มาดูแลเท้าเราให้เดินได้ถึง 100 ปีกันเถอะ


“ มาดูแลเท้าเราให้เดินได้ถึง 100 ปีกันเถอะ” ...หากไม่ดูแลอย่างถูกวิธี อายุการใช้งานของข้อต่อกระดูก อาจมาถึงเร็วกว่าอายุขัยของมนุษย์เสียอีก

สาเหตุของอาการปวดเข่ามาจากอาการข้อเข่าเสื่อม พบในเพศหญิงมากถึง 90% ซึ่งส่วนมากอาการเหล่านี้จะฟ้อง เมื่ออายุในช่วงประมาณ 40 ปี สาเหตุที่ผู้หญิงมีอัตราส่วนการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมากกว่าผู้ชายเนื่องจาก ผู้หญิงมีกล้ามเนื้อน้อยกว่า ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงง่าย จนไม่สามารถรองรับกระดูกข้อต่อได้ดี นอกจากนี้ วิธีการยืนและเดินที่ไม่ถูกต้องของคนในปัจจุบันก็มีผลทำให้เกิดอาการข้อเข่า เสื่อมได้เช่นกัน 
          
รู้หรือไม่ ว่าท่ายืนของคุณเป็นแบบไหน? เราชินกับท่าทางการยืนและเดินของเรามามากเท่ากับอายุ แต่คุณทราบหรือไม่ว่า ท่ายืนของคุณนั้นเป็นท่ายืนที่ถูกวิธีหรือไม่ ท่ายืนของคุณเป็นแบบไหน

     
1.ตัวเอียง ลำตัวเอียงไปด้านซ้ายหรือขวา ด้านใดด้านหนึ่ง เอวและใบหน้าจะเอียงไปด้านตรงกันข้ามลักษณะการยืนแบบนี้ จะทำให้เจ็บบริเวณหัวเข่า เอว ไหล่  2.ตัวบิดงอ ไหล่ข้างซ้ายหรือขวา ข้างใดข้างหนึ่งเอียงค่อนมาทางด้านหน้า เอวจะเอียงไปทางด้านตรงกันข้าม ทำให้เกิดอาการเจ็บบริเวณเอวด้านใดด้านหนึ่ง 3.หลังโก่ง ผู้ที่หลังโก่งกระดูกบริเวณไหล่จะโค้งงอ ซึ่งทำให้ใบหน้ายื่นออกมาข้างหน้า มักมีอาการเจ็บที่ไหล่และเอว
4.หลังแอ่น มีหลายคนที่บริเวณด้านล่างของท้องยื่นออกมาทางด้านหน้า ทำให้หลังแอ่น กระดูกบั้นเอวจะเอียงไปทางด้านหน้าทำให้เอวต้องรับน้ำหนักมาก ส่งผลให้เจ็บบริเวณเอว  5.ขาบิดเข้า ข้อต่อกระดูกของหัวเข่า เอว และข้อต่อสะ 6.ขาโก่ง คือสภาพของช่องว่างระหว่างหัวเข่าวัดได้กว้างกว่าสองนิ้วมือ ส้นเท้าทั้งสองข้างบิดเข้าหากัน และมักจะเกิดอาการเจ็บที่หัวเข่า

   
 หากคุณมีลักษณะท่ายืนตามแบบที่กล่าวมาข้างต้น นั่นแสดงว่าคุณยืนแบบผิดวิธีมาตลอด บางรายจึงมักมีอาการ ปวดข้อเท้า ปวดเข่า ปวดตามเส้นประสาท ปวดหลัง ซ้ำยังเป็นบ่อเกิดของโรคไขข้ออักเสบ หรือไขข้อเสื่อมอีกด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นผลมาจากการยืนหรือการเดินที่ไม่ถูกวิธีนั่นเอง ดังนั้นวิธีการยืนและที่ถูกต้องควรเป็นแบบไหน ดูได้จากข้อแนะนำ ดังนี้  

ท่ายืนที่ดี
หากเรายืน หรือเดินอย่างถูกวิธี อาการปวดไหล่ ปวดเอวก็จะดีขึ้นตามไปด้ด้วย ข้อสังเกตุท่าทางการยืนที่ถูกวิธี คือ 
1.หู ไหล่ ข้อมือและข้อเท้า ต้องอยู่ในแนวเดียวกัน
2.ยืนแยกขาทั้ง 2 ข้าง ห่างกันประมาณ 1 กำปั้น ให้ปลายนิ้วเท้ายื่นขนานไปข้างหน้า
3.ด้านหลังของศีรษะจะรู้สึกเหมือนถูกดึงให้เอียงขึ้นพอประมาณ แต่หน้าตรง และเก็บคางเล็กน้อย
4.แขม่วช่วงท้องเล็กน้อย เพื่อให้กระดูกบั้นเอวอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง 

ในช่วงแรกๆ หากเรายืนตามลักษณะทั้ง 4 ข้อนี้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จะรู้สึกเกร็งและไม่สบายตัว ดังนั้นควรค่อยๆ ฝึกทำให้เกิดความเคยชิน เมื่อยืนอย่างถูกวิธีแล้วอาการปวดเข่า ปวดตามข้อต่างๆ ก็จะค่อยๆ ทุเลาลง หรือในคนที่ยังไม่เกิดอาการปวด แต่หากฝึกลักษณะการยืนอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของข้อต่อต่างๆ ที่ขาได้

ข้อสังเกตุการเดินที่ดี
ก่อนอื่นต้องเริ่มจาก ส้นเท้าแตะพื้นก่อน ตามด้วยฝ่าเท้า และเมื่อยกส้นเท้าขึ้น พยายามบังคับให้นิ้วเท้าสัมผัสพื้นทั้ง 5 นิ้ว เมื่อนิ้วเท้าสัมผัสพื้น จะเกิดการถ่ายเทน้ำหนัก จากนิ้วก้อย ไปสู่นิ้วโป้งเท้า จากภาพจะเห็นว่าหลังจากส้นเท้าสัมผัสพื้น น้ำหนักจะถ่ายเทจากด้านนอก (ด้านนิ้วก้อย) ไปสู่นิ้วโป้งเท้า ซึ่งเป็นท่าเดินที่ควรจะเป็น 
 



ทำไมจึงควรใส่อาชิเบลท์?
เมื่อคนเราเดินหรือยืนอย่างผิดวิธี เช่น ขาโก่ง ขาบิดเข้า หรือเดินตัวเอียง ทำให้การถ่ายน้ำหนักของฝ่าเท้าไม่ถูกต้อง กระดูกอ่อนที่อยู่ระหว่างข้อต่อจึงเกิดการสึกกร่อน ทำให้กระดูกกระทบกัน เกิดอาการเจ็บปวดบริเวณข้อต่อ และหากยังคงยืนหรือเดินด้วยท่าทางที่ผิดต่อไป อาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้ จึงควรปรับลักษณะการยืนหรือเดิน ให้กลับเข้าสู่ท่าทางที่ถูกต้องเพื่อยืดอายุการใช้งานของกระดูกข้อต่อนั่นเอง 

เมื่อสวม ASHIBELT จะช่วยบรรเทาอาการเสื่อมของข้อเท้า ช่วยผ่อนน้ำหนักที่มักจะถูกถ่ายไปทางนิ้วก้อย ให้ถ่ายมาทางนิ้วโป้งเท้าได้อย่างราบรื่น ตามลักษณะการยืนและเดินที่ถูกวิธี ASHIBELT ยังช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงของฝ่าเท้ากลับเข้าใกล้ตำแหน่งที่ถูกต้อง และยังช่วยเพิ่มพื้นที่การสัมผัสของฝ่าเท้ากับพื้นให้มากขึ้น ส่งผลให้ยืนและเดินได้อย่างมั่นคง แม้อยู่บนพื้นแข็ง และสามารถรับน้ำหนักจากการเดินได้เป็นอย่างดี 
                

          


ข้อดีของอาชิเบลท์
 
เมื่อสวม ASHIBELT จะช่วยให้น้ำหนักถูกถ่ายเทจากนิ้วก้อยไปยังนิ้วโป้งเท้าได้อย่างราบรื่น ซึ่งเป็นการกระตุ้นการใช้กล้ามเนื้อที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า ช่วยให้กล้ามเนื้อเท้าและขาแข็งแรงขึ้นเองตามธรรมชาติ

ช่วยป้องกันไม่ให้ข้อเท้าเสื่อม
ช่วยเสริมข้อเท้า รองรับฝ่าเท้า ส้นเท้า และข้อเท้า ด้วยวัตถุดิบที่กระชับไม่ยืดหยุ่น แต่ไม่ใช่การรัดแน่นจนมีผลกับการเคลื่อนไหวปกติ และ ASHIBELT ถูกออกแบบให้สามารถรองรับส่วนโค้งของฝ่าเท้าได้ดี ช่วยให้เวลาเดิน นิ้วเท้าจะยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยบังคับให้เท้าสัมผัสพื้นเต็มฝ่าเท้าขณะยืนหรือเดินอีกด้วย นอกจากนี้ แผ่นเรซินที่อยู่ด้านใน จะช่วยกระชับเอ็นข้อเท้าที่อ่อนแรงให้ดีขึ้น ช่วยลดอาการเสื่อมของข้อเท้าและยังช่วยปรับความสมดุลของฝ่าเท้า ทำให้การถ่ายเทน้ำหนักเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง

=================================================

ดูแลสุขภาพเท้าด้วยสายรัดข้อเท้าอาชิเบลท์ได้แล้ววันนี้ในราคาเพียง 1,450 บาท มีจำหน่ายแล้วที่ FOOTWEAR BOUTIQUE สาขาสุขุมวิท 31, สาขาสุขุมวิท 24, สาขาแฟชั่น ไอซ์แลนด์, ร้านAEROSOLES สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว, สาขาเซ็นทรัล บางนา และศูนย์การค้า เมกา บางนา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-662-2515 ต่อ 2208 หรือ www.aafootwear.com

Tag :




แสดงความคิดเห็น






Content-Seo


Advertisement