ดูแลตัวเองเพื่อการป้องกันมะเร็งเต้านม




โรคนี้มักเกิดในผู้หญิงที่มีประจำเดือนตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่เคยมีการตั้งครรภ์ และมีโภชนาการที่ไม่ถูกต้อง เช่น รับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดมากและมากเกินไป ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนแต่มีส่วนทำให้ความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น

การดูแลตัวเองเพื่อลดความเสี่ยง
ปัจจัยทางด้านพันธุกรรม และพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตมีผลต่ออัตราความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นมะเร็ง การดูแลตัวเองดังนี้จะทำให้ช่วยลดความเสี่ยงได้ดีขึ้น

รับประทานอาหารที่ได้จากถั่วเหลืองเป็นประจำ
ไม่ว่าจะในรูปของนมถั่วเหลือง เต้าหู้ เต้าฮวย ถั่วงอก หรือน้ำมันจากถั่วเหลือง ทั้งนี้เพราะถั่วเหลืองเป็นธัญพืชที่อุดมด้วยสารไอโซฟลาโวน ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนกับฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่ไม่มีฤทธิ์กระตุ้นให้เกิดมะเร็งเต้านมขึ้นเหมือนอย่างฮอร์โมนเอสโตรเจน ดังนั้นเมื่อเราได้รับสารชนิดนี้เพิ่มเข้ามาแทน ร่างกายไม่จำเป็นต้องผลิตเอสโตรเจนมากจนกระตุ้นมะเร็ง

เน้นวิตามินในอาหารทุกมื้อ
การรับประทานผักผลไม้เสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งได้ และนอกจากวิตามินแล้ว กากใยจากผักผลไม้ก็ยังมีส่วนเก็บกวาดอนุมูลอิสระที่เป็นพิษออกจากร่างกายอีกด้วย

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายจะช่วยลดระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนและช่วยกระตุ้นให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่แข็งแรงพอจะสู้กับเซลล์มะเร็งได้ ดังนั้นอย่างน้อยวันละ 20 - 30 นาที ที่คุณควรมีเวลาให้กับการออกกำลังกายในรูปแบบที่คุณชอบในสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์

งดแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์จะเป็นตัวกระตุ้นและส่งผลโดยตรงทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด

ควบคุมอาหารไขมันสูง
ไขมันอิ่มตัวจากเนื้อสัตว์ เป็นตัวอันตรายที่จะเร่งให้เกิดมะเร็งได้อย่างน่ากลัวที่สุด แต่มีวิธีการแกไขง่าย ๆคือใช้ไขมันไม่อิ่มตัวจากพืชแทน

อย่าปล่อยให้ตัวเองอ้วนเกินไป
นอกจากรังไข่ที่กระตุ้นให้ร่างกายของผู้หญิงผลิตออร์โมนเอสโตรเจนแล้วเซลล์ไขมันก็มีส่วนทำให้ร่างกายยิ่งผลิตเอสโตรเจนมากขึ้นไปอีกจึงทำให้โอกาสเสี่ยงมะเร็งเพิ่มสูงขึ้น

หมั่นตรวจเช็กตัวเอง
สามารถสังเกตได้โดยใช้นิ้วมือกดคลำให้ทั่วจุด ควรทำจนเป็นกิจวัตรเพราะถ้ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ก็จะทราบได้ทันที แต่ช่วงก่อนประจำเดือนจะมา เต้านมมักเกิดไตแข็งๆ อาจทำให้รู้สึกคัดหรือปวดเต้านม จึงต้องรอให้พ้นช่วงนั้นก่อนจึงจะตรวจเช็กได้ถูกต้อง

หากยังไม่แน่ใจควรทำอย่างไร

ดิจิตอลแมมโมกราฟี่
ต่างจากเครื่องมือแมมโมกราฟี่แบบธรรมดา ทั้งนี้เนื่องจากเครื่องมือชนิดนี้จะมีการฉายรังสีเพื่อสแกนภาพของเนื้อเยื่อ
ภายในเต้านมทั้งสองข้างออกมา จากนั้นภาพดังกล่าวก็จะไปปรากฏอยู่บนจอมอนิเตอร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งเราสามารถปรับขยายภาพนั้นให้ใหญ่และชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อที่จะเข้าไปดุูนื้อเยื่อส่วนนั้นได้อย่างละเอียดภายในเวลาอันรวดเร็ว

พีอีที( Positronen-Emissions-Tomography)
เป็นการตรวจหาที่มีความชัดเจนสูง สามารถวิเคราะห์แยกแยะเซลล์เนื้อร้ายออกจากเซลล์ปกติได้อย่างถูกต้อง โดยอาศัยหลักการที่ว่าเซลล์เนื้อร้ายจะมีการเผาผลาญกลูโคสสูงกว่าปกติ ดังนั้นจึงทำให้เครื่องมือนี้สามารถตรวจจับความผิดปกติได้

เอ็มอาร์อี ( Magnet-Resonanz-Elastography)
ใช้หลักการสะท้อนกลับของคลื่นเสียงเพื่อบ่งบอกว่าจุดไหนเป็นเซลล์ดีและจุดไหนเป็นเซลล์ร้าย

🎁 สินค้าแนะนำ: เลือกซื้อจากบทความนี้






แสดงความคิดเห็น






ยังไม่มีความคิดเห็น