1. เวลารู้สึกอ่อนเพลีย แตะน้ำมันเปปเปอร์มิ้นท์ตรงหน้าผากและขมับ น้ำมันกลิ่นนี้จะช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดตรงหน้าผากดีขึ้นหลังจากนั้นประมาณ 15 นาที คุณจะเริ่มรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะเลือดที่ไหลเวียนดีจะทำให้คุณสดชื่อขึ้น
2. เวลาเหนื่อยๆในวันทำงาน เรามักจะปล่อยให้ตัวเองนอนตื่นสายตะวันโด่ง ในวันเสาร์-อาทิตย์ แต่การนอนตื่นสายนี่ล่ะ จะทำให้สมองคุณมึนชาไม่แจ่มใส คุณควรเปลี่ยนเป็นตื่นเวลาปกติ แล้วค่อยหาเวลางีบเล็กๆตอนบ่าย ร่างกายจะสดชื่นมากกว่า
3. ให้เพื่อนที่อยู่แถวๆนั้น ช่วยกดกล้ามเนื้อแข็งๆบริเวณไหล่กดไล่มาที่กลางหลัง แต่ต้องระวังว่า อย่ากดกระดูกสันหลังเพราะอาจทำให้เกิดอันตราย ให้กดเฉพาะกล้ามเนื้อเท่านั้น ร่างกายของคุณจะผ่อนคลายขึ้นทันที แต่ถ้าไร้คนเหลียวแล หาใครช่วยนวดไม่ได้ ก็ให้ใช้นิ้วมือตัวเอง 2 ข้างกดตรงขมับ แล้ววนไล่ขึ้นไปบนหัว คุณจะผ่อนคลายและมีเรี่ยวแรงขึ้นได้
4. จุดเทียนไว้ข้างตัว ถึงแม้ว่าห้องคุณจะมีแสงสว่างอยู่แล้วก็ตาม ความมหัศจรรย์ของแสงเทียนก็คือ จะทำให้จิตใจของเราสบายขึ้นได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว
5. สูดหายใจเข้าลึกๆเหมือนกับว่า ลมกำลังเข้าไปร่างคุณทั่วร่าง แล้วหายใจออกจนสุด ทำสัก 5 ครั้ง
6. โทรศัพท์หาเพื่อนคนที่มีอารมณ์ขันที่ทำให้คุณหัวเราะได้เสมอ แล้วนัดเจอกัน เวลาที่เราหัวเราะเราจะลืมทุกอย่าง โลกจะสดใสและมีพลังดีๆไหลเวียนในตัว
7. ถ้าขณะที่กำลังรู้สึกแย่เป็นวันว่าง คุณควรออกจากบ้านทันทีแล้วไปชอปปิ้งซึ้อของเล็กๆน้อยๆให้ตัวเอง โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นของแพง
8. ลองคิดถึงสาเหตุที่ทำให้คุณเซ็ง แล้วพยายามหาข้อดีจากมัน เช่น มันทำให้คุณรู้จักอดทนมากขึ้น จากนั้นก็ให้ปล่อยวางมันซะ
9. หาถั่วมากินสักกำมือหนึ่ง ไขมันที่อยู่ในนั้นจะทำให้คุณกระตือรือร้นขึ้นได้
10. อาหารเช้ามื้อแรกของวัน ถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรเลือกทานอาหารที่มีโปรตีนสูง หรือของจำพวกสุกๆดิบๆ อาหารพวกนี้ต้องใช้พลังงานในการย่อยเยอะมาก มันจะทำให้ร่างกายคุณเนือยๆ ไม่กระปรี้กระเปร่าตั้งแต่เริ่มวัน
11. ถ้ารู้สึกห่อเหี่ยว เหนื่อยหัวใจเพราะรู้ข่าวร้ายหรือถูกเม้าท์ให้ได้ยินจะจะเต็ม 2 รูหู ลองเรียกความสดชื่นคืนมาด้วยการหลับตา แล้วจินตนาการว่า คุณกำลังยืนอยู่ท่ามกลางฟองสบู่ใหญ่ๆแล้วนึกภาพว่า ยายปากม้าขาเม้าท์กำลังยืนอยู่ตรงข้ามคุณ โดยมีฟองสบู่ลูกโตกั้นกลางระหว่างคุณกับเขาไว้ แล้วนึกภาพว่าคุณสูดหายใจลึกๆ เป่าฟองสบู่ไปแตกใส่หัวขาเม้าท์เต็มแรง คุณจะรู้สึกเหมือนความรู้สึกร้ายๆที่เก็บกดไว้แตกโพล้ะออกไปด้วย
12. หยิบกระดาษรีไซเคิลที่ไม่ใช้แล้ว ออกมาฉีกไปเรื่อยๆระหว่างที่ฉีกกระดาษ คุณจะมีสมาธิดีขึ้น
13. ลองเดินออกไปหาที่ที่ไม่มีคน แล้วกระโดดตัวลอยให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้แบบเด็กๆสักสิบครั้ง
14. ระหว่างวันทำงาน ถ้าคุณรู้สึกเหี่ยว ซังกะตาย อย่ามัวแต่นั่งอยู่กับที่ ให้ลุกขึ้นเดินไปที่ลิฟท์ กดลิฟท์ลงไปชั้นล่าง แล้วเดินบันไดกลับขึ้นมาอย่างเร็วๆถึงแม้ว่า จะต้องหอบแฮ่กๆ แต่รับรองว่าการได้ออกกำลังกายเสียเหงื่อนิดๆหน่อยๆแบบนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายคุณตื่นตัว มีเรี่ยวแรงกลับมาสู้งานได้สบาย
15. ถ้าเหนื่อยนัก หลังจากเลิกงานแล้ว ก็ปิดมือถือจนกว่าจะถึงเช้าวันใหม่ หยุดติดต่อสมาคมกับใครๆเพื่อให้ตัวเองได้พักผ่อนให้เต็มที่ จะช่วยฟื้นฟูพลังงานได้ดีนักแล
16. ถ้าต้องออกงานสังคมบ่อยๆหรือไปไหนมาไหนท่ามกลางคนหมู่มากติดต่อกันถี่ๆ อาจเผาผลาญพลังงานทั้งกาย-ใจของคุณไปมาก คุณควรชดเชยพลังงานให้ตัวเองด้วย การเดินรับแสงแดดอุ่นๆยามเช้าจากธรรมชาติ และหมั่นออกกำลังกายเท่าที่จะทำได้ เช่น เปิดเพลงแนวเทคโน แล้วดิ้นกระจายชนิดลืมโลกไปเลย
17. ถ้าเหนื่อยนักหรือเครียดจัด ขอแนะนำว่า อาหารช่วยคุณได้ค่ะ มื้อกลางวันนี้ลองหาของแปลกๆที่คุณไม่เคยทาน มาลองลิ้มรสดูหรือเปลี่ยนบรรยากาศไปกินข้าวในร้านใหม่ๆที่คุณไม่เคยไป จะช่วยให้คุณกระตือรือร้นขึ้นได้
18. ใช้ของที่มีอยู่กับตัว ให้เป็นประโยชน์ ลองหยุดพักคลายเครียดสักครู่ หยิบหนังสือสนุกๆขึ้นมาอ่าน พร้อมกับเอานิ้วพันผมตัวเองเล่นไปด้วย เล่นกับผมน่ะเพลินดีนะคะ
19. ลองเปลี่ยนไปดื่มชาเขียวแทนกาแฟ คาเฟอีนจากกาแฟจะทำให้หัวใจเต้นแรง ร่างกายอาจจะเหนื่อยง่าย แต่ชาเขียวถึงแม้จะมีคาเฟอีนอยู่บ้าง แต่ก็มีสารต้านมะเร็งด้วย ซึ่งมันจะช่วยทำให้จิตใจคุณสงบขึ้น
20. หาฮีโร่ในดวงใจไว้สักคนหนึ่ง แล้วจินตนาการถึงคนๆนั้น เขาคนนั้นจะเป็นคนมอบความแข็งแกร่งให้จิตใจของคุณเอง
21. เอากระดาษขึ้นมาเขียนสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขลงไป จะเป็นความจริงหรือแค่จินตนาการก็ไม่เป็นไร มีผลการวิจัยยืนยันว่า วิธีนี้จะทำให้คนเรามีความสุขขึ้น และอายุก็ยืนขึ้นด้วย (แต่ต้องทำบ่อยๆ) อย่ามัวหดหู่อยู่เลยค่ะ ลุกขึ้นมาสนุกกับชีวิตดีกว่า
2. เวลาเหนื่อยๆในวันทำงาน เรามักจะปล่อยให้ตัวเองนอนตื่นสายตะวันโด่ง ในวันเสาร์-อาทิตย์ แต่การนอนตื่นสายนี่ล่ะ จะทำให้สมองคุณมึนชาไม่แจ่มใส คุณควรเปลี่ยนเป็นตื่นเวลาปกติ แล้วค่อยหาเวลางีบเล็กๆตอนบ่าย ร่างกายจะสดชื่นมากกว่า
3. ให้เพื่อนที่อยู่แถวๆนั้น ช่วยกดกล้ามเนื้อแข็งๆบริเวณไหล่กดไล่มาที่กลางหลัง แต่ต้องระวังว่า อย่ากดกระดูกสันหลังเพราะอาจทำให้เกิดอันตราย ให้กดเฉพาะกล้ามเนื้อเท่านั้น ร่างกายของคุณจะผ่อนคลายขึ้นทันที แต่ถ้าไร้คนเหลียวแล หาใครช่วยนวดไม่ได้ ก็ให้ใช้นิ้วมือตัวเอง 2 ข้างกดตรงขมับ แล้ววนไล่ขึ้นไปบนหัว คุณจะผ่อนคลายและมีเรี่ยวแรงขึ้นได้
4. จุดเทียนไว้ข้างตัว ถึงแม้ว่าห้องคุณจะมีแสงสว่างอยู่แล้วก็ตาม ความมหัศจรรย์ของแสงเทียนก็คือ จะทำให้จิตใจของเราสบายขึ้นได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว
5. สูดหายใจเข้าลึกๆเหมือนกับว่า ลมกำลังเข้าไปร่างคุณทั่วร่าง แล้วหายใจออกจนสุด ทำสัก 5 ครั้ง
6. โทรศัพท์หาเพื่อนคนที่มีอารมณ์ขันที่ทำให้คุณหัวเราะได้เสมอ แล้วนัดเจอกัน เวลาที่เราหัวเราะเราจะลืมทุกอย่าง โลกจะสดใสและมีพลังดีๆไหลเวียนในตัว
7. ถ้าขณะที่กำลังรู้สึกแย่เป็นวันว่าง คุณควรออกจากบ้านทันทีแล้วไปชอปปิ้งซึ้อของเล็กๆน้อยๆให้ตัวเอง โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นของแพง
8. ลองคิดถึงสาเหตุที่ทำให้คุณเซ็ง แล้วพยายามหาข้อดีจากมัน เช่น มันทำให้คุณรู้จักอดทนมากขึ้น จากนั้นก็ให้ปล่อยวางมันซะ
9. หาถั่วมากินสักกำมือหนึ่ง ไขมันที่อยู่ในนั้นจะทำให้คุณกระตือรือร้นขึ้นได้
10. อาหารเช้ามื้อแรกของวัน ถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรเลือกทานอาหารที่มีโปรตีนสูง หรือของจำพวกสุกๆดิบๆ อาหารพวกนี้ต้องใช้พลังงานในการย่อยเยอะมาก มันจะทำให้ร่างกายคุณเนือยๆ ไม่กระปรี้กระเปร่าตั้งแต่เริ่มวัน
11. ถ้ารู้สึกห่อเหี่ยว เหนื่อยหัวใจเพราะรู้ข่าวร้ายหรือถูกเม้าท์ให้ได้ยินจะจะเต็ม 2 รูหู ลองเรียกความสดชื่นคืนมาด้วยการหลับตา แล้วจินตนาการว่า คุณกำลังยืนอยู่ท่ามกลางฟองสบู่ใหญ่ๆแล้วนึกภาพว่า ยายปากม้าขาเม้าท์กำลังยืนอยู่ตรงข้ามคุณ โดยมีฟองสบู่ลูกโตกั้นกลางระหว่างคุณกับเขาไว้ แล้วนึกภาพว่าคุณสูดหายใจลึกๆ เป่าฟองสบู่ไปแตกใส่หัวขาเม้าท์เต็มแรง คุณจะรู้สึกเหมือนความรู้สึกร้ายๆที่เก็บกดไว้แตกโพล้ะออกไปด้วย
12. หยิบกระดาษรีไซเคิลที่ไม่ใช้แล้ว ออกมาฉีกไปเรื่อยๆระหว่างที่ฉีกกระดาษ คุณจะมีสมาธิดีขึ้น
13. ลองเดินออกไปหาที่ที่ไม่มีคน แล้วกระโดดตัวลอยให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้แบบเด็กๆสักสิบครั้ง
14. ระหว่างวันทำงาน ถ้าคุณรู้สึกเหี่ยว ซังกะตาย อย่ามัวแต่นั่งอยู่กับที่ ให้ลุกขึ้นเดินไปที่ลิฟท์ กดลิฟท์ลงไปชั้นล่าง แล้วเดินบันไดกลับขึ้นมาอย่างเร็วๆถึงแม้ว่า จะต้องหอบแฮ่กๆ แต่รับรองว่าการได้ออกกำลังกายเสียเหงื่อนิดๆหน่อยๆแบบนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายคุณตื่นตัว มีเรี่ยวแรงกลับมาสู้งานได้สบาย
15. ถ้าเหนื่อยนัก หลังจากเลิกงานแล้ว ก็ปิดมือถือจนกว่าจะถึงเช้าวันใหม่ หยุดติดต่อสมาคมกับใครๆเพื่อให้ตัวเองได้พักผ่อนให้เต็มที่ จะช่วยฟื้นฟูพลังงานได้ดีนักแล
16. ถ้าต้องออกงานสังคมบ่อยๆหรือไปไหนมาไหนท่ามกลางคนหมู่มากติดต่อกันถี่ๆ อาจเผาผลาญพลังงานทั้งกาย-ใจของคุณไปมาก คุณควรชดเชยพลังงานให้ตัวเองด้วย การเดินรับแสงแดดอุ่นๆยามเช้าจากธรรมชาติ และหมั่นออกกำลังกายเท่าที่จะทำได้ เช่น เปิดเพลงแนวเทคโน แล้วดิ้นกระจายชนิดลืมโลกไปเลย
17. ถ้าเหนื่อยนักหรือเครียดจัด ขอแนะนำว่า อาหารช่วยคุณได้ค่ะ มื้อกลางวันนี้ลองหาของแปลกๆที่คุณไม่เคยทาน มาลองลิ้มรสดูหรือเปลี่ยนบรรยากาศไปกินข้าวในร้านใหม่ๆที่คุณไม่เคยไป จะช่วยให้คุณกระตือรือร้นขึ้นได้
18. ใช้ของที่มีอยู่กับตัว ให้เป็นประโยชน์ ลองหยุดพักคลายเครียดสักครู่ หยิบหนังสือสนุกๆขึ้นมาอ่าน พร้อมกับเอานิ้วพันผมตัวเองเล่นไปด้วย เล่นกับผมน่ะเพลินดีนะคะ
19. ลองเปลี่ยนไปดื่มชาเขียวแทนกาแฟ คาเฟอีนจากกาแฟจะทำให้หัวใจเต้นแรง ร่างกายอาจจะเหนื่อยง่าย แต่ชาเขียวถึงแม้จะมีคาเฟอีนอยู่บ้าง แต่ก็มีสารต้านมะเร็งด้วย ซึ่งมันจะช่วยทำให้จิตใจคุณสงบขึ้น
20. หาฮีโร่ในดวงใจไว้สักคนหนึ่ง แล้วจินตนาการถึงคนๆนั้น เขาคนนั้นจะเป็นคนมอบความแข็งแกร่งให้จิตใจของคุณเอง
21. เอากระดาษขึ้นมาเขียนสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขลงไป จะเป็นความจริงหรือแค่จินตนาการก็ไม่เป็นไร มีผลการวิจัยยืนยันว่า วิธีนี้จะทำให้คนเรามีความสุขขึ้น และอายุก็ยืนขึ้นด้วย (แต่ต้องทำบ่อยๆ) อย่ามัวหดหู่อยู่เลยค่ะ ลุกขึ้นมาสนุกกับชีวิตดีกว่า