พระจันทร ์ : เธอเป็นใครกัน ทำไมมีแสงแวววาวออกจากตัวเธอ เวลาลมพัด
กระจกน้ำ : ฉันคือกระจกน้ำ
พระจันทร ์ : กระจกน้ำมีไว้ทำอะไร
กระจกน้ำ : ฉันสามารถสะท้อนสิ่งต่างๆ ได้
พระจันทร ์ : แล้วเธอจะสะท้อนสิ่งต่างๆ ไปเพื่ออะไรหละ
กระจกน้ำ : ฉันไม่จำเป็นต้องตอบทุกคำถามของเธอ ... แล้วเธอล่ะ เป็นใครกัน
พระจันทร์ : ฉันคือพระจันทร์ไง เธอไม่รู้จักพระจันทร์เหรอ ฉันน่ะยิ่งใหญ่มากนะ
กระจกน้ำ : เธอน่ะเหรอยิ่งใหญ่ ทำไมฉันไม่เห็นรู้สึกเลย ..พระจันทร์มีไว้ทำอะไรล่ะ
พระจันทร ์ : ฉันยิ่งใหญ่มากถ้าเทียบกับกระจกเล็ก ๆ อย่างเธอ ..
ฉันสามารถสั่งให้ดาวส่องแสงหรือจากหายไปจากท้องฟ้าได้
กระจกน้ำ : แล้วเธอจะทำให้ดาวดับๆ หายๆ ไปเพื่ออะไร
พระจันทร์ : บางทีก็ไม่มีเหตุผลอะไรมากมายหรอก ฉันทำเพราะฉัน
ต้องการให้คนอื่นได้รู้ว่าฉันยิ่งใหญ่
กระจกน้ำ : เธอจะยิ่งใหญ่ไปทำไมกัน เธอน่ะตัวเล็กมากนะ เมื่อมองจากโลกของฉัน
และสำหรับฉัน เธอก็มีค่าน้อยกว่าดวงดาวอีก
พระจันทร ์ : เธอช่างโง่เขลา .. ฉันน่ะใหญ่โตมากหากจะเทียบกับดวงดาวดวงอื่นๆ
บนท้องฟ้า (พระจันทร์รู้สึกโกรธ)
กระจกน้ำ : รู้มั้ย ฉันสามารถบรรจุตัวเธอไว้ได้ทั้งหมดในแอ่งน้ำของฉัน
แล้วอย่างนี้เธอจะยิ่งใหญ่ได้ยังไง
พระจันทร ์ : เธอพูดจาไร้สาระมาก ใครจะสามารถกักขังพระจันทร์อย่างฉันได้
ฉันไม่เชื่อเธอหรอก
กระจกน้ำ : ก็ตามใจเธอ ฉันไม่จำเป็นต้องบังคับให้เธอเชื่อ
พระจันทร์ : บอกฉันหน่อย ทำไมเธอคิดว่าดวงดาวถึงมีค่ามากกว่าฉัน
กระจกน้ำ : ฉันสามารถบรรจุได้แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างเธอเท่านั้น
แต่ฉันไม่สามารถเก็บดวงดาวเล็ก ๆ มาไว้กับตัวได้
นั้นทำให้ฉันหลงรักมันมากขึ้นทุกวัน
เธอรู้มั้ยไม่ว่าฉันจะรักดวงดาวมากแค่ไหน ฉันก็คงทำได้แค่มอง
พระจันทร์ : เธอพูดจาไม่รู้เรื่องอีกแล้ว ถ้าเธอหลงรักดวงดาวนัก
คืนนี้ฉันจะแกล้งเธอ ฉันจะส่องแสงให้สว่าง
และเธอจะไม่สามารถเห็นดวงดาว
กระจกน้ำ : เธอยิ่งใหญ่ เอาแต่ใจ ไม่มีเหตุผล ฉันไม่ชอบเธอเลยจริงๆ
พระจันทร์ : เหตุผลของคนเราไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ..
ฉันไม่ได้เรียกร้องให้เธอเข้าใจฉัน
กระจกน้ำ : ฉันไม่อยากคุยกับเธอแล้ว เธอคงไม่รู้หรอกว่า ถึงแม้ว่าฉันจะมอง
ไม่เห็นดวงดาว แต่ฉันก็รู้เสมอว่าดวงดาวยังคงอยู่ที่เดิม
และอยู่ตรงนั้นเสมอสำหรับฉัน