แม่....




คงไม่มีใครปฏิเสธความสำคัญของผู้หญิงที่เราเรียกว่า “แม่” และทุกคนต่างรู้กันดีกว่า คำๆ นี้ ยิ่งใหญ่เพียงใด คุณค่าหรือพลังรักของ “แม่” ถูกกล่าวถึงเสมอไม่ว่าในยุคสมัยใดก็ตาม แม้ว่าในสังคมปัจจุบัน “แม่” หาได้เป็นบทบาทหน้าที่ด้วยของผู้หญิง คุณแม่หลายคนยังต้องทำงาน มีบทบาทการเป็นหัวหน้า ลูกน้อง นายจ้าง ลูกจ้าง และไม่ว่าตำแหน่งหน้าที่การงานจะเล็กหรือใหญ่ ไม่ได้ทำให้คุณค่าความเป็นแม่ของแต่ละคนแตกต่างกันเลย เพราะการได้เป็น “แม่” คือความเท่าเทียมกันในการสร้างสิ่งดี ๆ เรื่องราวดี ๆ ผ่านการเลี้ยงดูลูก
      
       เนื่องในวันแม่ที่จะมาถึง พญ. นัยนา ณีศะนันท์ กุมารแพทย์ ผู้เป็นทั้งแม่และผู้เชี่ยวชาญด้านการสุขภาพและพัฒนาการเด็กจาก คลินิกเด็กสุขภาพดี [Well Child Clinic] สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี(รพ.เด็ก) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ถือโอกาสเชิญชวนให้คุณแม่ทั้งหลายให้ลองตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้งว่าจริงๆ แล้วฐานะ “แม่” เราจะค้นหาความพิเศษที่เป็นลักษณะเฉพาะของลูกได้อย่างไร ปลูกจิตสำนึกให้ลูกเข้าใจและชื่นชมกับความไม่เหมือนใครของตัวลูกได้อย่างไร และการตระหนักถึงความสำคัญของความเป็น”แม่” ที่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเมล็ดพันธ์อันมีค่ายิ่งแก่โลกมนุษย์
       
       “คุณแม่หลายคนคิดว่า หน้าที่ของแม่ จริงๆ แล้วก็แค่ดูแลลูกให้ดี อย่าให้เจ็บป่วย แต่จริง ๆ แล้วหน้าที่ของแม่ยิ่งใหญ่กว่านั้นมากค่ะ เพราะว่าแม่คือผู้สร้างโลก คำว่าสร้างโลกในที่นี้ก็คือ สร้างคนดีให้กับโลก ให้กับสังคม คนที่เป็นแม่มีโอกาสที่จะอบรมสั่งสอนให้คน ๆ หนึ่งเติบโตมาเป็นคนที่มีคุณภาพให้แก่สังคมได้ คุณแม่บางท่านคิดว่าหน้าที่นี้เป็นหน้าที่ของคุณครู ของโรงเรียน โดยลืมไปว่าพ่อแม่คือครูคนแรกของลูก และเด็ก ๆ เรียนรู้ได้ดีจากการเลียนแบบพฤติกรรมของคนรอบข้าง ซึ่งแม่คือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเด็ก ๆ ที่สุด พฤติกรรมของคุณแม่จึงมีผลต่ออารมณ์ พฤติกรรมและพัฒนาการของลูกมาก ความสำคัญของการเป็นแม่จึงอยู่ตรงนี้ด้วย”
      
       ผลวิจัยชี้ พฤติกรรมแม่มีผลต่อนิสัยของลูก
      
       พญ.นัยนา กล่าวว่า “เริ่มตั้งแต่ง่าย ๆ เช่นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะช่วยเพิ่มต้นทุนสมองให้ลูกเมื่อเปรียบเทียบกับการเลี้ยงลูกด้วยนมผง นอกจากนี้มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่าพฤติกรรมของแม่ส่งผลต่อตัวตนของลูกทั้งในด้านพฤติกรรม อารมณ์ และความคิด เริ่มตั้งแต่เรื่องง่าย ๆ เช่น การกล่าวขอบคุณ หรือขอโทษ หากคุณแม่สอนลูก แต่ไม่เคยทำให้ลูกเห็นเลย ก็ยากมากที่เด็กจะมีนิสัยกล่าวคำดังกล่าว ทางกลับกันแม้ว่าคุณจะไม่เคยบอกให้ลูกขอโทษหรือขอบคุณแต่ทำให้ลูกเห็นสม่ำเสมอ ๆ เด็ก ๆ ก็จะเลียนแบบพฤติกรรมนั้น และมีโอกาสมากที่นิสัยนี้จะติดตัวไปจนโต
      
       นอกจากนี้เรื่องยาก ๆ อย่างเช่นการจัดการกับความเครียด เด็ก ๆ ก็เรียนรู้จากแม่ด้วยเช่นกัน หากคุณแม่แสดงออกด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด เด็ก ๆ ก็จะเรียนรู้พฤติกรรมเหล่านั้น และที่ควรต้องระวังก็คือ เมื่อคุณแม่เครียดและแสดงพฤติกรรมแง่ลบ เช่น ตวาด หงุดหงิด ส่งเสียงดัง แม้ว่าเรื่องเหล่านั้นจะไม่เกี่ยวกับลูกเลยก็ตาม แต่หากเด็ก ๆ เห็น ก็มีโอกาสที่เขาจะคิดว่าสาเหตุของอารมณ์เหล่านั้นเกิดจากตัวเขา และนี่ก็อาจกลายเป็นบาดแผลในใจติดตัวเขาไปจนโตได้”

       แม่ยุคใหม่ เป็นได้มากกว่าที่คิด
      
       “ด้วยภาระหน้าที่ซึ่งมากขึ้นกว่าเดิมของผู้หญิงยุคใหม่ ทำให้ทุกวันนี้มีผู้หญิงจำนวนมากที่ต้องทำงาน และมีเวลาให้ลูกน้อยลง เด็ก ๆ อยู่กับพี่เลี้ยงมากขึ้น จนเกิดคำถามว่าแล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาให้ลูก จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกได้อย่างไร จากประสบการณ์ หมอพบเด็กบางคนที่คุณแม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดเลี้ยงดูลูกทั้งวัน แต่ลูกก็ยังมีปัญหาไม่ว่าด้านพัฒนาการหรืออารมณ์ ดังนั้นภายใต้ข้อจำกัดของสังคมที่ทุกอย่างต้องรีบแข่งขัน ความสำคัญจึงอยู่ที่คุณแม่อยู่กับลูกอย่างไรต่างหาก คุณแม่บางคนอยู่กับลูกทั้งวัน แต่ปล่อยให้ลูกดูแต่โทรทัศน์ ไม่เคยพูดคุยกับลูกจนลูกมีพัฒนาการทางภาษาล่าช้า หรือบางรายคุณแม่นั่งเล่นโทรศัพท์ส่วนลูกก็เล่นแต่วิดีโอเกม แม้อยู่ในห้องเดียวกันแต่ไม่มีการสื่อสารกัน ช่องว่างก็มากขึ้น กว่าจะรู้อีกทีลูกก็มีปัญหาเสียแล้ว
      
       ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณแม่ยุคใหม่ต้องทำงานมากขึ้น การจัดสรรเวลาคุณภาพที่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข/เสียงหัวเราะระหว่างคุณแม่กับลูกในทุก ๆ วันเพียงแค่ ½ - 1 ชม.ต่อวัน ก็อาจดีกว่าอยู่กับลูกทั้งวันแต่ไม่สื่อสารกันเลย การกอด/หอมแก้ม/บอกรักลูก ก็ทำให้เด็ก ๆ รับรู้ถึงความรัก และสร้างความมั่นคงทางอารมณ์ให้ลูกได้ แต่ก็ต้องทำควบคู่ไปกับการเป็นตัวอย่างที่ดี ลดการแสดงพฤติกรรมแง่ลบ เพียงเท่านี้ก็ปลูกรักลงในใจลูกได้
      
       เป็นแม่ที่ดี เพื่อลูกที่ดี
       
       "การเป็นแม่อาจจะไม่สมบรูณ์แบบถูกต้องทุกอย่างทันทีที่ลูกเกิด แต่แม่ที่ดีควรตระหนักและรู้เท่าทันอุปสรรคเพื่อก้าวข้ามและเติบโตไปสู่การเป็นแม่ที่ดีกว่าเดิมของลูกในทุก ๆ วัน และผู้หญิงทุกคนมีศักยภาพที่จะเป็นแม่ที่ดีได้ เพราะพลังรักของแม่เป็นพลังบวกที่สามารถขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้นทั้งตัวคุณแม่และคุณลูก นำพาโลกของเราให้เป็นโลกที่ดีกว่าเดิมและน่าอยู่ยิ่งขึ้น และนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเป็นแม่ ...สุขสันต์วันแม่ค่ะ.."
      
       นอกจากนั้น พญ. นัยนา ณีศะนันท์ ยังได้กล่าวฝากทิ้งท้ายไว้ว่า “วันแม่ไม่ใช่เพียงวันที่ ลูก ๆ ต้องระลึกถึงพระคุณแม่เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสดี ที่ “แม่” จะหันกลับมาตระหนักถึงความสำคัญของการเป็น “แม่” อีกด้วย”

 


ขอบคุณที่มา : life&family ; manageronline





แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement