ครั้งแรกในไทย! กับนิทรรศการโชว์เคสคอลเลกชั่นไฮจิวเวลรี่จาก PIAGET
พร้อมเปิดตัว 'อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์'
ในฐานะ Friend of PIAGET คนแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หลังเพียเจต์ THE MAISON OF EXTRALEGANZA ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ประเทศไทยไปเมื่อหลายเดือนก่อน ด้วยการเปิดตัวบูติกคอนเซปต์ใหม่แห่งแรกอย่างเป็นทางการ ณ สยามพารากอน ล่าสุดแบรนด์ได้รวบรวมผลงานไฮจิวเวลรี่กว่า 120 ชิ้น มาจัดแสดงให้ได้ชมอย่างใกล้ชิด ณ บ้านปาร์คนายเลิศ หนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงด้านมรดกศิลปะและประวัติศาสตร์ ทั้งยังสอดคล้องกับดีเอ็นเอของแบรนด์ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยการมาเยือนของนิทรรศการครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่เมซงนำมรดกงานฝีมือที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์และชิ้นงานไฮจิวเวลรี่อันแสนขบถจากหลากหลายคอลเลกชั่นมาให้แฟนๆ ได้ชมกัน
จากจุดเริ่มต้น … แม้เพียเจต์จะเป็นเพียงโรงงานผลิตชิ้นส่วนกลไก แต่ในระยะเวลาไม่กี่ปีกลับสร้างหน้าประวัติศาสตร์สำคัญ ด้วยการเปิดตัวผลงานที่กลายเป็นลายเซ็นสร้างชื่อให้กับแบรนด์ในฐานะของผู้ผลิตนวัตกรรมเรือนเวลาที่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยความเพรียวบางอย่างคาดไม่ถึง ต่อมาเมื่อมุมมองทางวัฒนธรรม สังคม หรือแม้แต่เทรนด์แฟชั่นเข้ามามีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ ส่งผลให้บรรดาสตรีชั้นสูงยุคใหม่ต่างโหยหาความคิดริเริ่มและสไตล์ที่สร้างสรรค์บนเครื่องประดับที่ตนสวมใส่ เพียเจต์ก็ไม่ยึดติดกับกรอบความคิดเดิมๆ ดังผลงานที่ปรากฏช่วงยุค 1970s ที่สร้างความน่าตื่นตาให้กับวงการนาฬิกาและจิวเวลรี่เป็นอย่างมาก
เอ็มมานูเอล คูอาคู, กรรมการผู้จัดการเพียเจต์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย กล่าวว่า
"เรารู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นำนิทรรศการไฮจิวเวลรี่มาจัดแสดงที่กรุงเทพฯ ให้แขกคนสำคัญทั้งจากไทยและภูมิภาคได้ชม ซึ่งนอกจากจะได้ตื่นตากับผลงานไฮจิวเวลรี่กว่า 120 ชิ้นแล้ว มรดกทางประวัติศาสตร์บางส่วนจาก Patrimony Collection ที่ไม่เคยเผยที่ไหนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาก่อน ก็ถูกรวบรวมมาไว้ที่นิทรรศการแห่งนี้เช่นกัน เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้แบ่งปันความเชี่ยวชาญและมรดกอันชวนหลงใหลของเมซงให้ทุกท่านได้สัมผัส"
PAST AND PRESENT TIMES
โชว์เคสคอลเลกชั่นไฮจิวเวลรี่ครั้งนี้ นอกจากเมซงจะนำเรือนเวลาและเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงมาอวดโฉมแล้ว
ยังนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่เพียเจต์ส่งตรงมรดกล้ำค่ามากถึง 37 ชิ้น จาก Patrimony Collection มาจัดแสดงเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ผลงานแต่ละชิ้นในนิทรรศการส่วนแรกจึงเป็นการบอกเล่าถึงนวัตกรรมเรือนเวลาและไฮจิวเวลรี่ยุคแรกเริ่ม ไม่ว่าจะเป็น กลไกที่ขึ้นชื่อเรื่องความเพรียวบางเป็นพิเศษ อย่าง Caliber 9P หรือ 12P, นาฬิกาไฮจิวเวลรี่ที่เมซงนำกลิ่นอายของความเป็นกูตูร์จากรันเวย์ที่ปารีสมาคอนทราสต์ด้วยการประดับหินสีบนพื้นหน้าปัด, นาฬิกาที่มาในดีไซน์สร้อยเส้นยาวแบบ Sautoir ผลงานเก่าแก่ที่ทำขึ้นในยุค 1960s, มรดกงานออกแบบที่สอดแทรกทักษะของช่างทองในอเตลิเยร์ได้อย่างนอกกรอบและเป็นที่น่าจดจำ ไปจนถึงเรือนเวลาอีกมากมายที่สร้างความแปลกตาด้วยเท็กซ์เจอร์, วัสดุ และสีสันที่ชวนลุ่มหลง
ขณะที่ นิทรรศการส่วนที่ 2 เป็นการนำเสนอบรรดาผลงานไฮจิวเวลรี่ที่เปี่ยมด้วยความสดใสและมีชีวิตชีวาจากหลากคอลเลกชั่น จัดแสดงเป็น 2 ธีมหลักที่ว่าด้วยเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติ อย่าง Vibrant Nature และ Endless Radiance โดยมีชิ้นงานเด่นจาก 120 ชิ้นที่ถือเป็นไฮไลท์ห้ามพลาด อาทิ สร้อยคอ Celestial Ballet ที่หยิบยกแซฟไฟร์สีน้ำเงินและเพชรมาเป็นกรอบในการสร้างสรรค์ โดยเมซงเลือกจำลองการเคลื่อนไหวของสายน้ำที่แปรเปลี่ยนไปแต่ละช่วงเวลาผ่านเฉดสีของแซฟไฟร์สีน้ำเงินที่แตกต่างกันถึงสามระดับ ซึ่งทีมนักอัญมณีศาสตร์ของเพียเจต์ใช้เวลามากกว่า 1 ปี ในการเสาะหา ขณะที่ประกายงามของเพชรชวนให้นึกถึงแสงอาทิตย์เมื่อยามตกกระทบผืนน้ำได้เป็นอย่างสมบูรณ์แบบ หรือจะเป็นดีไซน์อสมมาตรและเส้นสายที่โค้งเว้าของ สร้อยคอ Generous Laces ที่ถ่ายทอดสายน้ำอันคดเคี้ยวผ่านประกายงามของเพชรได้อย่างเหนือจินตนาการ ปิดท้ายด้วย Secret Watch Cuff ในชื่อ Exquisite Moments เรือนเวลาที่หลอมรวมความเชี่ยวชาญของเมซงแบบรอบด้าน โดยเฉพาะรูปแบบการฝังเพชรทรงมาร์คีส์ ที่ร้อยเรียงอย่างวิจิตรบรรจงเพื่อเลียนแบบขนนกขณะสยายปีกโบยบินในป่าเขตร้อน ขณะที่เพชรแฟนซีสีเหลืองเฉด fancy vivid ซึ่งเป็นเพชรหายากมากตามธรรมชาติ ถูกนำมาสะท้อนถึงความน่าอัศจรรย์ของดวงอาทิตย์บนชิ้นงานนี้เช่นกัน
APO NATTAWIN, APPOINTED FRIEND OF MAISON
เพื่อเฉลิมฉลองการมาเยือนของนิทรรศการครั้งสำคัญและเตรียมนับถอยหลังครบรอบ 150 ปีของแบรนด์ในปี 2024 เพียเจต์ ได้ประกาศเลือกนักแสดงมากความสามารถ 'อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์' เป็น Friend of PIAGET ซึ่งนับเป็นคนแรกของประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากแบรนด์อย่างเป็นทางการ
ฟาติเมห์ ลาเลห์, ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและภาพลักษณ์ของเพียเจต์ กล่าวว่า
"เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับอาโปเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ 'เพียเจต์ โซไซตี้' โดยเฉพาะความน่าตื่นเต้นครั้งใหม่ที่เราได้นำมาจัดแสดงที่กรุงเทพฯ และได้อาโปมาร่วมถ่ายทอดสไตล์อันเด่นชัดของเขาที่สอดคล้องกับแบรนด์ เช่นเดียวกับเหล่าไอคอนในตำนานอย่าง แอนดี้ วอร์ฮอล หรือ ซัลบาดอร์ ดาลี - อาโปคือตัวแทนที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าที่จะแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ ทั้งยังมีทัศนคติที่สร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายแนวคิดให้กับทุกคนที่อยู่รอบตัวเขา"
INSIDE PIAGET’S HIGH JEWELLERY GALA DINNER
ค่ำคืนแห่งความทรงจำครั้งนี้ 'อาโป' ปรากฏตัวในงานกาล่าดินเนอร์เฉลิมฉลองการมาเยือนของนิทรรศการโชว์เคส
คอลเลกชั่นไฮจิวเวลรี่จากเพียเจต์ ภายในงานยังได้รับเกียรติจากแขกคนสำคัญของแบรนด์มากมาย อาทิ ฮวังอินยอบ นักแสดงหนุ่มจากเกาหลีใต้, ริต้า-ศรีริต้า เจนเซ่น จากประเทศไทย, ชา อัลยาห์ยา จากประเทศมาเลเซีย และ เวเลิฟ เวเซีย จากประเทศอินโดนีเซีย
อาโป-ณัฐวิญญ์ เลือกสวมเครื่องประดับชั้นสูงอย่าง สร้อยคอ Generous Laces และ นาฬิกา Altiplano Precious Skeleton หนึ่งในเรือนเวลาไฮจิวเวลรี่หน้าปัดเปลือยที่บางที่สุด ณ ขณะนี้ กลไกถูกตกแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยเพชร
บริลเลียนต์คัตและแซฟไฟร์สีน้ำเงิน
ฮวังอินยอบ สวมนาฬิกาไฮจิวเวลรี่ Altiplano Tourbillon ตัวเรือนไวท์โกลด์ ประดับเพชร จับคู่กลไก 670P มาพร้อม
ฟลายอิ้ง ตูร์บิญอง แบบบางพิเศษ ที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของตัวเองทั้งหมด สไตลิ่งลุคให้น่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยต่างหู Exalting Dance ที่นำมาประดับเป็นเข็มกลัดได้อย่างชาญฉลาด
ศรีริต้า เจนเซ่น สวมใส่สร้อยคอ Voluptuous Borealis ที่เมซงหยิบโมเมนต์ชวนหลงใหลของแสงออโรร่า มาใส่ไว้ในจิวเวลรี่ชั้นสูงชิ้นนี้ โดยไฮไลต์อยู่ที่มรกตแซมเบีย ที่สะท้อนความงามของม่านแสงที่สลับกันพลิ้วพาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน เข้าคู่กับเรือนเวลาไฮจิวเวลรี่ในคอลเลกชั่น Treasures โดดเด่นด้วยพื้นหน้าปัดแบล็ค โอปอล ล้อมรอบด้วยเพชรทรงมาร์คีส์ - ซิกเนเจอร์คัตเลื่องชื่อของเพียเจต์
ชา อัลยาห์ยา สวมใส่เซ็ตเครื่องประดับชั้นสูง ประกอบไปด้วยสร้อยคอและต่างหู Shimmering Savor ถ่ายทอดช่วงเวลาอันแสนพิเศษของเหล่าเพียเจต์ โซไซตี้
เวเลิฟ เวเซีย สวมใส่ชิ้นงานไฮจิวเวลรี่อย่าง ต่างหู แหวน และนาฬิกา ที่โดดเด่นด้วยอัญมณีสีชมพูและการเจียระไนทรงมาร์คีส์
---
PIAGET SIAM PARAGON Location:
991, Shop M44-45, M Floor, Rama 1 Road
10330 Bangkok Thailand
ABOUT PIAGET
Piaget epitomizes daring creativity – a quality that has continued to permeate through the Maison since its beginnings in 1874. From his first workshop in La Côte-aux-Fées, Georges-Edouard Piaget devoted himself to crafting high-precision movements in a feat that formed the very foundations of our pioneering name. In the late 1950s, Piaget unveiled the ultra-thin movements that would later become the Maison’s trademark and the cornerstone of the Altiplano collection. As a true innovator of the watch and jewellery world, Piaget strongly believed in creativity and artistic values. It is within the walls of our “Ateliers de l’Extraordinaire” where master artisans continue to harness rare skills that have been preserved and perfected from generation to generation, transforming gold, stones and precious gems into dazzling works of art. Through its pursuit of masterful craftsmanship, the Maison has created emblems of daring excellence channelled into its collections including Altiplano, Piaget Polo, Limelight Gala, Possession, Piaget Sunlight, Piaget Rose and Extremely Piaget.
©PIAGET 2023. ALL RIGHTS RESERVED PIAGET.COM