อยากจะมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับตัวเอง ไว้ให้เป็นแง่คิด สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะไปสักขอบตาถาวรนะคะ
ร้านที่เราไปทำเป็นร้านดัง หรูหรา อยู่ห้างใจกลางเมืองค่ะ ราคาแพงพอสมควร ที่เลือกร้านนี้เพราะค่อนข้างมั่นใจในความสะอาดของอุปกรณ์และความเชี่ยวชาญของเจ้าหน้าที่ ตอนที่ทำก็ไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาก่อนมากมาย ตัดสินใจสองอาทิตย์ อยากสวยค่ะอยากสวย โทรจองแล้วทำเลย อาศัยสอบถามจากช่างถึงขั้นตอนและความปลอดภัยต่างๆ ซึ่งก็ได้คำตอบว่า ไม่มีปัญหาอะไร ปลอดภัยแน่นอน สามารถขับรถมาแล้วขับรถกลับได้
มาถึงขั้นตอนการสักนะคะ ช่างสักจะหยอดยาชาลงไปในตาเราทั้งสองข้างค่ะ ระหว่างรอยาชาทำงานประมาณ 30-40 นาทีก็เอาผ้าก๊อซปิดตาไว้ ตอนนี้แหล่ะค่ะที่เราเริ่มรู้สึกไม่ปกติ คือมันแสบตามากๆ ก็ถามช่างว่ามันจะเป็นอะไรไหม เค้าบอกว่าส่วนใหญ่ก็จะแสบๆแบบนี้ทุกคน เราก็อดทนไปอ่ะค่ะ แสบมากๆแต่ยังอยู่ในระดับทนได้
จนเวลาผ่านไป ก็เริ่มทำการสักขอบตาลงสี เริ่มตาขวาก่อน ขนาดมียาชาก็ยังเจ็บค่ะ อาศัยช่างหยอดเติมยาชาเป็นพักๆ ระหว่างที่สักข้างขวา ตาข้างซ้ายก็ยังแช่ยาชาปิดไว้อย่างนั้น (นี่แหล่ะค่ะน่าจะเป็นสาเหตุของปัญหา) ตอนที่สักแล้วเจ็บก็มีน้ำตาไหลบ้าง ขอพักบ้าง สักๆเติมๆประมาณ 2030นาที จนมาเริ่มเปิดทำตาซ้าย
แค่เปิดตาซ้ายมาก็แสบแล้วค่ะ ระหว่างสัก ยิ่งเจ็บมากกว่าตาขวาอีกสองเท่า ทรมานเกินบรรยาย แต่หลักการเรา คืออยากสวยต้องอดทน ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ยอมทนน้ำตาไหล สักจนเสร็จ พอสักเสร็จ ก็พักตาสักครู่ ทั้งเอาสำลีเย็นฉ่ำมาประคบ เจลเย็นมาประคบตาซ้ายก็ยังแสบ น้ำตาไหลไม่หยุด จนตาปูดบวมออกมา เค้าให้พารามา 2 เม็ด พักยาวครึ่งชั่วโมงก็ไม่หาย จนต้องกลับไปพักที่บ้าน ลองนอนกินยา เผื่อจะดีขึ้น (ระหว่างทาง ขับรถกลับบ้านเอง อันตรายมากค่ะ น้ำตาไหลไม่หยุด ต้องเอามือปิดประคบตาซ้ายไว้ แล้วขับรถมือเดียว)
กลับมาถึงบ้าน กินยาแก้ปวดเพิ่มแล้วฝืนนอน ก็เจ็บตา ปวดตา แสบน้ำตาไหลทั้งคืน มีสีดำๆจากการสักหลุดมาอยู่ในตาเรื่อยๆ ซับแล้วก็ออกมาอีก ออกมาอีกพร้อมน้ำตา ตอนนั้นแหล่ะค่ะ เพิ่งมีความรู้สึกกลัว เข้ามากลัวตาบอดเป็นครั้งแรก ตาปูดบวม แดงเป็นเส้นเลือด น่ากลัวมากจริงๆ พอเช้าปุ๊บรีบให้คนไปส่งที่โรงพยาบาล พบแพทย์ทันที
สีขาวๆในกระจกตาดำ คือแผลที่ถูกยาชาหยอดตากัดค่ะ ถ้ามองด้วยตาเปล่าจะไม่เห็นเลย แต่จะรู้สึกแสบเคืองตาตลอดเวลา
จักษุแพทย์ใช้กล้องตรวจก็พบว่ากระจกตาเป็นแผลเหวอะเลยค่ะ คุณหมอวินิจฉัยว่าคงจะโดนกัดจากยาชา ที่หยอดแช่ไว้นานๆ คุณหมอว่าอันตรายมาก เพราะถ้าทิ้งไว้แล้วติดเชื้อก็อาจลุกลามถึงขั้นตาบอดได้จริงๆ ใจเสียมากเลยค่ะบอกตรงๆ นาทีนั้นกลัวมากๆจริงๆ เพราะความอยากสวยไม่ตรึกตรองให้มากก่อนแท้ เอาดวงตาไปเสี่ยงอันตรายถึงขั้นนั้นได้
คุณหมอรักษาโดยให้ยาสมานแผลตาดำ แล้วหยอดน้ำตาเทียมเป็นพักๆ โดนค่ารักษากับยาชุดใหญ่ไปอีกประมาณ 3 พันบาทค่ะ แถมเราต้องพักงานนอนหลับปิดตาในโลกมืดเกือบตลอดเวลาถึง 3 วันเต็ม อาศัยเปิดตาบ้างเป็นช่วงๆ พอวันที่ 3 ก็มีโทรศัพท์มาจากทางร้านสักว่าเป็นอย่างไรบ้าง เราก็เล่าอาการให้ฟังทั้งหมด พนักงานในสายบอกว่าเดี๋ยวจะลองปรึกษาเจ้าของร้านดูว่าจะทำอะไรให้ได้บ้าง แล้วก็เงียบหายไปตลอด ไม่ได้มาเสนออะไรให้ ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดเรียกร้องอะไรยู่แล้ว แต่เล่าให้เค้าฟัง เค้าจะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นและให้ข้อมูลกับลูกค้าได้มากกว่านี้
พอผ่านไปครบ 5 วันอาการต่างๆก็ดูดีขึ้น ไปพบหมอตามนัดอีกครั้ง รับยามาอีกชุด จ่ายเพิ่มอีกเกือบ 2 พันบาท ตาหายบวมแล้ว ส่วนผลจากการสักก็คือ ตาซ้ายกับตาขวาไม่เท่ากัน เนื่องจากตาซ้ายมีอาการบวมอักเสบและน้ำตาไหล จึงเกิดการ สักไม่ติดค่ะ สีหลุด ส่วนตาขวา น้ำตาไหลบ้าง แต่สีส่วนใหญ่ติด บอกได้เลยค่ะ ทุเรศกว่าเดิมเยอะ แต่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นชัดมาก เวลาแต่งหน้าก็กรีดตาแล้วก็ได้เท่ากันค่ะ
ประสบการณ์ครั้งนี้ เจ็บตัว ทรมาน อันตรายและไม่สวย ฝากไว้ให้คิดและศึกษาข้อมูลดีๆก่อนตัดสินใจทำนะคะ
ตอนนี้เวลาผ่านมาระยะใหญ่แล้วค่ะ เจ้าของกระทู้หายสนิทแล้ว แต่นำเรื่องราวมาลงไว้ เป็นวิทยาทานให้ทุกท่านค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip.com เรื่องราวจากคุณ PiNNie_BunnY