คุณพ่อคุณแม่บางท่าน อาจเกิดอาการไม่พอใจที่ลูกติดขัดในจุดที่คุณคิดว่า "ง่าย" หรือบางครั้งลูกทำผิดเพียงเพราะไม่ทันสังเกตบางสิ่งบางอย่าง ถึงกับออกอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยง เหมือนกับว่าอะไรๆก็ไม่ได้ดั่งใจไปเสียหมด บรรยากาศในการทำการบ้านของลูกเลยแย่พอๆกับหัวใจของเด็กน้อยที่เหี่ยวลง
หากไม่อยากให้ช่วงเวลาแห่งการบ้านเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายสำหรับตัวคุณและลูก เรามีงานวิจัยที่แนะแนวทางให้ชั่วโมงการทำการบ้านเป็นชั่วโมงแห่งการเรียนรู้ที่ดีมาฝากกัน โดยนักวิจัยพบว่า การที่พ่อแม่ "มองโลกในแง่ดี ให้การสนับสนุน และให้คุณค่ากับการเรียนรู้" จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เด็ก "ได้เรียนรู้" จริงๆ จากแบบฝึกหัดเหล่านั้น
ตรงกันข้าม การที่พ่อแม่มองการบ้านเป็นเพียงสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จๆ ไป หรือต้องทำออกมาชนิดสวยเว่อร์ ดีเกินความสามารถเด็ก (ด้วยการลงไปบงการ หรือพ่อแม่ลงไปทำให้) เพื่อให้ได้เกรดที่ดีๆ จากคุณครูนั้น กลับฉุดลูกให้ตกอยู่ในวังวนของการเรียนที่ไม่ถูกต้องไปเสียนี่
การวิจัยนี้ได้ศึกษาจากพฤติกรรมของเด็กประถมปีที่ 4 และผู้ปกครองจำนวน 135 คนโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Bengurion อิสราเอล ซึ่ง Dr. Idit Katz เจ้าของงานวิจัยกล่าวว่า
"พ่อแม่สามารถสร้างแรงจูงใจให้กับลูกในการทำการบ้านได้ด้วยการยอมให้เขาทำการบ้านด้วยตัวเอง ไม่เข้าไปยุ่งมากจนเกินพอดี รวมถึงมองข้ามความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ไปบ้าง หากมันทำให้เด็กสนุกกับการทำการบ้านของตนเอง"
นอกจากนั้นแล้ว การจัดบรรยากาศภายในบ้านให้ดึงดูดต่อการทำการบ้านก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะหากบรรยากาศดี มีอุปกรณ์พร้อม เด็กๆก็จะรู้สึกมีแรงจูงใจ อีกทั้งยังอาจเพิ่มแรงดึงดูดโดยการเปลี่ยนสถานที่การทำการบ้านไปเป็นสถานที่ที่ลูกชอบก็ได้
เรียบเรียงจากเฮลท์เดย์นิวส์และผู้จัดการออนไลน์