ขนมอาลัวหรืออะลัว มีความหมายว่ามีเสน่ห์ดึงดูดใจ ขนมชนิดนี้ไม่ได้มีต้นกำเนิดจากไทย แต่เป็นที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยอยุธยาในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยคุณท้าวทองกีบม้าหรือเลดี้ฮอร์ เดอควีมาร์ ภริยาเจ้าพระยาวิชเยนทร์ซึ่งเป็นชาวโปรตุเกสที่เข้ามารับราชการในราชสำนักนำมาเผยแพร่

วิธีทำ

1. ร่อนแป้งสาลี 2 ครั้ง ใส่น้ำตาลทรายลงในแป้งคลุกเคล้าให้เข้ากัน

2. คั้นกะทิโดยใช้น้ำสุกอุ่น 2/3 ถ้วยตวง คั้นให้ได้หัวกะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง

3. ใส่น้ำกะทิทีละน้อยลงในส่วนผสมของแป้งและน้ำตาล นวดจนน้ำตาลละลายหมด ใส่กะทิที่เหลือให้หมดแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อเอาสิ่งสกปรกออก เทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง ยกตั้งไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน เมื่อแป้งเริ่มสุกและมีลักษณะใสให้กวนแรงๆและเร็ว ถ้าไม่ใส่สี ขนมจะมีสีขาวสะอาดดี แต่ถ้าต้องการสีเขียวให้ใส่น้ำคั้นจากใบเตย 1 ช้อนโต๊ะ หรือใส่สีผสมอาหารตามชอบแต่ควรให้มีสีอ่อนๆ

4. ยกกระทะออกจากเตา ทิ้งขนมไว้ให้อุ่น หยอดขนมลงในถาดให้มีขนาดประมาณเหรียญบาท ตากแดดจัดประมาณ 2-3 แดด หรือนำเข้าเตาอบให้ผิวขนมด้านนอกแห้ง แต่ข้างในยังเป็นแป้งนุ่ม