกๆตัวค่ะ