ช่วงเปลี่ยนฤดูย่างเข้าฝน หมดร้อน ถือเป็นระยะเวลาที่เจ้าตัวเล็กของคุณแม่ๆ อาจเสี่ยงต่อการรับเชื้อโรคต่างๆได้ง่าย เพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยทำให้เด็กๆ ซึ่งมีภูมิต้านทานยังไม่มากนักติดเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่าย และเวลานี้ล่ะครับที่เจ้าวายร้ายเชื้อไวรัสโรต้าอาจจะเข้าจู่โจมแก้วตาดวงใจของคุณแม่ทั้งหลายให้พลอยได้กังวลใจ
รู้มั้ยครับ อาการเมื่อเด็กๆติดเชื้อไวรัสโรต้าเป็นอย่างไร สังเกตง่ายๆ คือ เมื่อใดก็ตามที่เจ้าตัวเล็กมีอาการไข้ ท้องเสียวันละ 7-8 ครั้ง หรืออาเจียนร่วมวันละ 7-8 ครั้ง ให้ตั้งข้อสังเกตไว้ได้เลยว่าลูกน้อยที่น่ารักของคุณแม่อาจติดเชื้อไวรัสโรต้าเป็นแน่
หากเด็กเล็กหรือทารกติดเชื้อโรต้าและมีอาการถ่ายเหลวบ่อยๆ อาเจียนถี่ วันละอาจมากถึง 10-20 ครั้ง สิ่งเหล่านี้ มีผลให้เด็กๆอาจเกิดภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที
ในเด็กที่ท้องร่วง อาเจียน มีผลทำให้เยื่อบุผนังลำไส้ฝ่อตัวไป ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารหรือเกลือแร่ได้ตามปกติ หากเด็กท้องร่วงซ้ำๆก่อนอายุ 2 ปีจะส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพของร่างกาย กระบวนการคิด ความพร้อมของเด็กจะช้ากว่าเด็กทั่วไปตอนเข้าโรงเรียน ทำให้เด็กไอคิวอาจจะลดลงบ้าง การเรียนตามเพื่อนไม่ทัน ส่วนสูงเฉลี่ยต่ำกว่าเพื่อนๆ ราว 3.6 ซม. ที่อายุ 7 ปี
อย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่ก็ยังสามารถป้องกันลูกน้อยจากไวรัสโรต้าได้ โดยการปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ และอีกวิธีที่ดีที่สุดในปัจจุบันคือการให้วัคซีน ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดกิน มี 2 ชนิดแบบชนิดกิน 2 ครั้งและ 3 ครั้ง โดยวัคซีนชนิดกิน 2 ครั้งนั้นจะให้เมื่อเด็กมีอายุ 2 และ 4 เดือนตามลำดับซึ่งจะทำให้น้องได้รับการป้องกันเร็วตั้งแต่ 4 เดือน ซึ่งการป้องกันก่อนจะเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณแม่ได้มากกว่า เพราะองค์การอนามัยโลกชี้ชัดออกมาแล้วว่า เด็กไทยกว่าร้อยละ 43 ติดเชื้อไวรัสโรต้าและต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจว่ามั้ยครับ
เนื่องจากพัฒนาการของเด็กๆ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพ่อแม่ ปลอดภัยไว้ดีกว่าแก้ พาลูกๆ ไปปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันตั้งแต่วันนี้ ลูกน้อยของคุณจะเติบโตและฉลาดสมวัย อีกทั้งสุขภาพร่างกายยังแข็งแรงด้วยนะครับ แก้วตาดวงใจของใคร ใครก็รัก ใครก็หวง จริงมั้ยล่ะครับ
ข้อความโดย นพ.วีระกิจ หิรัญวิวัฒน์กุล
ตำแหน่ง : กุมารแพทย์