เลือกกันแดดที่บางเบากว่าแต่ปกป้องเท่าเดิม
ครีมกันแดดเป็นสิ่งเลี่ยงไม่ได้สำหรับเมืองแดดแรงอย่างบ้านเรา เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งอุณหภูมิและความร้อนของแดดทำร้ายผิว จึงแนะนำให้ใช้กันแดดแบบน้ำ หรือแบบเจล ซึ่งบางเบากว่าแบบครีม ซึมลงใต้ชั้นผิวได้เร็วกว่า ไม่ทำให้เหนอะหนะ และยังทำให้เครื่องสำอางติดทนและแต่งหน้าได้เรียบเนียบกว่า ดร.เจสสิกา วู ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากลอสแองเจลิสแนะนำ ที่สำคัญควรเลือกแบบออยล์ฟรีเพื่อหลีกเลี่ยงสิวอุดตัน
ลดมอยส์เจอไรเซอร์ลง
เมื่อเจอแดดแรง เราต้องปรับการดูแลผิวตัวเองให้เหมาะสมกับสภาพอุณหภูมิ ครีมหนาหนักที่เมื่อผสมกับเหงื่อทำให้อุดตันรูขุมขน จึงควรหลีกเลี่ยง ที่สำคัญ ครีมหนาๆ จะทำให้เครื่องสำอางติดไม่ทน อาจเลือกเป็นกันแดดแบบน้ำหรือแบบเจลที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ จะได้ไม่ต้องทาครีมหลายชั้น ที่สำคัญเอสพีเอฟที่เหมาะกับเมืองร้อนนั้นไม่ต่ำกว่า 30 นะคะ
ป้องกันเส้นผม
แสงแดด เกลือ และคลอรีน ทำร้ายเส้นผมให้แห้งกรอบ แตกปลายได้ เพื่อป้องกันปัญหานี้ หลังเล่นน้ำไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเลหรือสระว่ายน้ำ ควรสระผมด้วยน้ำสะอาด และใช้ครีมนวดผมให้เร็วที่สุด การทำแบบนี้จะช่วยไม่ให้สีผมที่ทำมาเปลี่ยนไปด้วย นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่ใช้ควรเป็นแบบออยล์ฟรี เพื่อหลีกเลี่ยงความเหนอะหนะ
ใช้ครีมกันแดดช่วยป้องกันถุงใต้ตา
รังสียูวี ทำร้ายคอลลาเจนและความยืดหยุ่นใต้ผิวให้หย่อนลง โดยเฉพาะรอบดวงตา เนื่องจากผิวบริเวณดวงตาบางและมีต่อมไขมันน้อยกว่าผิวส่วนอื่นบนใบหน้า แต่การใช้ครีมกันแดดที่เหนอะหนะมากก็สะสมให้เกิดเม็ดใต้ตาได้จึงควรเลือกใช้ ครีมแบบน้ำหรือเจลทาใต้ตา และหากกิจกรรมกลางแจ้งของคุณทำให้มีเหงื่อมากก็อาจเลือกกันแดดที่กันน้ำด้วย
ชาเขียวแก้ถูกแดดเผาได้
นอกจากจะมีวิตามินซี ช่วยแก้กระหาย หากออกแดดนานเกินไปแนะนำให้นำชาเขียวเย็นๆ ประคบสักสิบนาที สองถึงสามครั้งต่อวัน ควบคู่กับเจลว่านหางจระเข้ จะทำให้อาการแดงคันหายไปได้รวดเร็ว เพราะชาเขียวมีคุณสมบัติช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง และนอกจากนี้ การรับประทานมะเขือเทศปรุงสุกยังช่วยฟื้นฟูผิวเสียได้อีกด้วยค่ะ