สมุนไพรสู้เบาหวาน


   สูตรวัดหาดัชนีมวลกาย

น้ำหนักตัว (กิโลกรัม)


ส่วนสูง2 (เมตร)

       นำน้ำหนักตัว (หน่วยเป็นกิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูงยกกำลังสอง (หน่วยเป็นเมตร) ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ส่วนสูง 1.60 เมตร ก็จะได้ 50 หารด้วย 2.56 (ส่วนสูง 1.60 ยกกำลังสองคือ 1.60 x 1.60 = 2.56) ดังนั้นดัชนีมวลกายของคุณจะเท่ากับ 19.53

       ได้ดัชนีมวลกายแล้ว ให้นำมาเทียบเกณฑ์ต่อไปนี้

น้อยกว่า 18.5

ผอมเกินไป

มากกว่าหรือเท่ากับ 18.5 แต่น้อยกว่า 25

เหมาะสม

มากกว่าหรือเท่ากับ 25 แต่น้อยกว่า 30

น้ำหนักเกิน

มากกว่าหรือเท่ากับ 30 แต่น้อยกว่า 40

อ้วน

มากกว่าหรือเท่ากับ 40

อันตรายมาก

 

   สมุนไพรที่มีสรรพคุณลดน้ำตาลในเลือด

     1. อบเชย ช่วยทำให้การทำงานของอินซูลินมีประสิทธิภาพและเผาผลาญน้ำตาลได้ดี อบเชยเป็นเครื่องเทศ อยู่ในส่วนผสมของอาหาร เช่น พะโล้ แต่เมื่อกินอย่างต่อเนื่องก็ควรวัดระดับน้ำตาลในเลือดควบคู่ไปด้วย

     2. ชุมเห็ดไทย นอกจากจะช่วยเรื่องการนอนหลับแล้ว เมล็ดยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ใช้ต้มดื่มเป็นน้ำชา

     3. มะระขี้นก ผักพื้นบ้านที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร ลดน้ำตาล เป็นยาถ่าย  แก้ไข้ ร้อนใน ช่วยเจริญอาหาร สามารถนำไปคั้นดื่ม นำไปแช่ให้เย็นจัดแล้วบีบมะนาวเพื่อลดความขมก่อนดื่มได้ แต่ต้องระวัง เพราะเมล็ดและผลสุกมีพิษ

     4. มะรุม ใช้ใบที่ไม่แก่และไม่อ่อนเกินไป หรือเมล็ดมะรุม ตามตำรายาโบราณระบุวิธีกินมะรุม คือ เคี้ยวกินแบบสดหรือตากแห้ง วันละ 1 เมล็ดก่อนนอน กินติดต่อกัน 2-3 วัน แล้วเว้นไป 3-4 วัน แล้วกลับมากินต่อ ห้ามกินเกินวันละ 1 เมล็ด

     5. ใบเตยหอม ใช้ได้ทั้งใบและราก สรรพคุณช่วยลดน้ำตาล นำใบมาต้มดื่ม ดื่มตอนเช้าๆได้ทั้งร้อนและเย็น แต่คนเป็นโรคหัวใจควรระวัง เพราะสรรพคุณอีกอย่างของเตยหอมคือลดอัตราการเต้นของหัวใจ

     6. แค รสขม สรรพคุณบำรุงตับอ่อน ทำให้หลั่งอินซูลินได้ดี ใช้ประกอบอาหาร เช่น แกงส้มดอกแค ดอกแคลวกต้มจิ้มน้ำพริก ส่วนที่ดีที่สุดของดอกแคคือส่วนที่เป็นยอดดอก ที่มีรสขม

     7. ปัญจขันธ์ (เจี่ยวกู้หลาน) สรรพคุณลดไขมัน ลดน้ำตาล ลดการเกิดสารพิษสะสมในตับ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ใช้ดื่มเป็นชา สลับกับน้ำเปล่า

     8. ใบหม่อน มีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ใช้ดื่มเป็นชา วันละแก้ว สลับกับน้ำเปล่า

 

   WOMAN & DIABETES

   - ผู้หญิงมักชอบลดน้ำหนักแบบเห็นผลรวดเร็ว ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะจะเกิดภาวะแทรกซ้อน วิธีที่ถูกต้อง คือ ต้องดูแลด้านโภชนาการ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบค่อยเป็นค่อยไป

   - ข้อมูลจากสมาคมโรคเบาหวานแห่งอเมริกา บอกว่า เบาหวานอาจมีผลต่อเซ็กส์ของผู้หญิง เพราะทำให้เหนื่อยง่ายหรือไม่มีน้ำหล่อลื่น ถ้าหากคุณไม่รู้สึกสนุกกับเพศสัมพันธ์นานเกินกว่า 2 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์

   - ข้อมูลจากสมาคมเบาหวานแห่งปากีสถานแจ้งว่า ผู้หญิงที่เป็นเบาหวานมีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมากกว่าถึง 3-7 เท่าตัว และผู้หญิงที่เป็นเบาหวานซึ่งเคยมีประวัติหัวใจวาย มีอัตราเสี่ยงเพิ่มอีก 2 เท่าว่าจะเกิดหัวใจวายอีกครั้ง และมีอัตราเสี่ยงถึง 4 เท่าที่จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว

 

 

อ้างอิง: นิตยสาร Marie Claire





แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement