เหตุสมควรโกรธ ไม่มีในโลก


ความโกรธ คือทางเสื่อมที่มีแต่ทุกข์โทษเพียงอย่างเดียว
ผู้รู้ทั้งหลายมองเห็นโทษของความโกรธแล้ว จึงกล่าวไว้ว่า
เมื่อมีบุคคลโกรธเรา แล้วเราโกรธตอบ ถือว่าเราโง่กว่าเขาเสียอีก

หากเราสังเกตเห็นคนที่ชี้นิ้วด่าว่ากัน มือที่ชี้นิ้วนี้ก็สอนเราชัดเจนอยู่แล้ว
ว่านิ้ว 3 นิ้ว ชี้กลับมาที่ตัวเรา เปรียบเหมือนคำหยาบ คำด่า ที่เรา
ต้องการทำให้เขาเจ็บใจหรือทำให้คนที่อยู่รอบตัวเราไม่สบายใจเป็นทุกข์นั้น
ความจริงแล้วตัวเราเองนั่นแหละเป็นทุกข์มากกว่าเขาเป็น 3 เท่า

ในหลายๆ กรณี เราอาจจะมีความรู้สึกว่า เรามีเหตุผลสมควรที่จะโกรธเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเราโกรธ เท่ากับเราแพ้ตัวเอง ผู้มีปัญญาย่อมไม่โกรธ
ถึงแม้ว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีแค่ไหนก็ตาม ในโลกนี้ ไม่มีคำว่า สมควรโกรธ

ละความโกรธด้วยความรักและเมตตา เมตตาตรงข้ามกับโทสะ และพยาบาท
ซึ่งเป็นความโกรธและความมุ่งร้าย เมตตาเป็นความรักความปรารถนาดีให้มี
ความสุข เพื่อให้มีเมตตาเป็นพื้นฐานของจิต เราควรพิจารณาว่าตัวเรารักสุข
เกลียดทุกข์ฉันใด คนอื่น สัตว์อื่นก็รักสุข เกลียดทุกข์ฉันนั้น ผู้ที่จะแผ่เมตตาได้
จะต้องทำใจตัวเองให้มีเมตตาก่อน คือทำจิตใจตัวเองให้อ่อนโยน สงบเย็นลง
แล้วจึงแผ่นเมตตาแก่ผู้อื่นเพราะการแผ่สิ่งใดออกไปอน จิตใจจะต้องมีคุณสมบัตินั้น
อย่างแท้จริง

ฆ่าความโกรธได้ อยู่เป็นสุข ความโกรธ ไม่ว่ามากหรือน้อย โกรธนาน หรือไม่นาน
ล้วนทำลายความสุข ทำลายสุขภาพ เป็นโทษทั้งต่อตนเอง และคนรอบข้าง สำหรับ
ผู้ที่มีสติปัญญาแล้วจะเห็นความโกรธ เป็นอารมณ์ของผู้ไร้ปัญญา ย่อมหลีกเลี่ยง
คนมักโกรธ ตัดความโกรธด้วยความมีสติข่มใจไว้ และถอนรากเหง้าของความโกรธ
ด้วยเมตตาภาวนา

พระพุทธองค์ตรัสสรรเสริญการฆ่าความโกรธไว้ว่า
บุคคลฆ่าความโกรธได้ ย่อมอยู่เป็นสุข
บุคคลฆ่าความโกรธได้ ย่อมไม่เศร้าโศก

---- เอวัง ------


จากหนังสือธรรมะ ของท่านมิตซูโอะ คเวสโก

Tag :




แสดงความคิดเห็น






Content-Seo


Advertisement