นิสัยไม่ดี 12 อย่างที่ควรกำจัดทิ้ง


เลิกหวาดกลัวการนั่งกินคนเดียว
เมื่อคุณเดินเข้าไปในร้านอาหารเพียงลำพัง คุณก็รู้สึกว่าทำไมฉันต้องมานั่งกินข้าวคนเดียว ทำไมฉันไม่มีแฟน คุณควรปลดปล่อยตัวเองเสียก่อนที่ความคิดร้ายๆจะได้ชัยชนะไป แทนที่จะก้มหน้าและน้อยอกน้อยใจกับตัวเองตลอดมื้ออาหาร ทำตัวคุณให้เพลิดเพลินกับผู้คนรอบข้าง คุยกับพนักงานเสริฟเกี่ยวกับอาหาร หรือนั่งจินตนาการถึงเรื่องราวชีวิตของคนแต่ละคู่ในร้านอาหารนั้น "เมื่อคุณพุ่งความสนใจไปยังสิ่งต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัวคุณ แทนที่สิ่งที่กำลังอยู่ในหัวของคุณ ความรู้สึกอดสูกับการต้องนั้งอยู่คนเดียวของคุณจะค่อยๆเลือนหายไป" อีกหนึ่งเคล็ดลับเล็กๆก็คือ เยื้องย่างเข้าไปในร้านอาหารโดยแสร้งทำเป็นว่าเป็นคนมาจากต่างเมือง ซึ่งก็ย่อมเป็นธรรมดาที่คุณจะมานั่งกินอาหารอย่างหรูหราตามลำพัง

เลิกตามเทรนด์
การหลงใหลไปกับทุกเทรนด์ ทุกกระแสฟีเวอร์ แลทุกแฟชั่น ทำให้คุณไม่อาจรู้สึกสบายใจในความเป็นตัวคุณ เพราะแทนที่จะพัฒนาสไตล์ของตัวเองขึ้นมาคุณกลับมัวแต่คอยไล่ล่าให้ดูเหมือนคนอื่น คุณจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นและเซ็กซี่ยิ่งขึ้นถ้าคุณเกาะติดกับเครื่องแต่งกายชิ้นที่ใช้การได้ดีสำหรับคุณ นับจากเสื้อตัวที่อวดลำคอ ไปจนถึงกระโปรงชุดรัดรูปที่อวดส่วนโค้งส่วนเว้าของคุณ

เลิกพูดดูถูกตัวเอง
นอกจากไม่ได้ให้ผลดีอะไรแล้วยังช่วยส่งเสริมให้เกิดความคิดในทางลบและดึงดูดความสนใจในรายละเอียดที่อาจจะไม่มีใครสังเกตเห็น คุณอาจจะมีหน้าอกที่เล็ก แต่คนอื่นๆอาจจะไม่ได้สังเกต หากคุณพูดขึ้นมา "ทำไมฉันมีหน้าอกที่เล็กจังเลยนะ" สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ทุกๆคนก็จะรู้ทันทีว่าคุณน่ะไม่มั่นใจเอาเสียเลย

เลิกป่าวประกาศเรื่องไม่น่าโสภาของคุณในที่ทำงาน
ไม่ว่าเมื่อคืนคุณจะเมามายขนาดไหนก็ไม่สมควรจะพูด เป็นการทำให้เสียเครดิตตัวเองเสียเปล่าๆ และเจ้านายอาจจะรู้สึกว่าคุณไม่ได้ใส่ใจกับงานสักเท่าไร และคุณไม่สามารถเป็นที่น่าไว้วางใจหรือให้คุณรับผิดชอบงานใหญ่ๆได้

เลิกนิสัยชุ่ยๆ
เมื่อคุณอยู่ในความสัมพันธ์สบายๆ มันง่ายดายที่จะปล่อยให้ความสะเพร่าเล็กๆน้อยๆคืบคลานเข้ามาในชีวิตของคุณและติดตัวจนเป็นนิสัย(เสีย) เช่น วางผ้าอนามัยไว้บนโถสุขภัณฑ์ให้เห็นกันจะจะ คุณคุ้นเคยกับพฤติกรรมปล่อยปละละเลยแบบนี้จนไม่สังเกตเห็นว่ามันดูแย่แค่ไหนและโดยไม่ทันรู้ตัว

เลิกคิดเปรียบเทียบ
ทุกๆวันคุณจะคิดว่าจะใส่รองเท้าคู่ไหนดี มื้อกลางวันจะทานสลัดหรือกุ้งดีนะ เป็นเวลา 10 นาที สามารถทำให้คุณเป็นบ้าได้ด้วยความไม่แน่ใจ พยายามตัดสินใจกับทางเลือกแรกที่ผุดขึ้นในสมองเพราะถ้ามันตัดสินใจยากขนาดนั้น ไม่ว่าทางเลือกไหนก็คงไม่ผิดไปได้หรอก

เลิกทำแค่สิ่งที่ "เวิร์ค"บนเตียง
จะทำรักได้ก็ต่อเมื่อปิดไฟมืดตึ๊ดตื๊อ ท่าหญิงอยู่บน ยืนยันให้เล้าโลมด้วยปากก่อนหรืออะไรก็ตามที่เป็นกิจวัตร ซึ่งเคยทำแล้วได้ผล "แต่มันเป็นจุดบอดที่ทำให้คุณมองไม่เห็นว่าคุณกำลังมีเซ็กซ์ในรูปแบบเดิมๆ" คุณต้องยอมสละการกระทำที่รับประกันได้เหล่านั้น แล้วหันมาค้นหาในอะไรที่ไม่เวิร์ค เพื่อจะได้พบท่าที่หลุดโลกและเคล็ดลับที่ต้องร้องกรี๊ด ซึ่งจะทำให้เซ็กซ์ของคุณเจิดจ้าแจ่มจรัส

เลิกเล่นบทผู้จัดการจอมละเอียด
คุณก็แค่ต้องการให้ทุกอย่างถูกต้องเหมาะสม แต่การพยายามควบคุมทุกรายละเอียดในที่ทำงานหรือในชีวิตของคุณ จะบั่นทอนจิตใจได้มหันต์ ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นเจ้าแห่งการทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน และพวกเธอก็โหยหาความสมบูรณ์แบบ ซึ่งเมื่อมาประกอบกันเข้าก็เป็นอะไรที่อันตรายมาก คุณอาจคิดว่าฉันก็แค่อยากให้ทุกคนสนุก แต่การวิ่งวุ่นทำร้อยล้านอย่างจะสร้างความตึงเครียดให้กับคุณและทุกๆคนในที่นั้นด้วย

เลิกอิจฉาคนดัง
มันจะเบี่ยงเบนความสนใจของคุณไปจากความสำเร็จและสิ่งต่างๆที่น่าอิจฉา ที่คุณมีอยู่ในชีวิตของคุณเอง หันมาทุ่มเทความสนใจกับการทำให้คุณรู้สึกตัวเป็นคนสำคัญยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะสุรุ่ยสุร่ายไปกับการนวดตัวหรือทำไฮไลท์สี ให้คุณรูสึกราวกับเป็นร็อคเกอร์สาวแสนเซ็กซี่

เลิกทำตัวเป็นคุณหนู
การใช้มารยาหญิงของคุณเป็นครั้งคราวนั่นก็เรื่องนึง แต่ที่จะโทรหาแฟนหนุ่มทุกครั้งที่ลูกบิดประตูของคุณหลวม หรือกะพริบตาปริบๆใส่หัวหน้างานของคุณเมื่ออยากได้ชั้นวางของสักอัน มันออกจะหน่อมแน้มไปหน่อย การหัดทำอะไรด้วยตัวเองคงไม่ใช่เรื่องยากอะไรหากคุณพยายาม

เลิกเคืองแค้น
มันง่ายดายเหลือเกินที่จะพูดพร่ำซ้ำซากถึงความผิดเมื่อห้าปีที่แล้วของแฟนเก่าคุณ แต่ความทุกข์ระทมและขมขื่นที่มาจากการไม่ยอมให้อภัย ทำให้ร่างกายของคุณเกิดการหลั่งของฮอร์โมนซึ่งเกี่ยวข้องกับความเครียด คนที่คุมแค้นกับชีวิตรักจะผลิตคอร์ทีโซล (สารเคมีในร่างกายที่เชื่อมโยงโดยตรงกับการมีน้ำหนักขึ้น) ออกมาในระดับสูงกว่าปกติ แต่คุณไม่จำเป็นต้องงอนง้อขอคืนดีกับทุกคนหรอกนะ ก็แค่หันมาเห็นอกเห็นใจคนนั้นแทน

เลิกปากเสียโดยอ้างความเป็นห่วง
เคยบ้างมั้ยที่จับได้ว่าตัวเองพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเพื่อน เช่น "เธอคงมีความสุขในรักเสียจนน้ำหนักขึ้นมามากมายขนาดนั้น" หรือ "ฉันล่ะเป็นห่วงเธอจริงๆเลยที่เดทกับผู้ชายห่วยแตกทั้งนั้น" มันคือความอิจฉาริษยาหรือความรู้สึกหยิ่งผยองเมื่อคิดว่าตัวเองเหนือกว่าทุกคน ลองขุดให้ลึกลงไปกว่านั้นหน่อยแล้วถามตัวเองว่า ทำไมฉันถึงใจแคบอย่างนี้? หรือทำไมฉันถึงแคร์เหลือเกินกับชีวิตรักลุ่มๆดอนๆของเธอ?