พาเที่ยว "ตันแลนด์" ดินแดนแห่งความสมดุล พาเด็กๆเรียนรู้หลายอย่างในที่ดี ไม่เสียค่าเข้า!!!


วันอาทิตย์...ต้องพาลูกเที่ยว เที่ยวจังหวัดใกล้ๆจะได้ไม่เหนื่อยมาก เราตัดสินใจกันคืนวันเสาร์นั่นล่ะค่ะว่าจะพาลูกสาววัยเกือบ 7 ขวบไปที่ 

"ตันแลนด์" ดินแดนแห่งความสมดุล (Tan Land)

เราเองก็ไม่เคยไปค่ะ ลองดูข้อมูลแล้วโอเคน่าสนใจ แม้เราจะไม่ค่อยได้ดื่มอิชิตัน แต่เราก็อยากเรียนรู้เรื่องชาเขียว ชาอื่นๆและวิธีการผลิตต่างๆ

ว่าแล้วก็ตั้ง GPS มุ่งหน้าไป ตันแลนด์ ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ระหว่างทางไป GPS พาไปทางไหนก็ไปทางนั้นจนรู้สึกว่าพามาผิดทางหรือเปล่า

แต่เราก็ไม่มีทางเลือก เพราะไม่เคยไปกันเลย สุดท้ายก็มาถึงนิคมอุตสาหกรรมแล้ว เย้ๆๆๆๆๆ


ขับเข้าไป มียามแต่ไม่ได้ตรวจอะไรค่ะ ขับเข้าไปถึงแยกก็เลี้ยวขวาก็ถึง ตันแลนด์ แล้วค่ะ



เห็นชัดเจนเลยค่ะ จริงๆเห็นด้านหน้านี่เป็น Tan Land แหล่งเรียนรู้ ด้านในก็คือโรงงานนี่แหละค่ะ



ก่อนเข้าไปต้องแลกบัตรประชาชนก่อนนะคะ เค้าจะมีเอกสารให้เราค่ะ บอกเค้าว่ามาตันแลนด์

เรื่องการแต่งกายก็ตามภาพเลยนะคะ รองเท้าแตะยังพอเห็นเค้าใส่กันอยู่บ้างนะคะ แต่นุ่งสั้นเค้ามีผ้าให้ค่ะ (เท่าที่เห็นคนอื่นใส่นะคะ)

ของเราใส่รองเท้าผ้าใบไปกันค่ะ เพราะคาดว่าเดินนาน รองเท้าผ้าใบสะดวกที่สุด



มีที่จอดรถให้ด้านหน้าตึกเลยค่ะ 



ก่อนเข้าตึก ดูที่เรือแล้วก็นึกไปถึงสมัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ ที่นี่ก็หนักเหมือนกัน ดูระดับน้ำที่เค้าทำเอาไว้ หนักมากเลยล่ะ



ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะคะว่าอาจจะไม่ได้เขียนรายละเอียด ความรู้ต่างๆทั้งหมด

อยากให้ไปและได้อ่านและเรียนรู้ด้วยตนเองด้วยค่ะ เพราะความรู้มีเยอะมาก นกเองก็จำไม่หมด 

บอกลูกสาวไว้ว่าจะพามาอีก เพราะครั้งนี้อาจจะเก็บเกี่ยวไม่หมด หรืออาจจะมีลืมไปบ้าง ครั้งหน้ามาเพิ่มความรู้เข้าไปใหม่



ที่ตันแลนด์ เราจะต้องอ่านเยอะค่ะ ถ้าพาลูกๆไปก็อาจจะต้องอ่านให้ฟัง หรือถ้าลูกอ่านเองได้ ก็อาจจะไม่เข้าใจทั้งหมด ต้องอธิบายเพิ่มเติมนะคะ



ด้านล่างจะมีจุดถ่ายรูปนะคะ และมีลงทะเบียนค่ะ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อยู่ เราเลยเดินขึ้นชั้นสองมาค่ะ เข้าไปทางซ้ายมือที่เป็นรูปขวดอิชิตัน

ประตูทางเข้าเปิดต้อนรับอยู่



ห้องแรกจะมีรูปปั้นคุณตันเยอะมาก และกระปุกออมสินวางเต็มพื้นที่จัดวาง




เดินเข้าอีกห้องหนึ่งจะเริ่มเรียนรู้กันแล้วค่ะ เริ่มตั้งแต่เรื่องชาของแต่ละประเทศ 

การดื่มชาของประเทศจีน อังกฤษและญี่ปุ่น ในห้องนี้จะมีใบชาที่เขียนความรู้ต่างๆเอาไว้ให้อ่าน ต้องเดินอ่านไปแต่ละใบค่ะ

ใครอยากใส่ยูกาตะถ่ายรูปก็สามารถไปเปิดตู้ที่อยู่ก่อนเข้าห้องถัดไปมาสวมใส่ถ่ายรูปได้ค่ะ



ความรู้ในห้องนี้เป็นการเดินทางของ "ชา" ให้ความรู้กระชับและเข้าใจได้ง่ายค่ะ



เดินถัดมาอีกห้องจะมีเรื่องชา 4 ชนิด คือ ชาขาว ชาเขียว ชาอู่หลงและชาดำ

ชาแต่ละชนิด ใช้วิธีการที่แตกต่างกันออกไปกว่าจะออกมาเป็นชาให้เราได้ดื่ม เปิดอ่านที่ละชนิดค่ะ



ประโยชน์ของชาทั้ง 4 ชนิด ให้เราได้อ่านผ่านการหมุน 



ชามาจากหลายประเทศค่ะ



ณ จุดนี้..ที่ให้นั่ง เพราะมีจอทีวี พร้อมกับวีดีโอบอกเรื่องราวและการผลิต ซึ่งเราจะได้เห็นขั้นตอนจริงๆ 

เพราะตั้งแต่เดินเข้ามาก็เห็นในส่วนของโรงงานแล้วค่ะ 



ถัดจากการดูวีดีโอเสร็จ เดินมาทางขวาจะเห็นการต้มชาค่ะ (เค้าไม่ได้เขียนบอกทุกอย่างไว้นะคะ ต้องสังเกตเอา)



ภาพการ์ตูนเพื่อให้เด็กๆเข้าใจง่ายขึ้นค่ะ ยืนอ่านและค่อยๆอธิบายกันไป



เมื่อเดินจากจุดวีดีโอเมื่อกี้ไปทางซ้ายจะเข้าห้องแรกเป็นห้องที่ถ้าเราอ่านทุกสิ่งอย่างในนี้จะตระหนักถึงภัยจากอาหาร

ฉะนั้นไม่ต้องตื่นตูมแต่ให้ตื่นตัวค่ะ ทางเลือกมีก็ควรเลี่ยงสิ่งที่เป็นอันตราย



เริ่มเข้าเรื่องออร์แกนิคแล้ว ก็จะมีเรื่องผักเป็นตัวเอกให้เข้าใจง่าย



ส่วนนี้ก็สนุก เพราะมีของจริงให้เราดูทางขวา ตั้งแต่ดินออร์แกนิค รังผึ้ง ดอกชา



การให้โอกาสก็เป็นจุดหนึ่งที่คุณตันได้ทำ ชาวเขาเป็นผู้เก็บใบชานั่นเองค่ะ ทำได้น่ารักอ่ะ



ก่อนจะเดินต่อไป เราหยุดตรงนี้นานและนาน ดูการแพคของชาเขียวแบบแพค 4 มองไกลๆเห็นแพคแบบขวดด้วยค่ะ



เดินต่อไป ระวังจระเข้ดุ นี่กลัวจริงจังมากค่ะ ไม่ยอมเข้าห้องไป 

ได้ยินเสียงเฮๆๆ ออกมาจากห้องด้วย อะไรน๊าาา

สุดท้ายยอมเข้าไปค่ะ คาดว่าแต่ก่อนมีตุ๊กตาหรือตุ๊กตาปูนปั้นไว้ในห้องด้วย เป็นการจำลองสถานการณ์น้ำท่วมค่ะ เราต้องเดินบนถุงทราย



เดินพ้นออกมา ก็อยู่ตรงนี้อีกเนิ่นนาน นั่งดูและถาม เห็นพนักงานเทน้ำชาเขียวออกจากขวดและทิ้งขวดลงถังใบใหญ่

ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าทำไม..ได้แต่เดาว่าไม่ได้มาตรฐาน หรือปิดฝาไม่สนิท



ดูการแพคเข้ากล่องยังสนุกได้ เพราะกว่าจะออกมาเป็นกล่องๆได้มีขั้นตอนเหมือนกัน และเราก็เห็นทุกขั้นตอนค่ะ



เดินมาอีกหน่อย น้ำยังท่วมต้องช่วยกันทำความสะอาดค่ะ ^^



จริงๆบริเวณนี้จะวางเครื่องจักรที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเอาไว้ด้วยหลายอย่างค่ะ



เดินมาอีกหน่อย จุดที่ลูกอยากดูมาก (เหมือนทุกอันนั่นแหละ) 

การจัดเรียงกล่องเพื่อห่อพลาสติก อยู่ตรงนี้นานมากอีกเช่นเคย

กว่าเครื่องจักรจะเรียงแต่ละกล่องกว่าจะได้แต่ละชั้น (ตอนนี้แม่นั่งลงละ และให้ลูกลงนั่งดูด้วย)

ในที่สุดก็เข้าเครื่องพันพลาสติกหรือ Wrap ค่ะ เพื่อกันฝุ่นและความชื้นก่อนส่งต่อไปยังโกดัง


ยังไม่จบค่ะ เดินมาอีกหน่อยจะเป็นการปรับความคิด เราเข้าห้องแรกและไปนั่งฟังนั่งดูวีดีโอก่อน (ไม่มีใครในห้องเลยอ่า)

จากนั้นก็ไปห้องของน้ำค่ะ



ในห้องนี้จะมีเรื่องของน้ำที่เราควรรู้ และเรียนรู้ที่จะรักษ์น้ำด้วยนะคะ





เครื่องชั่งนี้ไม่ได้เอาไว้ชั่งน้ำหนักค่ะ เป็นการชั่ง "น้ำ" ในร่างกาย



ห้องถัดมา "พิพิธภัณฑ์แห่งการสาบสูญ"

หลักๆของห้องนี้คือ ในแต่ละกล่องจะมีสิ่งของวางไว้พร้อมข้อความ

เมื่อเราอ่านไปจะรู้ว่าการที่เราใช้ทรัพยากรต่างๆ วันหนึ่งก็จะหมด รวมไปถึง "มนุษย์" เองด้วย

อ่านให้ครบนะคะ เพราะความรู้ดีๆทั้งนั้น เตือนสติเราได้ดีมาก



ห้องนี้จะมีเกมให้เล่น เป็นการคัดขยะว่าสิ่งใดขายได้หรือไม่ได้ค่ะ

บางอย่างที่เรานึกไม่ถึงเรากลับทิ้งขยะไป ไม่แยกไว้ขาย 

เสร็จจากตรงนี้มีห้องน้ำนะคะ ..รีบไปเข้าก่อน ห้องน้ำหญิงใช้ได้ 1 ห้อง ห้องน้ำชายปิดชั่วคราว



ในล็อคเกอร์มีจอให้ดูว่าใครกำลังพูดอะไรว่าแล้วเราก็หยิบหูฟังมาฟังค่ะ

ให้แง่คิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆรอบตัวได้ดี



ห้องบรรจุภัณฑ์

บรรจุภัณฑ์ต่างๆถูกโยนทิ้งจำนวนมาก แต่จริงๆสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรือ โต๊ะนักเรียน หรืออื่นๆ



ขยะเงิน ขยะทอง

แยกขยะและเอาไปขาย แม้จะได้เงินไม่มายอะไร แต่อย่างน้อยๆดีกว่าทิ้งไปเฉยๆ ช่วยกันเพื่อให้โลกน่าอยู่

ของบางอย่างนำไปรีไซเคิลได้ บางอย่างเช่นกล่องนม กล่องเครื่องดื่ม ให้ตัดกล่องล้างและพับเพื่อประหยัดพื้นที่ก่อนนำไปขาย

เค้ามีวิธีบอกอยู่นะคะ มี 3 วิธีด้วยกันค่ะ ลองไปดูนะคะ









ดูตรงนี้ก็สะท้อนไปเมื่อหลายปีก่อน บ้านเราก็ท่วมเช่นกัน แต่ที่นี่หนักกว่าเราเยอะ เสียหายกว่าเราเยอะค่ะ





เมื่อเดินออกมาแล้ว มีตู้ชาแช่เย็นอยู่ เราก็ไปเลือกๆ พอจะจ่ายตังค์ พนักงานบอกว่า "ฟรีครับ" กี่ขวดก็ได้

แต่เราก็หยิบมาแค่พอดื่มกัน 3 คนค่ะ (ถ้าคุณตันทำน้ำเปล่าด้วยคงได้ดื่มน้ำเปล่าด้วย ณ จุดนี้หิวน้ำมากค่ะ)



ที่บ้านนี้ไม่ได้เข้มงวดมากค่ะ ชาก็ให้ลูกดื่มได้ แต่ไม่ให้ดื่มกาแฟ ฮ่าๆๆๆ

หลายๆคนบอกว่าดื่มแล้วเดี๋ยวเค้าก็ไม่นอนหรอก สำหรับเด็กคนนี้ไม่เป็นค่ะ ดื่มชาเขียวมาตั้งแต่เล็กๆแล้วค่ะ แต่ไม่ได้ให้ดื่มปริมาณเยอะ

ชาเขียวแบบไม่มีน้ำตาลก็ดื่มค่ะ ฉะนั้นแบบมีความหวานเราก็ให้ดื่มเพื่อความสดชื่น



ชาที่เราเลือกมาค่ะ สดชื่นดี และเริ่มหิวแล้ว ไม่มีอาหารขายมีแต่ไอศกรีม melt me จัดมาลูกนึง

รองท้องก่อนจะพาไปต่ออีกนิดที่ชั้นบน ของเย็นเย็น กับไบร์เล่ย์



ของที่ระลึก แฮนด์เจลกลิ่นเย็นเย็น ยางลบ "ลบคำสบประมาท"



บริเวณที่นั่งพักค่ะ





จริงๆก็เริ่มเมื่อยแล้วนะคะ เข้าไปคนแรกๆ แต่ออกสุดท้าย เพราะเก็บเกี่ยวทุกสิ่ง

แต่เพราะพนักงานบอกว่า ที่ไบเล่จะมีสไลเดอร์ให้เด็กๆด้วย...เลยต้องรองท้องด้วยไอศกรีมนี่แหละค่ะ



ไม่มีอะไรมากค่ะ เป็นการจัดแสดงต่างๆ คิดถึงน้ำเก๊กฮวยสมัยก่อนจัง สดชื่นจริงๆ





สไลเดอร์ที่เด็กๆสนุกมาก กฎก็คือ "ต้องสวมถุงเท้าค่ะ" ถ้าเจ้าหน้าที่อยู่จะไม่อนุญาตเลยถ้าไม่สวมถุงเท้า

มีโดนตักเตือนด้วยค่ะ แต่ก็นั่นแหละ บางทีพูดไปก็ไม่ฟังพอเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ก็ทำ (ใส่รองเท้าเล่นเลยก็มีจ้าาาา)

โซนนี้ผู้ใหญ่เล่นได้นะคะ แต่ถ้าสวมถุงเท้า

แต่ขอเตือนผู้ใหญ่ที่ชอบการถ่ายรูปหน่อยว่า "การสั่งให้เด็กรอก่อน" ยังไม่ให้ลงสไลเดอร์ เพื่อตนเองและเพื่อนจะได้ถ่ายรูปนั่นไม่สมควร

เอือมค่ะเจอกรุ๊ปแบบนี้ เล่นสไลเดอร์ ลงเล่นบ่อบอล และกันไม่ให้เด็กลง เห็นละหงุดหงิด ขนาดเราบอกนะว่า เร็วๆหน่อยค่ะ

ก็เหมือนจะหูทวนลม ..... หึหึ




ถ้าเด็กที่อายุต่ำกว่า 7 ขวบ ต้องมีผู้ปกครองดูแลใกล้ชิดค่ะ บ่อบอลลึกค่ะ เด็กอาจจะเดินลำบาก



ก่อนกลับ เค้าเปิดสปริงเกิลพอดี เห็นรุ้งด้วย เด็กดีใจ ฮ่าๆๆๆ

ตันแลนด์ อยู่ไม่ไกลกรุงเทพค่ะ แค่อยุธยาเอง ผู้ใหญ่ก็ได้ความรู้ เด็กก็ได้เรียนรู้ด้วย




แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement