บาจา (ประเทศไทย) เปิดตัว โปรเจกต์ บาจา เฮอริเทจ "บาจาเทนนิส" และ "บาจา บุลเล็ตส์" อย่างเป็นทางการ


บาจา (ประเทศไทย) เปิดตัว โปรเจกต์ บาจา เฮอริเทจ "บาจาเทนนิส" และ "บาจา บุลเล็ตส์" อย่างเป็นทางการ
เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 1 ตุลาคม 2559 ที่ สยามดิสคัฟเวอรี่ 

จากความสำเร็จของการนำรองเท้า "บาจาเทนนิส" (Bata Tennis) รองเท้ารุ่นคลาสสิคของบาจา มาวางจำหน่ายอีกครั้งในการเฉลิมฉลองครบรอบการก่อตั้งบาจา ครบ 120 ปี ในปี พ.ศ. 2557 ทำให้บาจาได้มองเห็นโอกาสในการนำรองเท้ารุ่นคลาสสิคของแบรนด์บาจา ที่เคยได้รับความนิยมกลับมาวางจำหน่ายอีกครั้ง จึงผุดโปรเจกต์ "บาจาเฮอริเทจ" (Bata Heritage) ขึ้นอย่างเป็นทางการ 



สำหรับโปรเจกต์ "บาจา เฮอริเทจ" ทางบาจามีความตั้งใจที่จะส่งต่อเรื่องราวความภาคภูมิใจที่มีมาอย่างยาวนานของบาจา ทั้งในด้านของสินค้าที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือและได้รับความนิยมเสมอมา โดยเลือกรองเท้าคลาสสิค 3 รุ่นที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกมาร่วมโปรเจกต์นี้ คือ "บาจาเทนนิส" (Bata Tennis) "บาจาบุลเล็ตส์" (Bata Bullets) และ "บาจาซาฟารี" (Bata Safari) หลังจากกระแสตอบรับที่ดีในการวางจำหน่าย "บาจา เทนนิส ฟีเจอร์ริ่ง พีนัทส์" (Bata Tennis featuring Peanuts) ไปเมื่อปลายเดือนมกราคม 2559 และกระแสเรียกร้องจากคนรักรองเท้าที่ถามเข้ามา บาจา ประเทศไทย จึงนำรองเท้า "บาจาเฮอริเทจ" เข้ามาวางจำหน่าย 2 รุ่นด้วยกัน คือ "บาจาเทนนิส" และ "บาจาบุลเล็ตส์"  โดยมี บาจาเทนนิสแบบคลาสสิคและแบบต่างๆ รวม 10 แบบ และ บาจาบุลเล็ตส์ จำนวน 3 แบบ เริ่มวางขายครั้งแรก ในวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2559 ที่สยามดิสคัฟเวอรี่



สำหรับ "บาจาเทนนิส" เป็นหนึ่งในรองเท้าที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของบาจา โดยทำยอดขายทั่วโลกได้กว่า 500 ล้านคู่ นับตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่ายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486 แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างมากของรองเท้ารุ่นนี้ แต่ด้วยปัญหาบางประการทำให้รองเท้ารุ่นดังกล่าวได้หยุดขายไป จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2557 บาจาจึงได้นำสินค้ารุ่นดังกล่าวมาผลิต และวางขายอีกครั้ง ในโอกาสครบรอบ 120 ปี บาจา โดยในการกลับมาครั้งนี้ของรองเท้า "บาจา เทนนิส" ทางดีไซน์เนอร์ เลือกที่จะคงรูปแบบดั้งเดิมของรองเท้าให้เหมือนเดิมทุกประการ แต่ใช้วัสดุในการทำรองเท้าที่ดีขึ้น และสีสันที่ดูสนุกสนานมากขึ้นด้วย 


เมื่อ "บาจาเทนนิส" ถูกนำเสนอออกมาอีกครั้งในปี พศ.2557 ด้วยดีไซน์อันคลาสสิคที่เรียบง่ายแต่โดดเด่น เหมาะสำหรับคนเมือง ทำให้กลายเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะผู้ที่ชอบรองเท้าสไตล์วินเทจ และ แน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้ของรองเท้ารุ่นดังกล่าวเป็นการเปิดตลาดใหม่ๆ ให้กับ บาจา อีกครั้งด้วย โดยร้านค้าไฮเอนด์ชื่อดังจากทั่วโลกต่างก็ได้นำสินค้ารุ่นดังกล่าวเข้าไปจำหน่าย โดยเริ่มแรกที่ ร้าน โคเล็ตต์ (Colette) ในปารีส, ร้าน โดเวอร์ สตรีท มาร์เก็ต ใน นิวยอร์ก ลอนดอน โตเกียว และ ร้าน เท็น คอร์โซ คอร์โม (10 CorsoCormo) ในมิลาน และ โซล เป็นต้น 



ในปีดังกล่าวทำให้บาจาได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ชื่อดังระดับโลกอย่าง กอม เดอร์ การ์ซอง (Comme Des Garçons) สำหรับคอลเล็คชั่น "บาจา เทนนิส ฟีเจอร์ริ่ง กอม เดอร์ การ์ซอง" ออกมาขายเป็นครั้งแรกเพื่อ และในปีต่อมาก็มีรองเท้า  "บาจา เทนนิส ฟีเจอร์ริ่ง พีนัทส์" เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการกำเนิดตัวการ์ตูนชื่อดัง จากการ์ตูนเรื่อง "พีนัทส์" ที่มีอายุครบ 65 ปี ซึ่งทางทีมงานบาจาและพีนัทส์ได้ร่วมกันออกแบบรองเท้าสุดพิเศษนี้ขึ้นมาด้วยกัน 3 ลาย โดยจัดจำหน่ายเฉพาะในร้านค้าระดับไฮเอนด์ทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย ทางบาจา ได้นำสินค้ารุ่นดังกล่าวเข้ามาขายที่สยามเซ็นเตอร์เพียง 200 คู่เท่านั้น 
สำหรับ "บาจา บุลเล็ตส์" เป็นรองเท้าที่ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2507 ในโรงงานบาจาที่เมือง เบลแคมป์ รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นรองเท้ากีฬาหลักที่ใช้ในการแข่งขันสำหรับทีมบาสเกตบอล "The Baltimore Bullets"  ทีม NBA ของแมรี่แลนด์ 



รองเท้า "บาจา บุลเล็ตส์" ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และได้มีการผลิตรองเท้ากีฬารุ่นอื่นๆ ขึ้นสำหรับกีฬาชนิดอื่น ไม่ว่าจะเป็น มวยปล้ำ ฟุตบอล และจักรยาน ก่อนที่จะเลิกผลิตไปในปี พ.ศ. 2513 "บาจา บุลเล็ตส์" ได้กลับมาสู่แวดวงรองเท้าอีกครั้งในคอลเลคชั่น Spring/Summer 2016 โดยครั้งนี้ได้มีการผลิตสินค้าในรุ่นคลาสสิคโดยคงรูปแบบให้เหมือนกับรองเท้าที่เคยผลิตในปีพ.ศ. 2507 สำหรับผู้ที่นิยมรองเท้าสไตล์วินเทจ และมีรุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย สำหรับรุ่นที่วางขายที่ประเทศไทยในปีนี้เป็นรุ่น บาจา บุลเล็ตส์ หุ้มข้อ คลาสสิค จำนวน 3 สีด้วยกัน คือ สีขาว สีดำ และสีเขียวอาร์มี่ 





และในปีหน้า "บาจา เฮอริเทจ" ก็ได้มีโปรเจกต์ร่วมกับ การ์ตูนญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลก อย่าง "แอสโตรบอย" (Astro Boy) หรือในชื่อไทยว่า "เจ้าหนูปรมาณู" การ์ตูนจากปลายปากกาของนักวาดการ์ตูนชื่อดัง เทะซึกะ โอะซามุ (Tezuka Osamu) มาโลดแล่นอยู่บนรองเท้า "บาจาเทนนิส" จำนวน 3 ลาย ส่วน "บาจาบุลเล็ตส์" ก็ได้ร่วมกับจูเลียน เดวิด (Julien David) ดีไซน์เนอร์ชาวฝรั่งเศส ออกแบบรองเท้าให้เป็นแนว Street-Smart โดยได้รับแรงบันดาลใจของลายคลื่นมากจากภาพพิมพ์ "The Great Wave of Kanagawa" ของศิลปินชาวญี่ปุ่น ชื่อ คะสึชิกะ โฮะกุไซ  (Katsushika Hokusai) ที่ได้มีการเปิดไปตัวรองเท้าไปแล้วพร้อมคอลเลคชั่นเสื้อผ้าของ Julien David ในงาน Paris Fashion Week 2017 ซึ่งทั้ง 2 คอลเลคชั่นนี้ จะเข้ามาวางจำหน่ายที่ประเทศไทยปี 2560 อย่างแน่นอน



สำหรับข่าวสารความเคลื่อนไหวของ "บาจาเฮอริเทจ" ว่าจะมีรุ่นใหม่เข้ามาวางขายที่ไหน เมื่อไหร่ และจะมีการร่วมงานกับดีไซน์เนอร์คนไหนอีกบ้าง สามารถติดตามได้ที่ www.facebook.com/batathailand หรือ อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ BataThailand






Pooyingnaka Wellness