ผิวหน้าใส ตึงกระชับ เป็นความต้องการหนึ่งที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝัน เพราะการมีสุขภาพผิวที่ดี แข็งแรงเหมาะสมวัยนั้น ย่อมส่งผลถึงบุคลิกภาพ ซึ่งนอกจากการบำรุงด้วยครีมแล้ว ปัจจุบันยังมีศาสตร์ และศิลป์ อย่างการฝึก “โยคะหน้า” ที่เป็นการออกกำลังให้ผิวหน้ากระชับ ป้องกันริ้วรอยก่อนวัยได้ ด้วยวิธีง่าย ๆ

โดย ครูจิ๊บ วลัยพัชร อักษรดี ครูสอนโยคะ และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำโยคะผิวหน้า กล่าวว่า จะสังเกตว่าเวลาฝึกโยคะ ใบหน้าจะตึงกระชับด้วย เนื่องจากกล้ามเนื้อมีส่วนเกี่ยวข้องกันบริเวณพังผืด โดยเฉพาะส่วนคอลงมา จึงได้นำหลักในการเคลื่อนไหวของร่างกายมาประยุกต์ใช้กับใบหน้า เพราะมีกล้ามเนื้อเหมือนกัน

ซึ่งการทำโยคะหน้าควบคู่กับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวนั้น ครูจิ๊บ อธิบายว่า การใช้ผลิตภัณฑ์เป็นการทำความสะอาด และบำรุงจากภายนอก ส่วนโยคะจะช่วยให้อาหารผิวภายในซึ่งมีอยู่แล้วจากอาหารที่รับประทาน ทำให้ถ่ายเทหากันได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะหลักการหายใจของโยคะที่ส่งผลให้เลือดลมไหลเวียนดี

เริ่มจาก ท่าที่ 1 “หายใจแบบคลื่นทะเล” ขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันตามทางเดินของลมหายใจ โดยหายใจเข้าลึก ๆ ผ่านจมูก จากนั้น เปิดปาก แล้วหายใจออกผ่านปากให้มีเสียง “อ้า” ซึ่งจะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนบริเวณคอ

 เมื่อชินแล้ว ฝึกหายใจเข้าลึก ๆ ผ่านจมูก จากนั้น หายใจออกผ่านจมูกให้มีเสียงกรนเบา ๆ ซึ่งความร้อนที่ออกมา ก็เหมือนกับการต้มน้ำที่สิ่งสกปรกจะหายไป

ท่าที่ 2 “ลมหายใจหน้าใส” กระตุ้นการไหลเวียน และถ่ายเทของอาหารผิวจากชั้นใน โดยใช้หน้าท้องหายใจร่วมด้วย เริ่มจาก หายใจเข้าลึก ๆ ผ่านจมูก จากนั้น เป่าลมหายใจผ่านปาก 3 ครั้ง พร้อมแขม่วท้องเข้ามาด้วย 3 ครั้ง

 เมื่อชินแล้ว ฝึกหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหายใจออกยาว ๆ จากนั้น หายใจเข้าครึ่งเดียว แล้วพ่นลมหายใจผ่านจมูก 3 ครั้ง พร้อมแขม่วท้องเข้ามาด้วย 3 ครั้ง

และ ท่าที่ 3 “อาหมวย” ช่วยให้กล้ามเนื้อรอบตาตึงกระชับขึ้น โดยใช้นิ้วชี้ และนิ้วกลางทั้ง 2 มือยกขึ้นชิดกันในลักษณะตั้ง จากนั้น ใช้ส่วนปลายนิ้วแตะบริเวณหางตา แล้วดึงบริเวณหางตาขึ้นค้างไว้ ก่อนขยิบตาด้านซ้าย และขวาสลับกัน

 เมื่อ ชินแล้ว ฝึกหรี่ตา โดยที่ตาไม่ปิดทั้ง 2 ข้าง จะสังเกตว่ากล้ามเนื้อใต้ตาจะถูกยกขึ้น เป็นการออกกำลังกระชับกล้ามเนื้อรอบดวงตา

ท่าที่ 4 เรียกว่า “ท่าเต่า” ช่วยกระชับกล้ามเนื้อรอบคาง และคอ เริ่มจาก นั่งตัวตรง หายใจเข้าลึก ๆ เมื่อหายใจออกค่อย ๆ ยื่นคางมาข้างหน้า แล้วยื่นฟันข้างล่างออกมา

ท่าที่ 5 “ท่าปลาทอง” ช่วยให้แก้มตึงสดใสขึ้น เริ่มจากใช้นิ้วชี้ 2 นิ้วจิ้มบริเวณแก้มทั้ง 2 ข้าง แล้วใช้ส่วนกรามเก็บเนื้อเข้าไปในลักษณะดูดตรงกระพุ้งแก้ม หากยังไม่คล่องให้ใช้นิ้วช่วยดันเข้าไปก่อน ทำค้างไว้นับ 1-10 จะรู้สึกเมื่อยบริเวณแก้ม ก็เหมือนการออกกำลังกายที่จะรู้สึกเมื่อย แต่พอวันรุ่งขึ้นจะกระชับ

แล้วต่อด้วย การออกกำลังกายกล้ามเนื้อเพื่อความสมดุล กับ “ท่าปลาปักเป้า” ดึงแก้มออกมา เริ่มจากทำแก้มป่องให้ใหญ่มากจนกล้ามเนื้อบริเวณปากทำงานหนักเพื่อเก็บลมไว้ ทำค้างไว้นับ 1-10 แล้วค่อย ๆ หายใจออกผ่านปาก


ท่าที่ 6 “ท่าสิงโต” เริ่มจากหายใจเข้าผ่านจมูก แล้วหายใจออกผ่านปาก จากนั้น แลบลิ้นออกมาให้ยาวที่สุด พร้อมปล่อยเสียง “แอ้” ส่วนตามองเลิกขึ้นข้างบน ช่วยให้กล้ามเนื้อยืดไปเต็มทิศทาง ต่อมา ใช้แขนในการช่วยยืดด้วย โดยยืดแขนสองข้างมาข้างหน้า ฝ่ามือเปิดขึ้นให้ปลายนิ้วมือชี้ลง แล้วเอามือ 2 ข้างวางบนตักลักษณะปลายนิ้วมือชี้เข้าหาลำตัว ท่อนแขนตึง ช่วยบริหารนิ้วคลายความล้า

จบด้วย “ท่าพักผ่อนกล้ามเนื้อ” เริ่มจากนั่งหลังตรง หายใจเข้าลึก ๆ แล้วเปิดตากว้าง ๆ มองข้างหน้าจุดเดียว จากนั้น เมื่อหายใจออก ค่อย ๆ ปิดตาเข้าไป ดันเปลือกตาเข้ามาแน่น ๆ โดยที่ใบหน้ายังผ่อนคลายอยู่ แล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

ลองฝึกท่าละ 5-10 ครั้ง เช้า-เย็น ค่อย ๆ ฝึกจนกล้ามเนื้อแข็งแรงก็จะช่วยให้กระชับขึ้น เหมือนการออกกำลังกายที่ไม่ได้ทำวันเดียวแล้วจบ แต่ควรเป็นไปอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง.

ขอบคุณที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์