สำหรับสาวๆที่ได้ยินชื่อเสียงมานานแต่ยังไม่เคยมีโอกาสไปสักที วันนี้เราจะพาคุณไปขุดค้นทั้ง 7 ซอยหลักของตลาดกันแบบถึงเนื้อถึงตัว ให้หายคาใจกันไปเลยว่า ทำไม๊ ทำไม เค้าถึงชอบไปกันจัง

เส้นทางการเดินทางก็ไม่ยุ่งยากอะไรค่ะ เพียงแค่ขับรถมาตามถนนวิภาวดีรังสิตมุ่งหน้าดินแดงเรื่อยๆ ผ่านหน้าบ.การบินไทยจำกัด มหาชน จนผ่านปั๊มน้ำมันปิโตนาสแล้วเลี้ยวเข้าซอยที่ติดกับปั๊มน้ำมันเลย (หรือถ้าคุณมีธุระต้องไปติดต่อกับการบินไทยอยู่แล้ว ก็สามารถจอดรถในพื้นที่บริษัทได้เลย แล้วเดินตรงทะลุไปทางประตูด้านหลังที่อยู่ตรงข้ามกับทางเข้าหลักถนนวิภาวดีพอดีค่ะ

ตลาดจะเปิดทำการตั้งแต่ประมาณ 10 โมงเช้า – 5 โมงเย็น ทุกวันจันทร์-เสาร์ และหยุดเฉพาะช่วงปีใหม่และสงกรานต์ นอกนั้นวันนักขัตฤกษ์อื่นๆไม่มีหยุดค่ะ



ลักษณะตลาดจะแบ่งเป็นซอยย่อยๆตามยาวทั้งหมด 7 ซอยหลัก โดยซอย 1 จะเริ่มที่ริมถนนตรงที่ใกล้กับประตูด้านหลังของการบินไทยที่สุด มีร้านรวงทอดยาวไปทั้งสองฝั่งให้คุณได้ตื่นตาตื่นใจ ตลอดแนว บรรยากาศคล้ายๆตลาดนัดสวนจตุจักร แต่กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็น กลุ่มคนวัยทำงาน และแม่บ้านที่มีกำลังซื้อ ดังนั้นคุณภาพของสินค้าจะดูดีและมีราคาค่อนข้างสูงกว่า เนื่องจากหลายๆร้านรวบรวมสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เช่น เกาหลี และไต้หวันโดยตรง

ลักษณะของสินค้าก็จะมีทั้งร้านเสื้อผ้า(เน้นที่ของผู้หญิงค่ะ มีร้านเสื้อผ้าผู้ชายเหมือนกันแต่ในสัดส่วนที่น้อยกว่ามากค่ะ) รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้าของใช้เด็ก ถุงน่องสำหรับสาวทำงาน และของแต่งบ้านค่ะ เหล่านี้จะกระจายอยู่ตั้งแต่ซอย 1–ซอย 5 ...ซอย 5 บางส่วนและซอย 6-7 จะเป็นส่วนของกิน ซึ่งพอเราได้ลงแรงเดินช็อปปิ้งแล้ว จะพบว่าอาหารที่นี่น่าทานและอร่อยทุกร้าน หลายร้านมีเครื่องหมายการันตีและสถาบันรับรองคุณภาพมากมาย

แต่วันนี้เราจะขอเน้นที่เสื้อผ้าผู้หญิงค่ะ เดินเข้าซอย 1 ปั๊บ เราก็สะดุดตากับร้าน Angie ของพี่นาน่าทันที เพราะพี่เค้าเป็นสาวสวยวัย 40+ ที่เป็นสุดยอดแห่งแรงบันดาลใจ หุ่นเซี๊ยะ เปรี๊ยะทุกส่วน ถือว่าเป็นโมเดลให้กับเสื้อผ้าของร้านได้เป็นอย่างดี(จนเราแอบแขม่วพุงตลอดเวลาที่อยู่ร้านพี่เค้า) พี่นาน่าแนะนำว่าช่วงนี้เสื้อผ้าสไตล์แมกซี่ และผ้าชีฟองจะขายดี แม้แต่คนที่มีรูปร่างไม่ได้สูงเพรียวนักก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด แค่คุณจับคู่กับรองเท้าสั้นสูงเท่านั้น กระโปรงแมกซี่ผ้าชีฟองของคุณก็จะดูพลิ้วไหว สวยงาม สง่าทุกท่วงท่าแล้วค่ะ


ร้านต่อไปที่สะดุดตาสะดุดใจเราอย่างจังก็คือ ร้าน LITA V Shop by Linvarin ของคุณลินวริน หรือ พี่เอ๊ะค่ะ เสื้อผ้าทุกชิ้นของที่นี่จะนำเข้าจากเกาหลีโดยตัวพี่เอ๊ะและน้องสาวซึ่งเป็นเจ้าของร้าน LITA V Shop by Annie ที่อยู่ในซอยเดียวกันถัดเข้าไปไม่ไกลจะเป็นผู้บินไปคัดเลือเองกับมือ ดังนั้นจึงรับประกันเรื่องคุณภาพและความงามทุกตัวค่ะ (คุณสามารถเข้าไปเลือกชมหรือช็อปออนไลน์เสื้อผ้าร้านนี้ได้ที่Facebook/litav_onlineshop แต่ที่เด็ดสุดๆคือ ถ้าคุณไปซื้อที่ร้านโดยบอกว่ามาจากเวปผู้หญิงนะคะ พี่เอ๊ะและน้องสาวจะลดให้เป็นพิเศษทันที 15% ค่ะ WOW ถ้าไปไม่ถูกโทร.ถามพี่เอ๊ะได้ที่ 087-982-3261 ค่ะ



ร้านต่อไปที่สูบเงินจากกระเป๋าเราได้ ก็คือร้าน Crystal Chic เจ้าของร้านคือน้องอ้อม สินค้าในร้านจะมีทั้งเครื่องประดับประเภทต่างหู แหวน กำไล สร้อยคอ หรือจุกไอโฟนทำจากสวารอฟกี้แท้ ซึ่งคุณสามารถสั่งทำตามแบบและสีที่ต้องการได้ค่ะ นอกจากนี้ในร้านยังมีเสื้อผ้าสไตล์สีพลาสเทลหวานๆ ออกวินเทจหน่อยๆ ซึ่งน้องอ้อมบอกว่า ตอนนี้เทรนด์โพลก้าดอทถือว่าค่อนข้างเอ้าท์แล้วนะคะ ที่กำลังมาคือ เสื้อผ้าลายดอกเล็กๆสีอ่อนๆและถ้าหลังฤดูฝนไปแล้ว สไตล์ของสีสันก็จะออกโทนสีตุ่นๆลงไปอีกหน่อยค่ะ


อีกร้านนึงที่น่าสนใจมากคือร้านเล็กซอย 2 ที่คุณเล็กเจ้าของร้านมีอัธยาศัยดีมาก และมีการแนะนำในการเลือกเสื้อผ้าให้กับสาวรูปร่างต่างๆ โดยคุณเล็กจะสังเกตทั้งรูปร่างและบุคลิกประกอบกัน แถมยังแนะนำได้ด้วยว่าควรนำไปใส่กับอะไร กางเกงทรงไหน หรือกระโปรง และควรใส่แบบไหนเอาเสื้อเข้าใน หรือคาดเข็มขัดหลวมๆ แถมยังขายไม่แพงทั้งร้านเฉลี่ยตัวละ 300 บาทเองค่ะ

ตลาดการบินไทยไม่ได้มีแต่สินค้าราคาแพงนะคะ เราสังเกตเห็นหลายร้านที่มีเสื้อผ้าสวยๆขึ้นป้ายทั้งร้าน 300 หรือ 200 บาททุกตัว และยังมีเสื้อผ้าเด็กตัวละ 100 บาทให้เลือกอีกด้วยค่ะ

ก่อนกลับเรายังแอบแวะเทใจให้ร้านเสื้อผ้าเกาหลี+ญี่ปุ่น ที่ซอย 5 ซึ่งพี่สาวของเจ้าของร้านอยู่ที่เกาหลีอยู่แล้ว จึงส่งของมาเอง แล้วบินข้ามไปเลือกเสื้อผ้าที่ญี่ปุ่นแบบว่าที่นั่นอะไรกำลังอิน ที่ร้านนี้ก็มีด้วย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคาดิแกนที่เป็นที่นิยมของสาวๆ ที่สามารถเพิ่มสีสันและให้อารมณ์ที่แตกต่างออกไปในเสื้อผ้าชุดเดิมของคุณค่ะ


คงไม่ต้องบอกว่าพวกเราทุลักทุเลในการหอบของขึ้นรถกลับบ้านกันขนาดไหนทั้งเสื้อผ้าตัวเอง(เยอะมาก) เสื้อผ้าลูก(นิดหน่อย) และของกินสารพัน...ไม่น่าเชื่อว่าเราใช้เวลาที่นี่ทั้งหมด 4 ชั่วโมง แบบไม่รุ้ตัวเลยค่ะ  
 
ป.ล. ร้านทุกร้านที่เราเอ่ยชื่อขึ้นมา เป็นร้านที่เราเดินไปเจอแล้วชอบสินค้า+อัธยาศัยของเจ้าของร้านค่ะ มิได้ตกลงนัดหมายกันก่อนล่วงหน้าแต่อย่างใด

บทความโดย jaja wean ผู้หญิงนะคะดอทคอม