ทุกวันนี้เราคงต้องจำเป็นที่จะต้องสอนผู้ปกครองกันแล้วว่า สิ่งที่คุณๆทำนั้น ส่งผลต่ออนาคตของเด็กและประเทศชาติอย่างยิ่ง
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่าน นกไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และได้พาลูกสาววัย 3 ขวบครึ่งไปเข้าห้องน้ำ เมื่อลูกสาวตัวน้อยบอกว่าคิวยาวจังค่ะคุณแม่ สิ่งที่นกทำก็คือ ถามลูกว่าไหวหรือเปล่าคะ ลูกสาวตัวน้อยก็ไม่พูดอะไรและยืนรอต่อคิวไป (โดยปกติแล้ว ถ้าลูกสาวปวดมากจริงๆ เค้าจะเดินไปขออนุญาตคนที่ยืนต่อคิวก่อน และรอเข้าห้องน้ำที่เปิดห้องแรกค่ะ)
สักพัก มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องน้ำ อายุราวๆ 7-8 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่เข้าห้องน้ำได้เองโดยไม่ต้องมีผู้ปกครอง สิ่่งที่น้องทำก็คือ เดินหาห้องที่ว่าง โดยมิได้สนใจคิวที่ต่ออยู่เลย เมื่อห้องน้ำห้องหนึ่งเปิด ก็เข้าห้องน้ำไปโดยไม่ได้สนใจเช่นเคย
เราไม่สามารถตำหนิเด็กได้ สิ่งที่เด็กทำคือสิ่งที่ผู้ใหญ่ไม่เคยได้บอกว่า ให้ต่อคิว หรือ...หากปวดมากจริงๆ ให้ขออนุญาตกับคนที่ยืนต่อคิวคนแรก
นกเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่คนไหน ก็คงจะให้เด็กๆเข้าห้องน้ำได้ก่อนเมื่อเด็กมาขออนุญาต
สิ่งที่นกเล่าให้ฟังคือส่วนหนึ่งที่เราเห็นกันในสังคม และเมื่อผู้ใหญ่ไม่ได้สอนในสิ่งที่ควรสอนในเรื่องของสังคม สังคมเราจะเต็มไปด้วยความไม่มีระเบียบ นานเข้ากลายเป็นความเห็นแก่ตัวที่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจผู้อื่น
ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เคยเจอกรณีอย่างนี้ในหลายๆครั้ง แต่หากเราเพิกเฉยสิ่งที่เราจะต้องพบเจอก็คือ เด็กไทยที่จะโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ไร้ระเบียบในสังคมไทย
หากทำได้ เมื่อมีลูกแล้ว ไม่ว่าคนเป็นแม่จะเคยทำแบบไหนด้วยความเคยชินก็ตาม ควรปรับเปลี่ยนเพื่อให้ลูกได้อยู่ในสังคมได้โดยไม่ต้องโดนตำหนิเมื่อโตขึ้น และคงจะทำให้สังคมของเราดีขึ้น เมื่อผู้ใหญ่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ