3. เลือกรองพื้นผิด

ทุกๆคนล้วนมีผิวที่แตกต่างกัน รองพื้นก็มีหลายประเภท จึงกลายเป็นเรื่องยากที่จะหารองพื้นที่เหมาะกับเรา การลองรองพื้นที่หลังมือ ควรทำเพื่อให้รู้เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์เท่านั้น ไม่ควรนำมาตัดสินใจในการเลือกเฉดที่เหมาะกับผิวหน้าเรา วิธีที่ดีที่สุดคือ ลองบนช่วงกรามของเรา ไม่ต้องอาย เช็ดเครื่องสำอางออกแล้วปาดรองพื้นและลองเกลี่ยว่าพอดีกับสีผิวเราหรือไม่ แล้วจึงตัดสินใจซื้อ หรือจะลองที่บริเวณคอ หรือช่วงหน้าอกก็ได้ เพื่อให้เฉดเหมาะทั้งหน้าคอ และช่วงหน้าอก

4. แต่งหน้ากับการดึงผิว

ไม่ว่าจะเป็นการอ้าปากให้กว้างเวลาทาลิปสติก หรือย่นหน้าผากเวลาปัดมาสคาร่า ถ้าทำอะไรพวกนี้อยู่ขอให้หยุดและหาวิธีใหม่ 

เพราะหากแต่งหน้าทุกวันหรือบ่อยๆรับรองว่าริ้วรอยมาเร็วกว่าปกติแน่นอน

5. เซ็ทด้วยแป้งทั้งหน้า

6. บรอนเซอร์จัดหนัก

การปัดบรอนเซอร์มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มมิติให้ใบหน้า ให้เห็นกรอบหน้าชัดเจน ไม่แบนจนเกินไป แต่ถ้าเลือกสีเข้มกว่าผิวหลายเฉดและยังมือหนักด้วย 

รับรองว่าดูไม่งาม ผิวหน้าจะเหมือนเลอะอะไรมา และดูไม่เป็นธรรมชาติ แนะนำให้ปัดทีละน้อยและค่อยๆเพิ่มจนได้ลุคที่เป็นธรรมชาติ

7. ลงคอนซีลเลอร์ก่อนรองพื้น

หากลงคอนซีลเลอร์ก่อนก็มีความเป็นไปได้ที่คอนซีลเลอร์จะไม่ติดทนและเลื่อนไหนได้ และอาจทำให้เกิดอาการตกร่องได้ 

ควรลงหลังจากลงรองพื้นแล้ว และดูจุดที่เราต้องการปกปิด ลงเฉพาะส่วนนั้นและใช้นิ้วกดเบาๆให้กลมกลืน

8. ไม่ใช้ไพรเมอร์สำหรับเปลือกตา

ไพรเมอร์สำหรับเปลือกตา ไม่ได้มีไว้ให้สีอายแชโดว์ชัดขึ้นหรือติดทนขึ้นเท่านั้น แต่ป้องกันไม่ให้เกิดอายแชโดว์ตกร่องเห็นเป็นชั้นๆ 

ดังนั้นไม่ควรลงอายแชโดว์โดยไม่ลงอายไพรเมอร์ เลือกเฉดที่สว่างกว่าผิวเพียงเล็กน้อยหรือสีเดียวกับผิวก็ได้เช่นกัน

10. ไม่สครับปากก่อนทาลิปสติก

ใครที่ปากชุ่มชื้นอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหา แต่ใครปากแห้งลอกแล้วทาแค่ลิปบาล์มก็อาจจะไม่พอ 

การสครับก่อนจะช่วยให้การทาลิปสติกสวยขึ้นมากและไม่หลุดเป็นแผ่นๆ ลองเลือกลิปสครับหรือใช้แปรงสีฟันนุ่มๆก็ได้เช่นกัน