พริกขี้หนู หรือ Bird Chilli ขอยกฉายาให้เป็น "เล็ก พริกขี้หนู" ตัวจริง เห็นเม็ดเล็กๆแบบนี้แต่มีรสเผ็ดร้อนจัดจ้านจนทำให้ใครหลายคนน้ำหูน้ำตาไหลกันมานักต่อนักแล้ว พริกขี้หนูนิยมใส่ชูรสในครกส้มตำและยังใช้เป็นเครื่องเคียงคู่กับสาคูไส้หมู มีทั้งสีเขียวและแดง
พริกแห้ง คือ พริกขี้หนูที่นำมาตากแดดให้แห้งจนผิวภายนอกเกรียมกรอบ พริกแห้งจะมีกลิ่นหอมมาก หากใช้ทำน้ำพริกยิ่งชวนน้ำลายสอ แต่ถ้ากินสดก็นิยมทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับขนมจีนน้ำเงี้ยว ฯลฯ
พริกหวาน หลายคนเรียกว่า "พริกยักษ์" ด้วยความที่ผลของมันช่างใหญ่โตมโหฬารเกินหน้าเกินตาพริกชนิดอื่นๆจึงได้รับสมญานามนี้อย่างสมศักดิ์ศรี พริกหวานมี 3 สี คือ สีเขียว แดงและเหลือง รสชาติของพริกหวานจะเผ็ดน้อยกว่าพริกชนิดอื่นๆ คนส่วนใหญ่นิยมนำมาทานกับสลัดผัก ผัดเปรี้ยวหวานหรือนำมาชุบแป้งทอด ด้วยสีสันสดใสของพริกหวานั้นช่วยชูรสให้เมนูอาหารน่ากินขึ้น
พริกชี้ฟ้า มีถิ่นกำเนิดอยู่ในอเมริกาเขตร้อน ลักษณะของมันจะกลมยาว ปลายแหลม มีหลากสีสัน เช่น สีเขียว แดง ส้ม แม่บ้านหลายคนนิยมใช้พริกชี้ฟ้า มาผัดข้าวเพราะมีรสเผ็ดน้อย เหมาะสำหรับคนลิ้นจืด บางคนนำพริกชี้ฟ้ามาย่างไฟ ใช้ทำน้ำพริก กลิ่นจะหอมกรุ่นมากๆ ส่วนวิธีนำมาปรุงอาหาร ควรตัดขั้วพริกส่วนบนทิ้งก่อน แล้วใช้มีดผ่าพริกตายาวและคว้านเม็ดในทิ้ง รสชาติจะเผ็ดน้อยลง
เคล็ดลับพริกๆ
1. อย่าดื่มน้ำเปล่าทันทีหลังจากกินเผ็ดมาสดๆร้อนๆ เพราะมันจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกเผ็ดยิ่งขึ้น ให้ดื่มนมดับความร้อนของพริก น้ำชาร้อนๆหรือไม่ก็กินโยเกิร์ตแทน ความเปรี้ยวของโยเกิร์ตจะช่วยแก้อาการเผ็ดได้ชะงัด
2. ใครที่รู้สึกจะเป็นไข้ ตัวร้อนรุมๆ แนะนำให้ทานอาหารรสเผ็ดให้เหงื่อออก เช่น ส้มตำ ต้มยำ แกงส้ม ฯลฯ หรืออาหารที่มีพริกเป็นเครื่องปรุง ความเผ็ดของพริกจะช่วยขับเหงื่อและบรรเทาอาการไข้ให้ลดลงอย่างมหัศจรรย์
3. ยอดอ่อนๆของต้นพริก ยังใช้ทำเป็นผักลวกแกล้มกับน้ำพริก และเป็นเครื่องปรุงรสในแกงเลียงและแกงจืดได้ด้วย
4. สารแคปไซซินในพริกช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดได้ดี ปัจจุบันทางการแพทย์นำมาทำเป็นยาทาแก้ปวดเมื่อย และสารที่ว่านี้จะมีปริมาณน้อยขึ้นอยู่กับความเผ็ดของพริกแต่ละพันธ์
พริกแห้ง คือ พริกขี้หนูที่นำมาตากแดดให้แห้งจนผิวภายนอกเกรียมกรอบ พริกแห้งจะมีกลิ่นหอมมาก หากใช้ทำน้ำพริกยิ่งชวนน้ำลายสอ แต่ถ้ากินสดก็นิยมทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับขนมจีนน้ำเงี้ยว ฯลฯ
พริกหวาน หลายคนเรียกว่า "พริกยักษ์" ด้วยความที่ผลของมันช่างใหญ่โตมโหฬารเกินหน้าเกินตาพริกชนิดอื่นๆจึงได้รับสมญานามนี้อย่างสมศักดิ์ศรี พริกหวานมี 3 สี คือ สีเขียว แดงและเหลือง รสชาติของพริกหวานจะเผ็ดน้อยกว่าพริกชนิดอื่นๆ คนส่วนใหญ่นิยมนำมาทานกับสลัดผัก ผัดเปรี้ยวหวานหรือนำมาชุบแป้งทอด ด้วยสีสันสดใสของพริกหวานั้นช่วยชูรสให้เมนูอาหารน่ากินขึ้น
พริกชี้ฟ้า มีถิ่นกำเนิดอยู่ในอเมริกาเขตร้อน ลักษณะของมันจะกลมยาว ปลายแหลม มีหลากสีสัน เช่น สีเขียว แดง ส้ม แม่บ้านหลายคนนิยมใช้พริกชี้ฟ้า มาผัดข้าวเพราะมีรสเผ็ดน้อย เหมาะสำหรับคนลิ้นจืด บางคนนำพริกชี้ฟ้ามาย่างไฟ ใช้ทำน้ำพริก กลิ่นจะหอมกรุ่นมากๆ ส่วนวิธีนำมาปรุงอาหาร ควรตัดขั้วพริกส่วนบนทิ้งก่อน แล้วใช้มีดผ่าพริกตายาวและคว้านเม็ดในทิ้ง รสชาติจะเผ็ดน้อยลง
เคล็ดลับพริกๆ
1. อย่าดื่มน้ำเปล่าทันทีหลังจากกินเผ็ดมาสดๆร้อนๆ เพราะมันจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกเผ็ดยิ่งขึ้น ให้ดื่มนมดับความร้อนของพริก น้ำชาร้อนๆหรือไม่ก็กินโยเกิร์ตแทน ความเปรี้ยวของโยเกิร์ตจะช่วยแก้อาการเผ็ดได้ชะงัด
2. ใครที่รู้สึกจะเป็นไข้ ตัวร้อนรุมๆ แนะนำให้ทานอาหารรสเผ็ดให้เหงื่อออก เช่น ส้มตำ ต้มยำ แกงส้ม ฯลฯ หรืออาหารที่มีพริกเป็นเครื่องปรุง ความเผ็ดของพริกจะช่วยขับเหงื่อและบรรเทาอาการไข้ให้ลดลงอย่างมหัศจรรย์
3. ยอดอ่อนๆของต้นพริก ยังใช้ทำเป็นผักลวกแกล้มกับน้ำพริก และเป็นเครื่องปรุงรสในแกงเลียงและแกงจืดได้ด้วย
4. สารแคปไซซินในพริกช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดได้ดี ปัจจุบันทางการแพทย์นำมาทำเป็นยาทาแก้ปวดเมื่อย และสารที่ว่านี้จะมีปริมาณน้อยขึ้นอยู่กับความเผ็ดของพริกแต่ละพันธ์