การฝึกเด็กๆให้มีทัศนคติและอุปนิสัยในการใช้ชีวิตให้ถูกต้องทั้งเรื่องการเข้าสังคมและหัดดูแลสุขภาพตั้งแต่อายุน้อยๆจะทำให้สิ่งเหล่านี้ติดตัวเขาไปเป็นกำไรตลอดชีวิต และเหล่านี้คือเรื่องสำคัญที่ควรสอนให้เด็กๆปฎิบัติเป็นอุปนิสัย
1. สั่งน้ำมูกให้หมด
ยิ่งสอนให้เด็กๆสั่งน้ำมูกเป็นเร็วเท่าไหร่ก็จะลดปัญหาสุขภาพของเขาได้มากเท่านั้น เพราะจมูกที่คั่งด้วยน้ำมูกก็จะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาหูและโรคอื่นๆอีกมาก
วิธีสอน
หัดให้เด็กพ่นลมแรงๆออกจากปากก่อนในขั้นแรกเหมือนที่เล่นเป่าหมอกจากกระจก จากนั้นให้เขาพ่นลมแบบนั้นออกจากจมูกแต่ละข้างทีละครั้ง ไม่ช้าเขาก็ทำได้เอง
2. บริโภคอาหารเช้าทุกวัน
มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดเพราะจะช่วยให้เด็กๆคิดและเรียนดีขึ้น
วิธีสอน
คิดเมนูอาหารเช้าแปลกๆใหม่ๆให้เด็กได้สนุกกับมันแทนที่จะจำเจ ลองเปลี่ยนแซนวิชแฮมที่เคยกินเป็นประจำเป็นกล้วยปั่นกับโยเกิร์ตบ้างก็ได้
3. ปกป้องผิวตนเอง
ผู้เป็นมะเร็งผิวหนังส่วนใหญ่มักเกิดจากการตากแดดสะสมตั้งแต่วัยเยาว์ สอนให้เด็กๆรู้เรื่องนี้และทาครีมกันแดดก่อนทุกครั้ง
วิธีสอน ชวนเขาเล่นทาครีมกันแดดด้วยกันหรือพกใส่กระเป๋าเด็กๆไว้ให้หยิบง่ายๆ
4. ขยับร่างกายกำลังบ้าง
เด็กเดี๋ยวนี้มักชอบนั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์หรือดูโทรทัศน์นานๆโดยไม่ขยับไปไหนๆทำให้เจ็บป่วยบ่อยๆ ควรให้เขามีกิจกรรมด้านอื่นๆบ้าง
วิธีสอน
เลือกของเล่นที่ต้องใช้การออกกำลังเช่น จักรยาน บาสเกตบอล ปิงปอง ฯลฯ และสมาชิกในบ้านก็ควรร่วมเล่นกับเขาด้วย
5. ดูแลสุขภาพฟันของตน
สอนเด็กๆว่าการไม่แปรงฟันหรือปล่อยให้ฟันผุจะมีโรคร้ายอื่นๆตามมา
วิธีสอน
ช่วงวัย 3-5 ขวบเป็นวัยค้นคว้าและเรียนรู้ สอนให้เขาหัดแปรงฟันให้ถูกต้องและพาไปซื้อแปรงสีฟันแบบที่เขาชอบเพื่อกระตุ้นให้เขาอยากแปรงฟันมากขึ้น
6. ปิดปากและล้างมือเมื่อจาม
มีเชื้อโรคหลายชนิดที่อยู่ในน้ำลายเวลาไอหรือจามออกมา เช่น เชื้อหวัด เชื้อโรคหัด โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฯลฯ
วิธีสอน
บอกเด็กๆให้ปิดปากเวลาไอหรือจาม และล้างมือทุกครั้งหลังไอหรือจามเพื่อกันการถ่ายโอนเชื้อจากหน้าสู่มือและไปยังคนอื่นๆด้วย
7. สู้เพื่อทำดีที่สุด ไม่ใช่เพื่อเป็นคนเก่งที่สุด
ในโลกการแข่งขันและความกดดันที่ไร้เหตุผล ไม่มีใครจะได้ทุกอย่างที่ตนต้องการ ให้เด็กๆได้รู้ว่าเขาได้ใช้ความชำนาญทำทุกอย่างเต็มที่ นั่นคือความภูมิใจไม่ใช่ที่ผลตัดสินจากคนอื่น
วิธีสอน
อย่าชมเชยกับผลของรางวัลมากเกินไปแต่ให้ความสำคัญกับพัฒนาการและผลของความพยายามของเขาแทน
8. รู้จักบริโภคอาหารที่มีคุณค่า
อย่าให้เด็กติดอาหารขยะเป็นนิสัย ทำให้เป็นโรคอ้วนและเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานเมื่อโตขึ้น
วิธีสอน
หาอาหารว่างที่มีประโยชน์เช่นผลไม้หรือขนมทำเองที่มีส่วนผสมที่ดี แต่อย่าสอนให้เด็กบริโภคขนมเป็นประจำจนติดนิสัย
9. เข้าห้องน้ำทุกเช้า
เด็กควรถูกฝักหัดเรื่องกิจวัตรการขับถ่ายประจำวัน แพทย์ระบุว่าอาการเตือนเกี่ยวกับระบบขับถ่ายของร่างกายจะเกิดขึ้นมากที่สุดคือช่วงหลังอาหารเช้า และเด็กๆควรจะได้มีเวลาเข้าห้องน้ำในช่วงนั้น
วิธีสอน
หัดให้เด็กตื่นเร็วขึ้นอีกเล็กน้อยโดยเปลี่ยนเวลาการนอนเพื่อนอนามัยที่ดีของเขา
10. ควบคุมความโกรธ
ไม่ว่าจะเป็นอาการเกรี้ยวกราดหรือการแสดงสีหน้าอารมณ์แทนที่จะระเบิดมันออกมา เพื่อให้เด็กได้มีเกราะป้องกันตัวและหัดประนีประนอมกับชีวิตได้ในวันข้างหน้าเมื่อพบกับเหตุการณ์คับขัน
วิธีสอน
บอกเด็กๆว่า อารมณ์เหล่านั้นเป็นเพียงสัญญาณอย่างหนึ่งที่ต้องพิจารณาให้ปล่อยออกมาในระดับที่เหมาะสมหรืออาจละทิ้งไปไม่คิดถึงมันก็ได้
เรื่องของการดูแลเด็กๆก็เหมือนการปลูกต้นไม้ หากผู้ใหญ่สนใจหมั่นตัดแต่งและให้ในสิ่งที่เหมาะสม ต้นไม้สุดรักของเราก็เติบโตงดงามแข็งแรง มาสร้างนิสัยดีๆในการใช้ชีวิตให้เด็กๆตั้งแต่วันนี้เพื่ออนาคตที่เป็นผลกำไรของตัวเขาเอง