จากกรณีข่าว พริตตี้สาวฉีดฟิลเลอร์ แล้วเกิดอาการแพ้สารจนหมดสติ ส่วนสารที่ฉีดเข้าร่างกาย ก็ไม่ทราบว่าเป็นสารชนิดใด แต่ด้าน ตร.ทราบเบาะแสผู้ให้บริการแล้ว เป็นผู้ช่วยแพทย์ในคลินิกย่านเมืองทองฯ
นพ.สุวินัย บุษราคัมวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท เปิดเผยความคืบหน้าอาการของ น.ส.อาทิตยา เอี่ยมแย้ม หรือ กระแต พริตตี้ ที่รับการฉีดฟิลเลอร์ที่สะโพก เพื่อเสริมให้กระชับสวยงาม จนเกิดอาการช็อกเป็นเจ้าหญิงนิทรา ว่าขณะนี้อาการของน้องกระแต ยังทรง ไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และให้ยาประคองความดันให้เป็นปกติ ม่านตาขยาย เนื่องจากหมดสติ ขาดออกซิเจนมาก่อนรับการรักษาที่ รพ.ลาดพร้าว และส่งตัวต่อมายัง รพ.กล้วยน้ำไท การรักษาจากนี้เน้นการประคับประคอง เนื่องจากผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ส่วนสารที่ฉีดเข้าร้างกาย ไม่ทราบว่าเป็นสารชนิดใด เนื่องจากสารได้เข้าสู่ร่างกาย เข้าไปในกล้ามเนื้อและเลือดแล้ว ไม่สามารถแก้ไขหรือเอาออกได้
"จากอาการเบื้องต้น คาดว่า เกิดจากการแพ้ยา หรือสารที่ได้รับ เนื่องจากเกิดอาการช็อกหลังได้รับสาร ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นสารที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับการรับรองจากแพทย์ และผู้ที่ฉีดใช่แพทย์หรือไม่ เพราะมิเช่นนั้นก็จะสามารถเข้าช่วยเหลือและแก้ไขอาการได้ทันที อย่างไรก็ตาม อยากเตือนผู้ที่ต้องการศัลยกรรมว่า ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ เพราะหากเป็นสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน เคยมีการนำปูน ยาง กาว มาฉีดเข้าสะโพกด้วย เพราะการฉีดสะโพกต้องใช้ปริมาณเยอะ"
ด้าน น.ส.ณัฐปภัสร สุภทนาไพศาล เพื่อนสนิทของน้องกระแต กล่าวว่า ความงามถือเป็นค่านิยมในสังคมพริตตี้มาก ทุกคนต้องทำตัวเองให้สวยงาม ให้เจ้าผลิตภัณฑ์พึงพอใจ และเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นเพื่อนไม่ได้มาปรึกษา เพียงแต่ชอบบ่นว่า คนนี้สวยอยากใส่กางเกงสวยเหมือนคนอื่น จึงแนะนำให้ซื้อกางเกงเสริมก้นแทน สำหรับคลินิกที่เพื่อนไปทำนั้น ทราบว่าเป็นที่นิยมในหมู่พริตตี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เข้ามาติดตามความคืบหน้าของอาการแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตามผล และค้นหาตัวผู้ให้บริการ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่า ผู้ให้บริการเป็นผู้ช่วยแพทย์ ที่คลินิกแห่งหนึ่ง ย่านเมืองทองธานี และมีการให้บริการที่คอนโดในซอยลาดพร้าว สำหรับความผิดจะได้รับโทษ พ.ร.บ.สถานพยาบาล มาตรา 16 ประกอบสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 24 ผู้ดำเนินการไม่ใช่แพทย์ ได้รับโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 26 ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สาวๆที่คิดจะฉีด ก็ต้องพึงระลึกเสมอนะคะว่าสิ่งที่เข้าไปในร่างกายเราคือสารเคมี อาจจะมีผลอันตรายกับร่างกายเราเมื่อใดก็ได้ สิ่งที่สำคัญคือต้องเลือกแพทย์และสถานที่ประกอบการที่ไว้ใจได้มากที่สุด ต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนทุกครั้ง อย่าให้เรื่องความสวยความงาม กลายเป็นเรื่องความเป็นความตายนะคะ
เรียบเรียงข้อมูลจาก manager online ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
