เวลามีเลือดออกตามซอกเหงือกหรือตามไรฟัน เรามักจะคิดว่าขาดวิตามินซี เพราะเรียนสุขศึกษามาตั้งแต่สมัยประถม คงจำกันได้อาการสำคัญของการขาดวิตามินซีคือ เลือดออกตามไรฟันแต่จริงๆ แล้ว บ้านเราเป็นเมืองที่มีผลไม้ ผักตลอดทั้งปีโอกาสขาดวิตามินซีถึงขนาดทำให้เลือดออกตามเหงือก ซอกฟันนั้นมีน้อยมาก แต่ที่เราพบบ่อยๆ และมักมองข้ามไป คือ การที่มีเหงือกอักเสบ ทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
- เวลาแปรงฟัน แล้วมีเลือดติดที่ขนแปรง
- เวลาบ้วนยาสีฟัน ซึ่งเป็นฟองสีขาว แต่มีเลือดผสมออกมาด้วย
อันนี้ละเป็นสัญญาณของเหงือกอักเสบเริ่มขึ้นแล้ว แต่ถ้าสังเกตให้ละเอียด เอากระจกมาส่องดู...
เหงือกที่สุขภาพดี จะมีสีชมพู ขอบคมเรียบ ถ้ามีอาการอักเสบจะเห็นเป็นสีแดง นูนขึ้น บวมเป็นรอยหยักไม่เรียบ ถูกอะไรเสียดสีเลือดจะซึมออกง่าย เช่น แปรงฟัน รับประทานอาหารกรอบๆ แข็งๆ หรือใช้ไม้จิ้มฟัน ถ้าเป็นแบบนี้ต้องรีบพบทันตแพทย์
ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ ก็คือ เศษอาหารที่เรารับประทานเข้าไป แล้วทำความสะอาดไม่หมด ตกค้างอยู่เกาะตามร่องฟัน ซอกเหงือก ขอบเหงือก เศษอาหารเหล่านี้เกาะ ในลักษณะของคราบฟันเหนียวๆ มีอาหารที่ไหนแบคทีเรียก็ตามมา ก็เกิดการอักเสบเกิดขึ้น ดังนั้นถ้าจะไม่ให้เหงือกอักเสบก็ต้องลดคราบอาหารอย่าให้เกาะติดฟัน
วิธีพื้นฐานที่ใช้อยู่คือ
- แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ
- ใช้ไหมขัดซอกฟัน
- ใช้น้ำยาบ้วนปาก
ไม่เพียงเท่านี้อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องให้การดูแลอย่างดี คือ เรื่องหินปูนที่เกาะตามตัวฟัน หินปูนมาจากไหน มาจากน้ำดื่ม อาหาร น้ำลาย ตกตะกอนผสมกับคราบอาหารที่แปรงไม่หมดเกาะแน่นตามตัวฟัน ถ้าไม่เคยขูดทำความสะอาดมันก็เกาะหนาและลงลึกมากขึ้น ไปอยู่ใต้เหงือกเป็นช่อง เป็นกระเป๋า ยิ่งทำให้แบคทีเรียเข้าไปหลบซ่อนง่าย และอันตรายต่อกระดูกรองรับรากฟัน ซึ่งจะค่อยๆ ละลายตัว มีผลทำให้ฟันโยกคลอนถึงกับหลุดไปเลยก็มี
โรคเหงือกอักเสบ เป็นโรคที่ค่อยเป็นค่อยไปจนทำให้เราใจเย็น ผัดผ่อนการไปพบทันตแพทย์ พอไปพบก็มีอาการลุกลามมากแล้ว การรักษาก็ทำได้ยากและใช้เวลานานกว่าจะหาย
ถ้ามองถึงวิธีรักษาโรคเหงือกอักเสบ ควรให้น้ำหนักที่การป้องกันไม่ให้เกิดโรคดีที่สุด
- อย่าให้เศษอาหารติดที่ตัวฟันและเหงือก
- หลังอาหาร แปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน
- เลี่ยงอาหารเหนียว แป้ง อาหารหวาน
- สำคัญที่สุดถึงฟันยังไม่มีอาการปวดเจ็บก็ควรไปพบทันตแพทย์ตรวจ ทุกๆ 6 เดือน และ
ขูดหินปูนทำความสะอาดด้วย
ครั้งสุดท้ายที่คุณไปพบทันตแพทย์นานมาแล้วหรือยัง?
- เวลาแปรงฟัน แล้วมีเลือดติดที่ขนแปรง
- เวลาบ้วนยาสีฟัน ซึ่งเป็นฟองสีขาว แต่มีเลือดผสมออกมาด้วย
อันนี้ละเป็นสัญญาณของเหงือกอักเสบเริ่มขึ้นแล้ว แต่ถ้าสังเกตให้ละเอียด เอากระจกมาส่องดู...
เหงือกที่สุขภาพดี จะมีสีชมพู ขอบคมเรียบ ถ้ามีอาการอักเสบจะเห็นเป็นสีแดง นูนขึ้น บวมเป็นรอยหยักไม่เรียบ ถูกอะไรเสียดสีเลือดจะซึมออกง่าย เช่น แปรงฟัน รับประทานอาหารกรอบๆ แข็งๆ หรือใช้ไม้จิ้มฟัน ถ้าเป็นแบบนี้ต้องรีบพบทันตแพทย์
ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ ก็คือ เศษอาหารที่เรารับประทานเข้าไป แล้วทำความสะอาดไม่หมด ตกค้างอยู่เกาะตามร่องฟัน ซอกเหงือก ขอบเหงือก เศษอาหารเหล่านี้เกาะ ในลักษณะของคราบฟันเหนียวๆ มีอาหารที่ไหนแบคทีเรียก็ตามมา ก็เกิดการอักเสบเกิดขึ้น ดังนั้นถ้าจะไม่ให้เหงือกอักเสบก็ต้องลดคราบอาหารอย่าให้เกาะติดฟัน
วิธีพื้นฐานที่ใช้อยู่คือ
- แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ
- ใช้ไหมขัดซอกฟัน
- ใช้น้ำยาบ้วนปาก
ไม่เพียงเท่านี้อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องให้การดูแลอย่างดี คือ เรื่องหินปูนที่เกาะตามตัวฟัน หินปูนมาจากไหน มาจากน้ำดื่ม อาหาร น้ำลาย ตกตะกอนผสมกับคราบอาหารที่แปรงไม่หมดเกาะแน่นตามตัวฟัน ถ้าไม่เคยขูดทำความสะอาดมันก็เกาะหนาและลงลึกมากขึ้น ไปอยู่ใต้เหงือกเป็นช่อง เป็นกระเป๋า ยิ่งทำให้แบคทีเรียเข้าไปหลบซ่อนง่าย และอันตรายต่อกระดูกรองรับรากฟัน ซึ่งจะค่อยๆ ละลายตัว มีผลทำให้ฟันโยกคลอนถึงกับหลุดไปเลยก็มี
โรคเหงือกอักเสบ เป็นโรคที่ค่อยเป็นค่อยไปจนทำให้เราใจเย็น ผัดผ่อนการไปพบทันตแพทย์ พอไปพบก็มีอาการลุกลามมากแล้ว การรักษาก็ทำได้ยากและใช้เวลานานกว่าจะหาย
ถ้ามองถึงวิธีรักษาโรคเหงือกอักเสบ ควรให้น้ำหนักที่การป้องกันไม่ให้เกิดโรคดีที่สุด
- อย่าให้เศษอาหารติดที่ตัวฟันและเหงือก
- หลังอาหาร แปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน
- เลี่ยงอาหารเหนียว แป้ง อาหารหวาน
- สำคัญที่สุดถึงฟันยังไม่มีอาการปวดเจ็บก็ควรไปพบทันตแพทย์ตรวจ ทุกๆ 6 เดือน และ
ขูดหินปูนทำความสะอาดด้วย
ครั้งสุดท้ายที่คุณไปพบทันตแพทย์นานมาแล้วหรือยัง?