เค้าว่ากันว่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า วันนี้เรามีเกร็ดความรู้ดีๆไว้จัดการกับความโกรธ ไม่ให้กลายเป็นทั้งคนโง่และคนบ้า กันค่ะ
(1). ยิ้ม (smile)
คนทั่วไปไม่สามารถโกรธแบบ "โกรธหน้าตาเฉย" หรือโกรธโดยไม่ตีหน้าโกรธไม่ได้ วิธีจัดการกับความโกรธอย่างหนึ่ง คือ ให้ยิ้มน้อยๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อขากรรไกร หน้าผาก ริมฝีปาก
(2). มองการณ์ให้ไกล (look ahead)
ให้ลองคิดว่า เรื่องที่ทำให้เราโกรธจะมีความสำคัญ (matter) มากเท่าไร ถ้าเรามีชีวิตเหลืออยู่เพียง 5 นาที, 5 ชั่วโมง, 5 วัน, 5 เดือน, หรือ 5 ปีนี้การคิดถึงค่าของชีวิตที่มีอยู่น้อยจะทำให้เราเลือกได้ว่า จะโกรธแบบคนไม่มีความสุข หรือจะมองการณ์ไกลไปยังเรื่องดีๆ สนุกๆ อีกหลายเรื่องแทน
(3). มอบความเป็นใหญ่ให้ตัวเรา (Put Yourself in charge)
เวลาเราโกรธ... ความโกรธจะเป็นใหญ่ (in charge = เป็นใหญ่), อ.แมคคาตีแนะนำให้พูดในใจ เพื่อเรียกความเป็นใหญ่ของเรากลับคืนมา โดยการกล่าววา "เราตัดสินใจว่า จะไม่โกรธเรื่องนี้" ซ้ำๆ กันไปเรื่อยๆ จนกว่าความโกรธจะทุเลาเบาบางลงไป หรือจะใช้ข้อความเตือนใจอื่นๆ แทนก็ได้
(4). เลือกปรัชญาชีวิตที่ยืดหยุ่นมากขึ้น (Adopt a more flexible philosophy of life)
ความจริงของชีวิตคือ อะไรๆ มักจะไม่ได้ดังใจ, อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้, และโลกเบี้ยวๆ ใบนี้เป็นโลกที่ "ไม่สมบูรณ์" (imperfect; im- = ไม่; perfect = สมบูรณ์)
คนที่พยายามทำโลกนี้ให้สมบูรณ์ หรือ "คุณสมบูรณ์แบบ (perfectionists)" มีอยู่จริง... คนพวกนี้ถ้ายังไม่เป็นใหญ่มักจะทำให้ตัวเองเดือดร้อน และถ้าเป็นใหญ่มักจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน
ทางที่ดีคือ ทำตัวให้เป็นคนดีแบบ "คุณดีบ้าง" แต่ไม่ต้องสมบูรณ์แบบ หรือไม่ต้องเป็น "คุณดีพร้อม"
(5). คิดถึงอันตรายของความโกรธ (Think of the harm you may cause)
อ.แมคคาตี ยกตัวอย่างว่า ถ้าลูกกลับบ้านดึก... คุณอาจจะโกรธและตะโกนตะคอกก็ได้ หรือจะทำใจให้เย็น พูดกับลูกดีๆ ก็ได้ว่า แบบนี้ไม่ชอบสถานการณ์แรกอาจทำให้บ้านค่อยๆ แตกร้าวขึ้น, สถานการณ์ที่สองมีแนวโน้มจะทำให้เกิดความเข้าใจ และความเกรงใจกันมากขึ้น ซึ่งเราเลือกได้ ถ้าคิดถึงอันตรายของความโกรธ
และถ้าเราเกิดพลาดพลั้ง หงุดหงิด ฉุนเฉียว เปรี้ยวปาก หรือโกรธ ใครขึ้นมา... ก็ขอให้ใจเย็นๆ กับตัวเองให้ได้ ให้อภัยตัวเองบ้าง และอย่าลืมขอโทษคนอื่นพร้อมกับปรับตัวใหม่ เพราะการจัดการกับความโกรธเป็นเรื่องที่ใช้เวลาปรับเปลี่ยนกันนานทีเดียว
ที่มา : วิชาการดอตคอม